รอง ผบช.ภ.2 ควงผู้การฯชลบุรี แถลงจับ 2 โจ๋วิ่งราวกระเป๋านักท่องเที่ยวรัสเซีย ตามรวบได้ภายใน 24 ชม. สองคู่รักนักท่องเที่ยวมอบกระเช้าขอบคุณ

วันที่ 3 มี.ค.66 พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา และกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ร่วมแถลงผลการปฏิบัติงานการจับกุมคนร้ายก่อเหตุต่อทรัพย์นักท่องเที่ยวในเมืองพัทยาได้ภายใน 24 ชม.

โดยสามารถจับกุมนายพิทักษ์ หรือฟรอยด์ ด้วงสวัสดิ์ อายุ 23 ปี และนายพีรยุทธ หรือใหญ่ หลวงอินทร์ อายุ 22 ปี พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีเทา ทะเบียน 8กพ-2472 กทม. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิ๊ก 125 ไอ สีแดง ทะเบียน จพฉ-969 ชลบุรี โทรศัพท์มือถือไอโฟน11 สีชมพู จำนวน 1 เครื่อง และกระเป๋าสะพายยี่ห้อ BAMEICIACA สีดำ จำนวน 1 ใบ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 20.30 น. สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ในซอยนาเกลือ 18/1 ถนนนาเกลือ หมู่ 5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงได้ไปทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและทำการสืบสวนสอบสวนพบผู้เสียหายทราบชื่อต่อมาว่า Mrs.Larisa Sobolevskaia  (นางลาริซ่า โซโบเลฟสกี้) อายุ 48 ปี สัญชาติรัสเซีย

จากการซักถามได้ความว่า หลังจากที่ผู้เสียหายเข้าไปซื้อสินค้าภายในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น บริเวณปากซอยนาเกลือ 18/1 ได้เดินกลับที่พักเข้าไปภายในซอยนาเกลือ 18/1 ระหว่างนั้นได้มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาคนละคันตามมาด้านหลัง จากนั้นคนร้าย 1 คน ได้กระชากกระเป๋าของผู้เสียหาย

ภายในมีทรัพย์สิน เช่น โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ iPhone 11 จำนวนหนึ่งเครื่อง ราคาประมาณ 35,000 บาท เงินสดจำนวน 3,000 บาท และเงินสกุลรัสเซียอีกจำนวนหนึ่งแล้วหลบหนีไป โดยมีคนร้ายอีกหนึ่งคนขับขี่รถจักรยานยนต์ประกบคอยคุ้มกัน หลังเกิดเหตุขับขี่หลบหนีไปทางท้ายซอยนาเกลือ 18/1 เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปทางซอยนาเกลือ 20

ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ. เมืองพัทยา ได้ลงพื้นที่ สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี ปรากฎว่าพบคนร้ายมีตำหนิรูปพรรณและยานพาหนะตรงตามที่ผู้เสียหายได้ให้การไว้ เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดระยะทางที่คนร้ายได้หลบหนี

ปรากฏว่ามีความสอดคล้องต้องกันและเชื่อมโยงพยานหลักฐานอย่างไม่ขาดตอน ตลอดระยะทางตั้งแต่จุดเกิดเหตุประมาณ 4.5 กิโลเมตร ใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง กระทั่งพบรถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุจอดอยู่ที่ร้านส่งพัสดุแห่งหนึ่ง ซอยวัดสว่างฟ้า3  ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

สืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายพิทักษ์หรือฟรอยด์ จึงได้วางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์กระทั่งพบตัวและได้แสดงตัวเป็นเจ้าที่ตำรวจขอทำการตรวจค้นและทำการสอบสวนนายพิทักษ์หรือฟรอยด์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุกระชากกระเป๋าของผู้เสียหายชาวต่างชาติภายในซอยนาเกลือ 18/1 ที่ผ่านมาจริง

จากนั้นได้นำตรวจค้นพบทรัพย์สินของผู้เสียหาย คือโทรศัพท์ไอโฟน11 สีชมพู จำนวน 1 เครื่อง ห่อหุ้มด้วยผ้าขนหนูสีน้ำเงินและห่อด้วยถุงหูหิ้วอยู่ในกระเป๋าเสื้อของนายพิทักษ์

จากการขยายผล  นายพิทักษ์หรือฟรอยด์ ให้การว่าได้ร่วมกับนายพีรยุทธหรือใหญ่ ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์กรณีดังกล่าวข้างต้น ก่อนนำเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวนายพีรยุทธ พร้อมด้วยยึดของกลางกระเป๋าสะพายของผู้เสียหาย ได้ในเวลาต่อมา

ทั้งสองให้การรับว่าได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ครั้งนี้เป็นครั้งแรก เนื่องจากต้องการเงินไปใช้หนี้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ ซึ่งจะได้ส่งดำเนินคดี โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ก่อนจะได้ทำการขยายผลต่อไป

ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า หลังเสร็จสิ้นพิธีการแถลงข่าวผลการปฏิบัติงาน คู่รักนักท่องเที่ยวผู้เสียหาย Mrs.Larisa Sobolevskaia พร้อมสามี ได้นำกระเช้ามามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถปฏิบัติงานจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็วไม่ถึง 24 ชม. ด้วยบรรยากาศที่ชื่นมื่นเป็นอย่างมาก

Related posts