ครบรอบ 1 ปี “สถาบันพัฒนาเมืองและนโยบายสาธารณะ” (City Transformation & Public Policy Institute – CTPI)  จัดงานเสวนา “ก้าวต่อไปของการพัฒนาเมืองโดยการร่วมทุน ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน”

               สถาบันพัฒนาเมืองและนโยบายสาธารณะ (City Transformation & Public Policy Institute – CTPI) ได้รับทุนสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีบทบาทหน้าที่ในการรวบรวมและจัดการองค์ความรู้เพื่อการพัฒนาเมืองจากในประเทศและต่างประเทศอย่างเป็นระบบ พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้และสร้างกลไกเพื่อการพัฒนาเมือง พัฒนาบุคลากรที่มีความรู้และเข้าใจในการวางแผนเมืองและผังเมืองที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง พร้อมส่งเสริมให้เกิดกลไกการร่วมทุนและระดมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อให้การพัฒนาเมืองเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการใช้ความเชี่ยวชาญและนวัตกรรม เพื่อให้เกิดการร่วมลงทุนที่มีความโปร่งใส อย่างเป็นระบบและเป็นธรรม โอกาสนี้ สถาบันฯ ได้จัดงานครบรอบ 1 ปี นำเสนอผลงานที่ผ่านมาและก้าวถัดไปของ “สถาบันพัฒนาเมืองและนโยบายสาธารณะ”

คุณชยดิฐ หุตานุวัชร์
ประธานบริหาร สถาบันพัฒนาเมืองและนโยบายสาธารณะ (CTPI)

               คุณชยดิฐ หุตานุวัชร์ ประธานบริหาร สถาบันพัฒนาเมืองและนโยบายสาธารณะ (CTPI) กล่าวถึงบทบาทและผลงานที่ผ่านมาของสถาบันพัฒนาเมืองและนโยบายสาธารณะว่า ที่ผ่านมาทางสถาบันฯ มีบทบาทและได้ดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงแก่เมือง ด้วยการรวบรวมองค์ความรู้อย่างเป็นระบบจากทั้งคนในประเทศและต่างประเทศในหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน นักพัฒนาเมือง นักวิจัยพัฒนาเมือง ผู้นำท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้าน นำมาจัดระบบถอดองค์ความรู้เป็นห้องสมุดดิจิทัล และสร้างหลักสูตรนักพัฒนาเมือง ที่ปรึกษาเมือง และความรู้ทั่วไปที่ผูกพันกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ที่เกี่ยวกับการพัฒนาเมือง และหลังจากนี้ สถาบันฯ มุ่งหวังสร้าง คนเปลี่ยนเมือง” ผ่านการพัฒนาจากผู้เชี่ยวชาญในการถอดรหัสเมือง วางแผนเมืองและบริหารจัดการเพื่อสร้างการเปลี่ยนเมืองอย่างยั่งยืน ผ่านการเข้าร่วมอบรมหลักสูตรความรู้สำหรับนักพัฒนาเมือง พร้อมสร้างกลไกการร่วมทุน ระดมทุน แหล่งทุน ส่งเสริมการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม

              ล่าสุด CTPI ได้นำผลงานวิจัยมาปฏิบัติจริงในพื้นที่เขาใหญ่ ผ่านโครงการนำร่องเพื่อการพัฒนาทักษะอาชีพผู้สูงวัยในตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง ภายใต้โครงการอิ่มเอม ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่างภาครัฐ กล่าวคือเทศบาลตำบลหมูสี และภาคเอกชน The Creston Hill      

คุณจิณิณ ตระการสืบกุล ผู้ก่อตั้ง The Creston Hill

                               คุณจิณิณ ตระการสืบกุล ผู้ก่อตั้ง The Creston Hill เผยถึงบทบาทของเอกชนกับส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองว่า ตอนนี้เดอะเครสตัน ฮิลส์ ร่วมกับ บันยันทรีบนที่ดิน 27 ไร่ ที่เขาใหญ่ ซึ่งเดิมทีตนเองได้มอบที่ดินแปลงนี้แก่หลวงปู่ท่อน เพื่อทำสถานปฏิบัติธรรม แต่ท่านได้รับไว้และมอบคืนให้เพื่อให้ไปทำเอง ซึ่งโดยส่วนตัวไม่เข้าใจความหมายของท่านอยู่หลายปี จนกระทั่งได้ร่วมทุนกับคุณชยดิฐ และได้มีการชักชวนให้นำที่ดินแปลงดังกล่าวมาทำประโยชน์ให้กับสังคม โดยการนำแนวคิดเพื่อสังคมของบันยันทรี ที่แบ่งผลกำไรบางส่วนของธุรกิจมาจัดตั้งและสนับสนุนโรงเรียนอนุบาลที่ภูเก็ต โดยให้นักเรียนในพื้นที่ได้เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพโดยไม่มีค่าใช้จ่ายมานานกว่า 30 ปี ดังนั้น เมื่อบันยันทรีได้ยินในสิ่งที่เราตั้งใจจะทำ จึงชักชวนให้มาทำเป็นโครงการร่วมกันระหว่าง เดอะเครสตัน ฮิลส์ กับ บันยันทรี โดยสร้างเป็น Wellness Destination และ Mindfulness Garden บนพื้นที่ 27 ไร่ ชื่อว่า “Banyan Tree Veya Creston Hill Khaoyai” โดยจะจัดตั้งเป็น Social Enterprise เพื่อนำกำไรบางส่วนจากการดำเนินการของโครงการนี้ มาช่วยพัฒนาชุมชนในเขาใหญ่และพื้นที่อื่น ๆ

