“งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ” ครั้งที่ 30 แต่ละบูธหวังรายได้คืนมา

สกู๊ปพิเศษ โดย…ยอดเยาวพา

          เปิดเป็นวันที่สามแล้วสำหรับ “งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ” ครั้งที่ 30 (BOOK EXPO THAILAND 2025) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่  9 – 19 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 – 21.00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (ฮอลล์ 5 – 7 ชั้น LG) จากที่เดินเก็บภาพบรรยากาศในงานวันเสาร์คนหนาตามากแบบเบียดเสียดและเดินชนกันบางบูธ โดยเฉพาะบูธสำนักพิมพ์วายที่ได้พื้นที่มากขึ้นแต่ละครั้ง หนำซ้ำแต่ละบูธก็ทำโปสเตอร์นิยายมาอวดพาให้โดดเด่น สะดุดตาจนอดไม่ได้ที่จะแชะภาพมาฝาก พร้อมถามถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่แต่ละบูธต่างจดจำวันเกิดเหตุกันแม่น เพราะเป็นวันที่ทำให้รายได้หาย ครั้นมีโอกาสจึงขอสัมภาษณ์สำนักพิมพ์และร้านค้าที่ประสบเหตุการณ์วันนั้น พร้อมกับหวังว่ารายได้จะฟื้นกลับมาในงานนี้

เริ่มที่ แนน เจ้าของสำนักพิมพ์ NANA NARIS เผยว่า  “คาดหวังให้ขายดีขอให้คนมาซื้อหนังสือมากขึ้น จากที่เกิดแผ่นดินไหวก็อยู่ในเหตุการณ์วิ่งกันป่าราบ จากเหตุการณ์นั้นยอดก็หายนะ เพราะคนจะเดินเยอะวันเสาร์ อาทิตย์แรก ถ้าจำไม่ผิดเหตุการณ์มันเกิดวันศุกร์แล้ววันเสาร์ คนก็ยังกลัวกัน และบางคนก็ต่างต้องไปซ่อมแซมที่พักหรือบางคนก็ยังกลับเข้าบ้านไม่ได้เลยไม่ค่อยมีคนมาเดิน คืองานหนังสือคนจะเยอะเสาร์ อาทิตย์แรก แต่แผ่นดินไหวมันเกิดวันศุกร์ของสัปดาห์แรกที่จัดงานเลย งานวันนี้ก็หวังให้คนซื้อมากขึ้นค่ะ  ในวันที่ 15 ตุลาคม จะมีหนังสือเรื่อง อย่าบอกใครว่าฉันรักเธอ เข้ามา และก็เรื่อง พี่ไม่ชอบแต่แฟนพี่ชอบมาก ส่วนของ NanaNaRiS มีเรื่องใหม่ รามจะเริ่มแล้วนะยุ ค่ะ แวะมาที่บูธ B20 มีนิยายหลากหลายเลย มีทั้งของสำนักพิมพ์เอง สำนักพิมพ์เพื่อนบ้านและนักเขียนทำมือลดเยอะเลยค่ะ”

ด้าน  ลูกแพร content creator เล่าว่า   “ลูกแพร content creator ปีนี้เป็นปีที่ 5 ของสำนักพิมพ์ Biblio ที่มาเปิดบูธในงานหนังสือค่ะ หนังสือของเราคือแปลเป็นหลัก แต่ตอนนี้มีหนังสือไทยชื่อ “วิมานหนาม” นักเขียน คุณลาดิด เขาเป็นนักเขียนอยู่แล้วแล้วเป็นนักเขียนฝีมือดีด้วย หนังสือดัดแปลงมาจากภาพยนตร์  สำหรับนักอ่านรู้จักเราจะเป็นแนวแปลญี่ปุ่นค่ะ เช่น แม่มดหญิงผจญภัย แต่จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวคราวโน้นตอนแรกคิดว่าคิดไปเอง คิดว่าจัดหนังสือแล้วหน้ามืดหรือเปล่าแต่พอเงยหน้าขึ้นไปเห็นโคมไฟก็แกว่งตอนนั้นในฮอลล์ก็มีความวุ่นวายมาก ทุกคนก็ออกไปรวมตัวที่ด้านหน้า เหตุการณ์วันนั้นพอวันถัดมาจากแผ่นดินไหวก็ส่งผลกระทบค่ะ นักอ่านเองก็คงกลัว แม้ตัวทีมงานเองก็คงกลัวมันจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกมั้ย แต่ว่าถัดจากแผ่นดินไหวลูกค้าก็กลับมาเดินอีกครั้ง สำหรับงานนี้ก็คาดหวังว่าหนังสือที่ออกไปจะถูกใจลูกค้า เพราะเราออกเล่มใหม่เยอะมากถึง 15 ปก คาดหวังว่าทุกเล่มลูกค้าจะชอบทุกปกเลยค่ะ ขอฝากบูธ Biblio อยู่ที่ D16 ค่ะ”

