ททท. ผสมผสานจุดเด่นของไทยสู่การจัด “เทศกาลอาหารถิ่น FIN งาน ART” 19 – 21 กรกฎาคมนี้ ที่แหลมแท่น บางแสน

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท.) จัดงาน “เทศกาลอาหารถิ่น FIN งาน ART” ในวันที่ 19 – 21 กรกฎาคม 2562 ณ แหลมแท่น หาดบางแสน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงกรีนซีซั่น (Green Season) ชูจุดเด่นของอาหารถิ่นคู่งานศิลปะพื้นบ้านร่วมสมัยนำเสนอในรูปแบบที่เร้าใจ พร้อมส่งความสุขสนุกสนานให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ

นางสุจิตรา จงชาณสิทโธ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า งาน“เทศกาลอาหารถิ่น FIN งาน ART” เป็นการจัดงานที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง ททท. ภาคเอกชน และชุมชน เพื่อสร้างกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงฤดูฝนให้มีความคึกคักในพื้นที่จัดงานและจังหวัดใกล้เคียง โดยการนำอาหารไทย ซึ่งได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักในระดับโลก เพราะมีเอกลักษณ์โดดเด่น ทั้งรสชาติและการใช้วัตถุดิบที่ผสมผสานกรรมวิธีการปรุงอันมีที่มาจากภูมิปัญญาชาวบ้าน อีกทั้งประเทศไทยยังมีงานศิลปะ ที่บอกเล่าเรื่องราวสะท้อนถึงวัฒนธรรม สังคม ธรรมชาติ และวิถีการดำรงชีวิต ซึ่งเป็นอัตลักษณ์เฉพาะที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดความน่าสนใจเพื่อเป็นการยกระดับความสำคัญของอาหารถิ่นและงานศิลปะ จนสามารถนำมาส่งเสริมการท่องเที่ยวของท้องถิ่นอีกทั้ง เป็นการกระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้นตามแนวนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล นำมาสู่การจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวในชุมชนได้อีกด้วย

สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจในงานเทศกาลอาหารถิ่น FIN งาน ART ในครั้งนี้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ได้เรียนรู้ ได้สนุกสนาน พบมุมมองใหม่ ๆ จากกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจถึง 5 โซนได้แก่

โซน “อร่อยเด็ดเมืองชล” เป็นโซนที่เน้นรวบรวมร้านอาหารที่ได้รับความนิยมทั้งจากในจังหวัดชลบุรี และจากการรีวิว จากเว็บไซต์หรือ Social Media ต่าง ๆ ถึง 60 ร้าน รับประกันความอร่อยและขึ้นชื่อ เช่น เรือนอาหารปะการัง, ก๋วยจั๊บ จรัสพัฒน์ สูตร 40 ปี, แจงลอน บางพระ, ขนมไทย แม่แตง เป็นต้น

 โซน “อาหารถิ่นกินทั่วไทย” เป็นโซนที่คัดสรรร้านอาหารที่ได้รับความนิยมจาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 60 ร้าน เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับรสชาติอาหารไทยจากทุกภูมิภาคในงานเดียว เช่น  ทอดมันหน่อกะลา จังหวัดนนทบุรี, ซาเตี๊ย ปลาทูสดมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร, ไข่ปลาตะเพียน ทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง, โวยวายคาแฟ่ จังหวัดพิษณุโลก, ข้าวแช่ แม่เล็ก สะกิดใจ จังหวัดเพชรบุรี,  หมี่กระโทก ป้าเปลื้อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น

 โซน “Farm to Table” ชิมอาหารและชมเชฟชื่อดังมาสร้างสรรค์เมนูอาหารพิเศษในงาน อีกทั้งยังสามารถนั่งรับประทานอาหารเป็นแบบ Counter โดยใช้วัตถุดิบในการประกอบอาหารจากฟาร์ม พร้อมทั้ง มีเส้นทางแนะนำการไปท่องเที่ยวชมฟาร์มอีกด้วย ทั้งนี้ เชฟที่มาร่วมกิจกรรมในโซนนี้  ได้แก่ เชฟบุ๊ค – บุญสมิทธิ์ พุกกะณะสุต พิธีกรรายการ Foodwork ที่ทุกคนชื่นชอบ, เชฟโป้ง ฐาปกรณ์ ชินะวาสี อดีตเชฟสถานฑูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ผู้สร้างสรรค์เมนูให้กับร้านอาหาร ตลอดจนแบรนด์สินค้าต่างๆ มากมาย รวมไปถึงรายการทางออนไลน์และทางโทรทัศน์, เชฟจากัวร์ “ธีรวีร์ ดิษยะไชยพงษ์” เจ้าของฉายา ข้าวแกงร้อยล้าน ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านอาหารในระดับ DNA  โดยเชฟทุกคนจะรังสรรค์เมนูอาหารด้วยผลผลิตสด ๆ จากฟาร์มที่มาร่วมงาน อาทิ โปรเฟสชั่นแนล ไฮโดร ฟาร์ม แหล่งผลิตผักสลัดหลากชนิดหลายสายพันธุ์ที่ขึ้นชื่อของอำเภอบางละมุง , บานาน่า ฟาร์ม จากจังหวัดกาญจนบุรี ที่ประสบความสำเร็จ ในวันนี้มีผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อหลากหลายที่ผลิตในรูปแบบของออร์แกนนิค และ ข้าวเม่าฟาร์ม ฟาร์มนา by คุณดาว เจ้าของแนวคิดแปลงผลผลิตจากนาให้เป็นเงินด้วยการแปรรูปให้เป็นข้าวเม่าจำหน่าย ซึ่งจะร่วมสร้างสีสันแห่งเมนูความอร่อยด้วยฝีมือเชฟชื่อดังในงานครั้งนี้

 โซน “ Art and Premium Craft ” เน้นการนำผลงาน Art and Premium Craft จากผู้ผลิตชื่อดังจากทั่วประเทศถึง 20 ร้าน มาร่วมแสดงผลงาน และจำหน่ายให้กับผู้สนใจ จะได้พบกับงานศิลปะที่โดดเด่นและแปลกใหม่ อาทิ ผ้าย้อมคราม จาก Jedsada Studio และ ฮูปแต้มสตูดิโอ จังหวัดสกลนคร และร้านฟ้าฮ่าม Indigo Shop, กระเป๋าผ้าจากร้าน BUA’sBAGs, ต้นไม้และเครื่องประดับจาก Gallery house ,  DIY เซรามิกส์ by ป้าบัว , ผลิตภัณฑ์จากไผ่ จากร้านใจไผ่ และร้าน Ficus, สวนขวดและแคทตัสจาก Cactusnaramon , Minimal Shop เจ้าของ ผลงานเซรามิคปั้นจิ๋ว เป็นต้น

 และ โซนการแสดง มีศิลปินนักร้องชื่อดังที่มาสร้างความสนุกสนานตั้งแต่เวลา 15.00 – 23.00 น. ตลอดการจัดงานมีการแสดง อาทิ จิมมี่ – เนปาล The Voice, ศิลปิน GTK, วง POTATO ,  Monik And Wanyai, วง Slot Machine,   ทอม อิศรา และ วง 25 Hours

นางสุจิตรา กล่าวในตอนท้ายว่า ททท. คาดการณ์การจัดงานฯ ในครั้งนี้ว่า จะมีเข้าร่วมชมงาน            ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ ไม่ต่ำกว่า 1ล้านคน และมีเงินสะพัดจากการท่องเที่ยวกิจกรรมนี้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ก่อให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1672 เพื่อนร่วมทาง

—————————————————

Related posts