ชาวบ้านกว่าพันคน​ เสื่อมศรัทธาสุดทน!​ ร้อง ป.ป.​ช. ตรวจสอบฯวัดดัง ผิดพระวินัยผิดคดีอาญา ผ่านมากว่า 7 ปี เรื่องเงียบ ล่าสุด​ กลองและฆ้องฯโบราณ​ ประจำวัดมูลค่ามหาศาล​หายไป

​​​     ณ สำนักงาน​คณะกรรมการ​ป้องกันและปราบปราม​การ​ทุจริต​แห่งชาติ​  (ป.ป.ช.)

วันที่ 15 มิถุนายน 2563 — สืบเนื่องจากปี พ. ศ. 2557 นายภูริพัฒน์ ดาลาดชัย กำนันตำบลโนนทัน อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู และไวยาวัจกร​ (อดีต​ นายกฯอบจ.)​ พร้อมชาวบ้านได้ร่วมกันตรวจสอบบัญชีเงินฝากของวัดถ้ำกลองเพล ธนาคารกรุงไทย สาขาหนองบัวลำภู ปรากฏว่า พระอธิการคำโพธิ์ ธนาคโม กับพวกรับสารภาพ ว่าได้ร่วมกันเบิกถอนเงินไปและมีการเบิกจ่ายไปซื้อที่ดินมูลค่าหนึ่งล้านบาท แต่ใส่ชื่อบุคคลอื่นเป็นเจ้าของที่ดิน(แทนที่จะใส่ชื่อเป็นทรัพย์สิน​ของวัดถ้ำกลองเพล)

ทั้งยังมีการเบิกจ่ายเงินไปซื้อรถยนต์ อีกสามแสนห้าหมื่นบาท และใส่ชื่อบุคคลอื่นเป็นเจ้าของรถยนต์​อีก แทนที่จะใส่ชื่อวัดถ้ำกลองเพล

รวมทั้งการเก็บตู้รับบริจาคเงินของวัด ไปนับเองและใช้จ่ายส่วนตัวฯ โดยไม่มีการตรวจสอบจากคณะกรรมการ ทั้งยังมีคดีการจับพระลูกวัดเสพยาเสพติดภายในวัดฯการขายวัตถุมงคลซึ่งกรณีวัดป่าเป็นเรื่องมิชอบฯ

รวมทั้งพฤติกรรมเจ้าอาวาสที่ไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ขาดสมณสารูปที่สมกับเป็นพระภิกษุ อาทิ ไม่ออกรับบิณฑบาต ไม่รับกิจนิมนต์จากชาวบ้าน ฯลฯ ส่งผลให้วัดถ้ำกลองเพลปัจจุบัน​มีพระเพียงรูปเดียว คือ เจ้าอาวาส  อาศัยอยู่กับแม่ชี 8 คน ทั้งที่เป็นวัดสายพระกรรมฐานของหลวงปู่ขาว อนาลโย ผู้ทรงศีลาจริยวัตรและปฏิปทา​ งดงาม และหลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต​ พระผู้ปฏิบัติ​ดีปฏิบัติ​ชอบฯ​  ซึ่งในอดีต ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พร้อมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จพระราชดำเนินฯถึง 13 ครั้ง และพระองค์​ท่าน​ได้พระราชทานที่ดินทำกินแก่ชาวบ้าน

โดยสมัยก่อนมีพระภิกษุ​สงฆ์​จำวัดอยู่กว่า​ 100  รูปสาธุชน​และชาวบ้านต่างเคารพนับถือ​ศรัทธา​และมาทำบุญที่วัดถ้ำกลองเพลแห่งนี้เป็นจำนวนมาก

แต่หลังจากหลวงปู่บุญเพ็งละสังขาร​มีการตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่ขึ้นมาซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของชาวบ้านฯอะไรๆก็เปลี่ยนไป จนปัจจุบัน วัดถ้ำกลองเพล​เกือบจะเป็นวัดร้าง​ อย่างไม่น่าเชื่อ ในที่สุดสาธุชน​และชาวบ้านจึงรวมตัวกันร้องเรียน​ถึงพฤติกรรม​ที่ไม่เหมาะสมของเจ้าอาวาส​ฯ

​     ต่อมา ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดหนองบัวลำภู ติดตามกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด หลังจากที่มีคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ผลปรากฏว่า เจ้าอาวาสวัดถ้ำกลองเพลกระทำการอันบกพร่องต่อหน้าที่เจ้าอาวาสหลายประการ และมีมติให้พักหน้าที่ เจ้าอาวาสวัดถ้ำกลองเพลและให้เจ้าอาวาสวัดพร้อมผู้เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่วัดภายใน 7 วัน และแต่งตั้งเจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู (ธรรมยุต) เป็นรักษาการเจัาอาวาสวัดถ้ำกลองเพล ซึ่งปัญหาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังใดๆ

​     ประเด็นสำคัญที่ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เรียกร้องความเป็นธรรมมานานนับสิบปี และชาวพุทธผู้มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาตั้งคำถาม คือ

กรณีการทุจริต ประพฤติมิชอบของพระอธิการคำโพธิ์ ธนาคโม และพวก รวมถึงการไม่ปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัย เป็นสิ่งที่ได้มีการตรวจสอบชัดเจนและสรุปผลไปตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2557 เหตุใดสงฆ์ฝ่ายปกครองสงฆ์​ (เจ้าคณะจังหวัด)​ จึงปล่อยให้ขบวนการดังกล่าวยังคงปักรากฐานอยู่ในวัดต่อไป

คนเดิมๆยังคงอยู่ไม่มีการดำเนินการให้เป็นรูปธรรมไม่มีการให้ชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมและตรวจสอบใดๆ สร้างความเสื่อมศรัทธาฯ มายาวนานกว่า 10 ปี

ปัจจุบัน​วัดถ้ำกลองเพล​ ซึ่งในอดีต​ มีพระจำพรรษาอยู่​ กว่าร้อยรูป​ ปัจจุบัน​เหลือพระอยู่ไม่กี่รูปและสภาพปัจจุบัน​ เกือบจะเป็นวัดร้างแล้ว เพราะชาวบ้านเสื่อมศรัทธา​ฯซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมากๆ

จากข้อมูลเอกสารที่ชาวบ้านได้พยายามร้องเรียนไปยังสงฆ์ฝ่ายปกครอง ทั้งเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะจังหวัด หนองบัวลำภูฯ แต่คณะสงฆ์ในระดับจังหวัดกลับนิ่งเฉย รับทราบปัญหาแต่ไม่มุ่งมั่นที่จะจัดการปัญหาให้กับชาวบ้าน​ แม้แต่การรับหนังสือร้องเรียนแต่​  เจ้าคณะจังหวัด​ฯกลับไม่ยอมเซ็นรับหนังสือ​ จากตัวแทนชาวบ้าน

ล่าสุดชาวบ้านจึงได้ร่วมกันยื่นหนังสือคัดค้านการแต่งตั้งเจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู (ธรรมยุต) เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดถ้ำกลองเพล

จากพฤติกรรมที่เอื้อต่อผู้กระทำความผิดตลอดหลายปีที่ผ่านมา และการนิ่งเฉยต่อการร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้คณะสงฆ์ได้มีการประชุมที่วัดถ้ำกลองเพล เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 โดยรักษาการเจ้าคณะภาค 8 (ธรรมยุต) กล่าวยอมรับว่า วัดถ้ำกลองเพลในอดีตมีคุณงามความดีสูงเสียดฟ้า เป็นที่ศรัทธาอย่างสูง แต่ในปัจจุบัน ต่ำเรี่ยดิน ไม่หลงเหลือความศรัทธา

ซึ่งเจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธา​ฯ ได้ขอให้ชาวบ้านและคณะศิษย์หลวงปู่บุญเพ็งได้อดทน ขอเวลาให้คณะสงฆ์ได้ ‘ล้างวัดให้สะอาด’ แต่จนถึงปัจจุบันเเป็นเวลากว่า​ ทศวรรษ ปรากฎว่า รักษาการเจ้าอาวาสไม่ได้ปฏิบัติตามมติสงฆ์แต่อย่างใด

โดยไม่มีการดำเนินการกับอดีตเจ้าอาวาส/พระและชีรวมถึงฆราวาสที่กระทำผิด ไม่มีการแจกแจงเงินในบัญชีวัดที่ปกปิดอย่างมีเงื่อนงำมาหลายปี จนชาวบ้านทนไม่ไหว ถึงกับพูดว่า

“นี่คือ วัด หรือ ซ่องโจร!”

