“สื่อมวลชนสัญจร”เชียงราย/เชียงใหม่ แหล่งท่องเที่ยวอาร์มี่แลนด์.

               สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก(สง.ทท.ทบ) นำโดย พลโท พิชญ์ โชติสุต ผู้อำนวยการฯ พร้อมกับ พ.อ.โยธิน ชัยมงคล พ.อ.หญิงพรหมพร พาราษฎร นำ”สื่อมวลชนสัญจร”เข้าเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวกองทัพบก(อาร์มี่แลนด์) สถานที่ในค่ายทหารบก ให้รองรับนักท่องเที่ยวทุกระดับชั้น ที่ต้องการเข้าไปท่องเที่ยวในเขตทหาร ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ทฤษฏีเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ และ เป็นศูนย์การเรียนรู้”ทหารพันธุ์ดี”ของแต่ละค่ายทั่วประเทศ การเดินทางครั้งนี้จุดหมายอยู่ที่ฐานปฏิบัติการกองกำลังผาเมือง ดอยช้างมูบ บนเทือกเขาสูงตะเข็บรอยต่อชายแดนสองแผ่นดินไทย/เมียนม่าร์ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานปฏิบัติการแห่งนี้ เป็นการสะกัดกั้นบรรดานักค้ายาเสพติด ใช้เส้นทางสายนี้ขนส่งยาเสพติด และเป็นการป้องกันประเทศ ตามแนวตะเข็บชายแดน ที่เวิ้งว้างกว้างไกล

              จุดนัดหมายที่สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต เช้ามืดวันหนึ่งการเดินทางยาวไกลสิบกว่าชั่วโมง ได้ทานข้าวกล่องอาหารเช้าบนรถโค้ชปรับอากาศของกองทัพบก เราแวะทานข้าวกลางวัน ที่ร้านอาหารลมเย็น อุตรดิตถ์ ก่อนจะเดินทางไปยังจังหวัดเชียงราย แล้วเข้าพักที่โรงแรมเอ็ม บูทีค รีสอร์ท รับประทานอาหารค่ำที่ห้องอาหารโรงแรม แล้วแยกย้ายกันเข้าที่พักตามอัธยาศัย เพื่อพักผ่อน

             รุ่งเช้าทานอาหารที่โรงแรมเสร็จ พวกเราออกเดินทางเพื่อขึ้นไปยังดอยตุงอันเป็นที่ตั้งของพระตำหนักสมเด็จย่า ในอดีตเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน บนดอยตุง ถูกตัดไม้ทำลายป่าทำไร่เลื่อนลอยกลายเป็นเขาหัวโล้นสุดลูกหูลูกตา  จนกระทั่ง”สมเด็จย่า”ทรงมีรับสั่ง”ฉันจะปลูกป่าบนดอยตุง” แล้วเขาหัวโล้นที่เรามองเห็นวันนั้นเมื่อสามสิบกว่าปี วันนี้ภาพเหล่านั้นมันหาย กลายเป็นป่าไม้เขียวขจีเต็มไปหมดบนดอยตุง ต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นเต็มไปหมด และ เป็นที่ปลูกกาแฟชั้นเลิศ เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ตามกระแสรับสั่งของ”สมเด็จย่า”เราจึงเห็นดอยตุงสวยงามเป็นป่าใหญ่คลุมพื้นที่บนดอยตุง ทุกตารางเมตรอย่างสวยงาม และ คงความมั่นคงต่อไป

             พวกเราเดินทางขึ้นมาถึงทางเข้าพระตำหนัก”สมเด็จย่า”ใช้เวลาอยู่จุดนี้ไม่นาน พวกเราเดินทางไปต่อเพื่อกราบสักการะพระธาตุดอยตุง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวเชียงราย พระธาตุดอยตุงเป็นพระธาตุคู่ พล.โทพิชญ์ โชติสุต ผอ.นำชาวคณะทำทักษิณาวัตรกับผ้าผืนใหญ่ เพื่อใช้ห่มพระธาตุดอยตุง เวียนครบสามรอบก็ทำการห่มจนสำเร็จ เมื่อเสร็จสิ้นจากการทำบุญแล้ว พวกเราเดินทางขึ้นไปดอยผามูบ เพื่อเยี่ยมชมและฟังผลรายงานภาคปฏิบัติที่สถานที่ถือว่าเป็นจุดชมวิวสวยงามที่น่าสนใจมาก เพราะเป็นจุดสูงสุด

