“แซค เอฟรอน” เปลี่ยนลุคคลุกทรายร้อนระอุ ใน “GOLD ทองกู“

              เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบและชื่นชมการแสดงของพระเอกฮอลลีวูด “แซค เอฟรอน” แต่พอมาเห็นลุคลุยทะเลทรายร้อนระอุก็ โอ้โห! เฮียทุ่มทุนทำตัวเองหมดหล่อ แต่ก็มีเสน่ห์อีกแบบ แล้วรู้เหตุผลที่แซค เอฟรอนยอมคลุกทรายจนมอมแมมเพราะเล่นภาพยนตร์เรื่อง Gold ที่ทาง มงคลเมเจอร์ ได้สิทธิ์จำหน่ายฉายในโรงภาพยนตร์ 28 เมษายน นี้

              โดยจะไปพูดคุยถึงการทำงานเรื่อง GOLD ของแซค เอฟรอน ที่ว่า

              Gold เป็นเรื่องราวของความยั่วยวน ความโลภของคนที่เราต่างมีไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพื่อไขว่คว้าสิ่งที่ต้องการมาครอบครอง ตัวละครของผมถลำลึก ฝ่าฟันสภาพอากาศที่เลวร้ายมาก เพียงเพื่อจะได้ครอบครองในสิ่งที่ตัวเขาคิดว่าต้องการ

              อะไรที่ทำให้คุณหลงใหลในหนังเรื่องนี้

              ตอนที่ผมอ่านบท ผมรู้สึกหลงใหลในความแตกต่างของหนัง มันแทบไม่มีบทสนทนาอยู่เลย แต่ผมตกหลุมรักมันอย่างจัง คอยจินตนาการถึงคนที่เราไม่ได้รู้จักเท่าไหร่นัก ที่ต้องตัดสินใจที่ซับซ้อนตลอดทั้งเรื่อง และต้องปรับตัวตลอดเวลาเพื่อเอาตัวรอด  มันทำให้ผมคิดถึงหนังคาวบอยเก่า ๆ เรื่องนึง มันมีความคลาสสิกแฝงอยู่ มันอาจไม่มีบทสนทนาเยอะนัก และเราไม่ได้รู้เรื่องราวภูมิหลังของตัวละครเท่าไหร่ ซึ่งเปิดให้ผู้คนตีความอย่างกว้างขวาง เป็นสิ่งที่ผมชอบมาก ๆ มันเป็นหนังที่ซับซ้อน และเฉลียวฉลาดมากในเวลาเดียวกัน

              ผมยังชอบเรื่องราวการเอาตัวรอด และความเรียบง่ายของการดูคน ๆ นึงพยายามขบคิดว่าจะใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติอย่างไรให้รอด ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้ ทำให้ผมสนใจหนังเรื่องนี้มาก ๆ ครับ

              พอจะบอกอะไรเกี่ยวกับตัวละครของคุณได้บ้าง

              เราแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย ค่อนข้างชัดเจนว่าเมื่อเขาเดินทางมาถึงที่นี่ เขาก็พยายามมองหาการเริ่มต้นใหม่ และเขาเดินทางไปยังที่ ๆ ห่างไกลและเข้าถึงไม่ได้ เพื่อจะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ทันทีที่เขาออกจากสถานีรถไฟ ในช่วงต้นของเรื่อง เขาก็อยู่ในหัวของตัวเองอย่างเดียว ผมไม่คิดว่าเขาเตรียมพร้อมมาเจอ เขาเป็นคนขี้อาย เราไม่รู้จริง ๆ ว่าเขามาจากไหน และเขาพยายามจะไปไหน แต่ชัดเจนว่าเขามีบาดแผลจากอดีต และถ้าเขาไม่กำลังพยายามหนีจากอดีต ก็กำลังอยากจะเริ่มต้นใหม่

              การถ่ายทำในช่วงฤดูร้อน กลางทะเลทรายของเซาธ์ออสเตรเลียเป็นอย่างไรบ้าง

              สุดจะเหลือเชื่อเลยครับ! ผมไม่เคยไปที่ไหนแบบนี้มาก่อน บอกตามตรงเลย ผมไม่รู้ว่าจะคาดหวังอะไร แต่มันสวยและน่าตื่นตะลึงแบบเหลือเชื่อจริง ๆ แต่ก็ยังว่างเปล่า แห้งแล้ง และโหดร้ายเหมือนกัน การถ่ายหนังในสถานที่ห่างไกลมักจะมาพร้อมกับความยากลำบาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีเรื่องง่าย ๆ เกิดขึ้นด้วย ถ้าตัดสินใจลงหลักปักฐานเมื่อไหร่ จะไม่มีทางติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอกได้เลยครับ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ด้วยซ้ำ ไม่มีไวไฟ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ผมชอบนะ เพราะมันได้ตัดขาดกับโลกภายนอกจริง ๆ เพื่อจะได้มีสมาธิกับงานที่ทำ มันสนุกจริง ๆ ครับ