    จึงเป็นที่มาของการมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม จากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ดำเนินการสอบสวนและดำเนินคดี​ ฯลฯ​ กรณีพระอธิการคำโพธิ์ ธนาคโม อดีตเจ้าอาวาสวัดถ้ำกลองเพล กับพวกและผู้​ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งมีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตและกระทำความผิดสำเร็จแล้วในหลายๆเรื่องมีหลักฐาน​ชัดเจน และเชื่อว่ามีผู้ที่อยู่ในขบวนการทุจริตคอรัปชั่นประพฤติมิชอบเป็นจำนวนมากที่เกี่ยวข้องและ​ มีผลประโยชน์​ฯร่วมกัน

จึงทำให้อดีตเจ้าอาวาสได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสอย่างเร่งรัดรวดเร็ว และยังครองผ้าเหลืองอยู่โดยไม่สะทกสะท้าน ท่ามกลางวิกฤตศรัทธาของชาวบ้าน และความสะเทือนใจของชาวพุทธทั่วประเทศ

    ทั้งนี้ นายภูริพัฒน์ ดาลาดชัย กำนันตำบลโนนทัน  และนายสมหมาย อัยแก้ว อดีตไวยาวัจกร วัดถ้ำกลองเพล เป็นผู้แทนชาวบ้านตำบลโนนทันฯ เข้ายื่นเอกสารหลักฐานร้องเรียน ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.​ 2563

ที่ผ่านมา เพื่อขอให้สอบสวนและดำเนินคดีฯการทุจริตประพฤติมิชอบของบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับกรณีวัดถ้ำกลองเพล ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนและอดีตเจ้าอาวาสได้รับสารภาพว่ากระทำผิดจริง แต่คณะสงฆ์ฝ่ายปกครองกลับไม่มีการดำเนินการใดๆ จนถึงปัจจุบัน

ล่าสุด​ กลองและฆ้องโบราณที่เป็นสมบัติล้ำค่าประจำวัดถ้ำกลองเพล​ ซึ่งมีอายุกว่าพันปี (มูลค่ามหาศาล) ก็อันตรธานหายไป​จากวัดแล้ว พอชาวบ้านรวมตัวกันสอบถามก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนใดๆ  กลับมีการนำกลองและฆ้องใหม่ซึ่งไม่ใช่ของเดิมที่มีคุณค่ามาทดแทน…

ใครสมควรต้องรับผิดชอบ

​     การเรียกร้องความเป็นธรรมและความโปร่งใสฯ ให้กลับมาสู่วัดถ้ำกลองเพล (วัดสายหลวงปู่มั่นฯ)​ ที่มีคุณค่าทางจิตใจของชาวพุทธทั่วประเทศและทั่วโลก

รวมทั้งโปรดพิจารณา​ฯกระบวนการบริหารของสงฆ์ฝ่ายปกครองในจังหวัดหนองบัวลำภู ในการดำเนินการด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม มีคุณธรรมจริยธรรมหรือไม่​

โดยทางกำนันภูริพัฒน์​  ดาลาดชัยและนาย​ สมหมาย​ อัยแก้ว​ อดีตนายก​ อบจ.และอดีต​ ไวยาวัจกรวัดถ้ำกลองเพล​ได้กล่าวในตอนท้าย​ ว่าทั้งสองคนมาด้วยความบริสุทธิ์​ใจ​ หลังจากที่เป็นตัวแทนชาวบ้านฯ

ในการร้องเรียนเรื่องดังกล่าว​นี้ก็ถูกกลั่นแกล้งฯสารพัด​..

จึงขอร้องให้​ ข้าราชการทุกภาคส่วน​ โดยเฉพาะ​ ส่วนที่เกี่ยวข้องและพุทธศาสนิกชนฯทั่วประเทศ​ไทย​ โปรดมาช่วยกัน​ “ปกป้องวัดถ้ำกลองเพล”  ให้กลับมาเป็นที่เคารพศรัทธา​ของชาวพุทธ​และชาวบ้านเหมือนเดิมให้ได้

ที่สำคัญ​ ณ​ วัดถ้ำกลองเพล​ แห่งนี้​ มีพระพุทธรูป​โบราณและสิ่งที่มีคุณค่ามหาศาลเป็นที่เคารพศรัทธา​มากมาย

ปัจจุบัน  ไม่เหมือนในอดีตแล้ว… ​ จึงขอให้ชาวพุทธ​ทั่วประเทศ​และทั่วโลกมาร่วมด้วยช่วยกัน…

การออกมาปกป้องวัดถ้ำกลองเพลในครั้งนี้ จึงเป็นสิ่งที่สังคมและพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ  กำลังให้ความสนใจอย่างยิ่ง และเป็นหน้าที่ของพุทธบริษัทสี่ ที่ต้องช่วยกันดูแลปกป้องพระพุทธศาสนาให้มีความมั่นคงสืบไป ตามพุทธดำรัสขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงฝากหน้าที่สำคัญนี้ให้ชาวพุทธทุกหมู่เหล่า ก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน

ศีลธรรมไม่กลับมาโลกาจะวินาศ #saveวัดถ้ำกลองเพล #saveพระพุทธศาสนา #saveหนองบัวลำภู

ขอบพระคุณที่ช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

กำนันภูริพัฒน์ ดาลาดชัย เบอร์โทรศัพท์ 091-052-5809

Related posts