             ฐานปฏิบัติการกองกำลังผาเมืองดอยช้างมูบ ตั้งอยู่บนพื้นที่สูง มีด่านตรวจตราอย่างเข้มงวด เพราะเป็นจุดยุทธศาสตร์ชาติ การระมัดระวังเป็นสิ่งที่ดี นักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปข้างบนนั้น ถ้าไม่ชำนาญเส้นทาง เพราะสูงชันคดเคี้ยวตลอดเส้นทาง กว่ารถยนต์ที่จะไต่ขึ้นไปบนฐานที่มั่น ต้องมีความพร้อมทุกอย่าง เพราะทางขึ้นมาบรรจบกัน เราเลือกขึ้นทางเดิมที่บ้านห้วยไคร้ มาตามเส้นทางของดอยตุง ผ่านพระตำหนักสมเด็จย่า มาถึงวัดพระธาตุดอยตุง แล้วมาถึงจุดสูงสุดที่ฐานปฏิบัติการกองกำลังผาเมือง ดอยช้างมูบ บนฐานแห่งนี้มองกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา อิ่มเอมกับธรรมชาติที่สีสันสดใสเขียวขจีตลอด บนฐานยังมีร้านกาแฟ ให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศวิวหลักล้าน อากาศบนนั้นเย็นสบายตลอดทั้งปี แต่วันนี้อากาศสบายๆ เดินบนฐานปฏิบัติการอยู่พักใหญ่ ฟังรายงานสถานการณ์ชายแดนเรียบร้อยแล้ว พวกเราอำลาจากฐานปฏิบัติการกองกำลังผาเมือง เพื่อมาชื่นชมกับบรรยากาศของหมู่บ้านผาฮี้ หมู่บ้านชาวอาข่าที่ยังอาศัยอยู่บนดอยแห่งนี้ หมู่บ้านผาฮี้โด่งดังเป็นหมู่บ้านสงบ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ โฮมสเตย์ แต่ทางขึ้นอาจยากเพราะสูงชันทางคดเคี้ยวช่วงสั้นๆ ต้องระมัดระวังเป็นอย่างดี เรามาถึงหมู่บ้านผาฮี้ ถึงจุดชมวิวที่แสนงดงามน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง

             เราออกเดินทางจากหมู่บ้านผาฮี้ จุดหมายปลายทาง จะไปทานอาหารกลางวันที่หมู่บ้านผาหมี ดินแดนของชาวอาข่า ซึ่งเป็นชนชาติพันธุ์เผ่าหนึ่งที่เคยครอบครองดินแดนดอยผาหมี เป็นจุดปลูกพืชยาเสพติดมาก่อน ที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ เปลี่ยนวิถีชีวิตของชนชาวเขาเผ่าอาข่าให้เลิกปลูกฝิ่น มาปลูกพืชเมืองหนาว โดยเฉพาะกาแฟ กลายเป็นดินแดนที่ปลูกกาแฟอันโด่งดัง ที่ทุกคนมักมาจิบกาแฟแล้วอิ่มเอมกับธรรมชาติอันสวยงาม เราลงมาถึงบ้านผาหมีราวบ่ายๆทานอาหารกลางวันเป็นอาหารของชาวอาข่า รสชาติอาหารพื้นถิ่นชาวดอยโดยตรง ทานกันเสร็จพวกเราออกเดินทาง เพื่อเยี่ยมชมอนุสาวรีย์จ่าแซม ที่สร้างเป็นอนุสรณ์ที่จ่าแซมสละชีวิตเพื่อช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่า อยู่ตรงหน้าศาลาเอนกประสงค์ หน้าปากทางเข้าถ้ำขุนน้ำนางนอน อันโด่งดัง ก่อนเยี่ยมชมถ่ายรูปหมู่ ฟังบรรยายสรุปกันเสร็จก็เข้าไปเยี่ยมชม ถ้ำขุนน้ำนางนอน ดอยนางนอน ที่อำเภอแม่สาย จนเวลาเย็นมากทางทีมงานเพิ่มโปรแกรมการท่องเที่ยว ด้วยการเดินทางไปเยี่ยมชม “สามเหลี่ยมทองคำ”ที่มีรอยต่อ 3 ประเทศไทย/ลาว/เมียนมาร์ ที่อำเภอเชียงแสน วันนี้แม้การท่องเที่ยวจะเปิดเพิ่มขึ้นมากแล้ว แต่เขียวแสน สามเหลี่ยมทองคำยังคงเงียบเหงาไม่คึกคัก จุดดึงดูดคือบ่อนกาสิโน ที่แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ที่คนจีนมาเช่าพื้นที่สร้างอาณาจักรอย่างใหญ่โต จนทำให้เชียงแสนเงียบเหงา ไม่คึกคักสักเท่าไหร่ เราออกเดินทางจากสามเหลี่ยมทองคำ เพื่อเข้าสู่อำเภอแม่จัน มาทานอาหารค่ำกันที่ร้านพนอ คอฟฟี่ เฮ้าส์ อาหารแสนอร่อยในรีสอร์ทแห่งนี้กับบรรยากาศร่มรื่น สระน้ำที่ดูชุ่มชื้นสบายตา รสชาติอาหารถูกปากทุกอย่าง เป็นอาหารภาคกลางที่คนภาคเหนือเป็นผู้ปรุงได้อร่อยมากมาย เราทานอาหารค่ำเสร็จก็ออกเดินทางกลับที่พักโรงแรมเอ็ม บูทีค รีสอร์ท เพื่อพักผ่อนเก็บแรงไว้ พรุ่งนี้เช้าจะไปกราบสักการะรอยพระบาทของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ในค่ายเม็งรายมหาราช

               ขอขอบคุณ พล.โทพิชญ์ โชติสุต ผอ.สง.ทท.ทย. พ.อ.โยธิน ชัยมงคล,พ.อ.พรหมพร พาราษฎรและ จ่ายุทธ ผ่านประสานงานของสำนักงานท่องเที่ยวกองทัพบก ที่คอยอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทางเดินตั้งแต่กรุงเทพถึงเชียงราย เรายังมีภารกิจที่จะต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์พรุ่งนี้อีกหนึ่งวัน.

Related posts