มุก  อิงค์ทรีบุ๊ค  เผยว่า  “ถ้ามาออกงานเองไม่ได้ฝากใครปีนี้เป็นปีที่ 3 ค่ะ จริง ๆ รู้สึกว่าการจับจ่ายใช้สอยมันลดลงนะคะ แต่ว่าคนก็ยังสนใจในการอ่านหนังสืออยู่ถึงแม้ว่ายอดมันจะลดลง เพราะว่าอาจจะด้วยเศรษฐกิจหรือค่าผลิตที่สูงของหนังสือ แต่ก็คิดว่าคนยังรักการอ่านหนังสืออยู่ค่ะ ยังรักการอ่านแบบเล่มค่ะ ตอนที่มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวก็มาเปิดบูธค่ะ ตอนนั้นรู้สึกเป็นห่วงบูธเพราะว่าของเราจะอยู่ยังไงเพราะตอนนั้นน่ะ ตัวหนูคิดว่าน้ำตาลตกไม่คิดว่าแผ่นดินไหว แล้วก็คิดว่าตึกจะถล่มหรือเปล่า เพราะว่าในกรุงเทพไม่เคยเกิดแผ่นดินไหวที่มันไหวแรงขนาดนั้นค่ะ ตอนนั้นหนูได้บูธด้านหน้าก็เลยทิ้งบูธ เหตุการณ์วันนั้นทำให้ยอดขายลด ถ้าหนูจำไม่ผิดมันเป็นวันที่สองที่เปิดงานยอดกำลังขายดีเลย ช่วงบ่ายคนกำลังเดินทางมากลับกลายเป็นพอเกิดแผ่นดินไหวเราก็ขายต่อวันนั้นไม่ได้ วันถัดมาเป็นวันเสาร์จริง ๆ คิดว่ายอดควรจะได้มากกลับกลายเป็นยอดมันลดลงค่ะ ก็ขอฝากสำนักพิมพ์ อิงค์ทรีบุ๊ค ด้วยนะคะ เราคิดว่าตั้งแต่เริ่มทำสำนักพิมพ์มาส่วนใหญ่เป็นนิยายแปลกจีน ซึ่งเราพัฒนาตั้งแต่ภาษา และการออกเล่ม การออกแบบปกขึ้นมามาก คิดว่าพัฒนามากขึ้นอยากให้นักอ่านได้ติดตามค่ะ บูธเราอยู่ที่ C15 ค่ะ”

ฝ้าย YB BOOK ได้เล่าว่า  “YB BOOK บูธอยู่ C17 เรามาเปิดบูธในงานหนังสือ 5-6 ปีแล้ว ตอนที่มีเหตุแผ่นดินไหวเราก็มาเปิดบูธ ตอนแรกนึกว่าเป็นลม แต่พอหันไปมองคนอื่น แล้วพี่อีกคนนึงบอก เอ๊ะ ทำไมมันดูสั่นไหว เราก็อ้าวแผ่นดินไหว คือตอนแรกวิ่งออกไปไม่ได้ด้วยความที่คนเยอะก็เลยต้องหลบอยู่ในบูธจนเขาประกาศให้ออกก็อพยบออกกัน จริง ๆ ตอนแรกก็กลัวจะส่งผลกระทบกับยอดค่ะ แต่หลังจบงานก็ไม่ได้ขาดทุนอะไรมาก แต่ในความจริงแล้วรู้สึกเสียดายยอดขายหลังจากวันแผ่นดินไหวมีหยุดขายในวันที่เกิดเหตุแต่พอวันถัดมาก็เปิดตามปกติทว่าคนก็ยัง panic อยู่ งานครั้งนี้เราก็คาดหวังว่าจะมีคนเดินผ่านมาแล้วก็หยุดมองแล้วก็ซื้อไปสักเล่มสองเล่มก็ยังดีค่ะ แต่ก็จะดีถ้าซื้อหลาย ๆ เล่มเพราะว่ามันก็มีหนังสือน่าอ่านเยอะมาก แล้วก็มีหนังสือใหม่ด้วย ที่บูธจะเป็นนิยายวายไทยมีหลากหลายสไตล์ของหลากหลายนักเขียนค่ะ และบูธเราซื้อครบ 1000 พันก็จะได้รับโปสเตอร์ ขออนุญาตฝากบูธจะรวบรวมนิยายวายหลากหลายแนวของนักเขียนทำมือหลาย ๆ ท่านเลย ใครที่ชอบแนวไหนแวะมาเยี่ยมชมจับจ่ายใช้สอยได้นะคะ”

นอกจากหนังสือที่ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานของแต่ละบูธที่ขนมาหั่นราคากันแบบไม่ต้องการขนกลับ ในงานยังมีนักเขียนมาแจกลายเซ็นให้นักอ่านต่อแถวอีกหลายบูธ แม้แต่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็ไม่เคยพลาดออกหนังสือและมาแจกลายเซ็นเลยสักครั้ง

Related posts