องค์ประกอบต่าง ๆ ยังโหดไม่เบาด้วย ผมคิดว่านี่น่าจะเป็นหนังที่มีสภาพแวดล้อมการถ่ายทำที่หนักหนาสาหัสสุดเท่าที่ผมเคยมีส่วนร่วม มันร้อนทั้งวันทั้งคืน ดวงอาทิตย์แผดเผา พื้นทรายก็ร้อนมาก แต่ก็มีความท้าทายอื่น ๆ อีก เช่น เราเจอกับพายุทรายลูกใหญ่ ซึ่งโชคดีมาก ๆ ที่เราเก็บภาพเอามาใช้ในหนังเรื่องนี้ได้ การทำหนังเรื่องนี้ เราได้ทดสอบขีดความสามารถของตัวเอง มันผลักเราให้ไปสุดถึงลิมิต เราถ่ายทำท่ามกลางสภาพอากาศสุดโหดที่สุดที่ผมเคยเจอ และมันสุดยอดมาก ๆ เลยครับ!

              การร่วมงานกับ แอนโทนี่ เฮเยส และ ซูซี่ พอร์เตอร์ เป็นอย่างไรบ้าง

              แอนโทนี่ น่าอัศจรรย์มากครับ ผมปลื้มมาก ๆ ที่ได้ทำงานกับคนที่เขียนบทแล้วรู้ดีถึงสิ่งที่มีอยู่อย่างลึกซึ้ง และทุ่มเททุกอย่างในหนังเรื่องนี้ไปพร้อมกับทุก ๆ คน การดูเขาทำงานเป็นอะไรที่   เจ๋งมากครับ ผมได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก และเขายังให้แรงบันดาลใจผมเพื่อผลักดันตัวเองด้วย ไม่เพียงแค่เป็นนักแสดง แต่ยังคิดถึงว่าการเป็นคนเขียนบทและกำกับต้องเป็นอย่างไร การดูเขาแก้ปัญหาต่าง ๆ ขณะที่สวมชุดสวมวิญญาณตัวละครและกำกับหนังไปพร้อมกันถือว่าสนุกทีเดียวครับ ผมว่านี่น่าจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่เจ๋งมาก ๆ ของเขาเลย ซึ่งบ่งบอกอะไร ๆ ได้เยอะทีเดียวครับ

              ส่วนซูซี่ เป็นคนน่ารักและทำงานด้วยสนุกมากครับ ตัวละครที่เธอเล่น มีความน่าสนใจจริง ๆ เธอรับบทเป็น 2 ตัวละครที่พาหนังเรื่องนี้ไปในจุดที่ผมไม่ได้คาดคิดมาก่อน ไปสู่สถานที่ซึ่งสวยงามมาก ๆ ซูซี่คือมืออาชีพตัวจริง และผมคิดว่าบางที เธอพาตัวละครเดินทางไปไกลสุดเท่าที่เธอจะสามารถพาไปได้เลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ มันเลยสนุกมาก ๆ ครับที่ได้ดูเธอทำงาน และทำงานร่วมกับเธอ เธอเป็นคนที่น่ารักมาก ๆ นอกจอหนังเรื่องนี้ครับ

              คุณคาดหวังว่าคนดูจะได้อะไรกลับไปจากหนังเรื่องนี้

              ผมคิดว่าหนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในหนังเรื่องนี้ และผมหวังว่าคนดูจะสัมผัสได้คือธรรมชาติมีวิธีในการทวงคืน และปรับเปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่างในโลกนี้ให้กลับสู่สมดุล ถ้าเรายังปรารถนาในสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นมนุษย์ ทั้งเงินตรา อำนาจ และสิ่งต่าง ๆ สุดท้ายแล้วเราก็จะเป็นฝ่ายกอบโกยสิ่งต่าง ๆ จากโลกนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ

              ดังนั้น ผมหวังว่าเราจะได้เรียนรู้เพื่อเป็นหนึ่งเดียวกันกับโลกใบนี้ เป็นหนึ่งเดียวกันกับธรรมชาติ และใช้ชีวิตท่ามกลางสรรพสิ่งทั้งหมด แทนที่จะพยายามหยิบฉวยจากมันจนมากเกินไป สิ่งที่ผมหวังว่าคนดูจะได้เรียนรู้จากหนังเรื่องนี้ คือสิ่งที่ได้เรียนรู้จาก คนพื้นเมืองที่ออสเตรเลียจริง ๆ นั่นคือ…

              “ถ้าเรายังไม่หยุดท้าทายธรรมชาติ เพื่อความร่ำรวยมั่งคั่ง โลกทั้งใบก็จะเอาคืน สภาพแวดล้อมของโลกจะเอาคืน ผู้กระทำชำเราจะถูกกำจัด ทุกสิ่งทุกอย่างจะหมุนเวียนตามวัฏจักร แล้วกลับมายังจุดเดิม นี่คือคำทำนายของคนพื้นเมืองที่นี่ครับ”

            28 เมษายน ในโรงภาพยนตร์ เชิญพบบทบาทที่ท้าทายของแซค เอฟรอน ใน “GOLD ทองกู”

Related posts