                สำหรับงานในวันนี้จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเผยแพร่ความรู้ผ่านกลไกการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่ทางสถาบันฯ เคยดำเนินการมา อาทิ City Talk,  City Seminar และ City Conference สู่สาธารณะพร้อมแผนในปีถัดไปเพื่อขยายผลในวงกว้างทั่วประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนและรับฟังความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญจากภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่มีความรู้ด้านการลงทุนและการระดมทุนเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนในอนาคต เพื่อรวบรวมองค์ความรู้ด้านกลไกการระดมทุนจากผู้เชี่ยวชาญและผู้ปฏิบัติจริง และเพื่อให้เกิดการเรียนรู้จากกรณีศึกษาการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อการพัฒนาเมือง

               ภายในงานมีการจัดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนในหัวข้อต่าง ๆ ได้แก่

                  หัวข้อ กลไกการสร้างองค์กรพัฒนาเมืองและการระดมทุน ผู้ร่วมเสวนา คุณปิยะณัฐ หอมวิเชียร นักวิชาการวิสาหกิจเพื่อสังคมชำนาญการ สำนักงานวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.), คุณพฤฒิพร เนติโพธิ์ อัยการอาวุโสและอดีตอธิบดีอัยการ สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย, คุณทศรรห์ บุรีชนะ ผู้เชี่ยวชาญด้าน Crowdfunding, TVA Institute เพื่ออภิปรายถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้งองค์กรพัฒนาเมืองผ่านการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน และกลไกของวิสาหกิจเพื่อสังคมสามารถเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองในแต่ละชุมชนได้อย่างยั่งยืน

                  หัวข้อ กลไกการพัฒนาแผนเมืองและผังเมือง ผู้ร่วมเสวนา ว่าที่ร้อยเอก ธีรพงศ์ ครุธดิลกานันท์ รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง, ผศ.ดร. สุธี อนันต์สุขสมศรี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ผศ.ดร. ณัฐพงศ์ พันธ์น้อย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, รศ.ดร. วิจิตรบุษบา มารมย์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ผศ.ดร. ฤทธิรงค์ จุทาพฤฒิกร คณบดี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

                      หัวข้อ “กรณีศึกษา โครงการร่วมมือภาครัฐ-เอกชน Pilot Projects” ผู้ร่วมเสวนา ขอนแก่นพัฒนาเมือง โดย คุณสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย เขาใหญ่พัฒนาเมือง โดย Stuart Reading, Senior Vice President จาก Banyan Tree Group, คุณจิณิณ ตระการสืบกุล ผู้ก่อตั้ง The Creston Hill, คุณคมเดช เช็กชื่นกุล รองนายกเทศมนตรีตำบลหมูสี, และผู้สูงวัยในหมูสี โดยในการนี้ ได้มีกรณีศึกษาโครงการพัฒนาเมืองในเขาใหญ่ผ่านความร่วมมือระหว่าง Banyan Tree Group และ Creston Hill Khaoyai เพื่อจัดตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคมพร้อมแบ่งปันผลกำไรจากการทำธุรกิจมาเพื่อพัฒนาพื้นที่และชุมชนในเขาใหญ่ พร้อมทั้งโครงการอิ่มเอมเพื่อผู้สูงวัยซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในเขาใหญ่ กล่าวคือเทศบาลตำบลหมูสีและ Creston Hill Khaoyai

               CTPI ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคน เพราะการพัฒนาคน ถือเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาประเทศ และคนยังเป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่ายิ่ง CTPI จึงมุ่งเน้นการพัฒนาเมืองที่มาจากชุมชน (City Development) ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ใหม่ โดยทำให้คนในพื้นที่เกิดการมีส่วนร่วมเกิดการระเบิดจากภายในตัวเอง โดยเริ่มจากในชุมชน ในหมู่บ้าน ในตำบล เป็นการเปลี่ยนแปลงประเทศจากจุดเล็ก ๆ ที่มีพลังที่ยิ่งใหญ่ และเมื่อพลังเล็ก ๆ เหล่านี้ได้ถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกันจากตำบลหนึ่ง สู่ตำบลหนึ่ง สร้างเครือข่ายที่แข็งแรง ขยายเชื่อมโยงไปจนถึงระดับอำเภอ จังหวัด ภูมิภาค และ ประเทศชาติในที่สุด เพราะทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเมืองและประเทศชาติของเราได้ คาดหวังว่างานเสวนาในวันนี้จะจุดประกายการเปลี่ยนแปลงให้กับทุกคนได้ลุกขึ้นมาสร้างบ้านเมือง ให้เจริญงอกงาม ภายใต้ความรัก ความสามัคคี และมีความสุขอย่างยั่งยืนต่อไป

Related posts