หนังดีติดดาว***

แฟลตเกิร์ล ชั้นห่างระหว่าง เ ร า ” เปิดรอบปฐมทัศน์คึกคัก สะท้อนความเหลื่อมล้ำผ่านจอภาพยนตร์ ที่นำแสดงโดย เอินเอิน ฟาติมา เดชะวลีกุล และ แฟร์รี่ กิรณา พิพิธยากร พร้อมทีมนักแสดงคุณภาพ บอย ปกรณ์, อาโป วชิรากร รักษาสุวรรณ, จอยซ์ กรภัสสรณ์ และ น้ำฝน ภักดี กำกับโดย แคลร์ จิรัศยา วงษ์สุทิน และอำนวยการผลิตโดย เก้ง จิระ มะลิกุล และ วัน วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์

          หนังของ GDH ที่บอกเล่าเรื่องของชีวิตเหล่าครอบครัวตำรวจที่จะมี แฟลต ให้พักอาศัย รวมทั้งความรัก ความสัมพันธ์ของวัยรุ่นสาวที่เติมโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก เนื้อเรื่องมีการเล่าเรื่องที่ดีมาก เรียบง่าย แต่เข้าถึงวิถีชีวิตตัวแสดงหลาย ๆ คนได้พร้อมกัน มีฉากโรแมนติกชวนจั๊กจี้หัวใจ แบบ ญ รัก ญ ให้ได้อินกัน บทภาพยนตร์ทำออกมาได้ดีมาก ร้อยเรื่องได้ไหลลื่นทำให้เห็นวิถีชีวิตจริง ๆ และเหล่าตัวแสดงก็จะมีการกระทำผิดอยู่กับตัว ตีแผ่สภาพความจริงที่อยู่ใกล้สถานีตำรวจแท้ ๆ แต่ก็มีเหตุที่ผู้กระทำผิด ก็คือ คนในครอบครัวตำรวจกันนี้เอง แม้แต่สถานะการเงินที่ทำให้เกิดความเสื่อมโทรมภายในแฟลตตำรวจ ทั้งสภาพตึก สภาพสังคม ซึ่งถ้าดูแบบใส่ใจก็จะเห็นปัญหาต่าง ๆ เพราะเรื่องเงิน ฐานะ ที่ทำให้เกิดชั้น ‘ห่างระหว่างเรา’ ในส่วนของนักแสดงนำทุกคนถ่ายทอดอกมาได้ดีถึงบทบาท โดยเฉพาะ นางเอกทั้งคู่ + บอย ปกรณ์ ที่มาในบทตัวหลักของเรื่องเล่นได้ดีเด่นมากที่สุด ทั้งอบอุ่น ดูเป็นธรรมชาติ เป๊ะมาก ๆ จากที่ดูจบได้เห็นเส้นทางชีวิตของความเป็นจริงของแต่ละคนบนแฟลตต้องเดินไปตามสภาพการเงินมากกว่าความฝันที่อยากให้เป็น

          M STUDIO ปล่อยปีศาจว่อนจอยักษ์ “Devils Stay ปีศาจปรสิต” ผลงานสุดสยองของสตูดิโอผู้สร้าง Exhuma กับเรื่องราวของเด็กสาวที่กลายเป็นร่างพาหะของปีศาจ ผู้เป็นพ่อและบาทหลวงจึงต้องร่วมมือกันยับยั้งแผนการร้ายนี้ให้ได้ก่อนที่มันจะคืนชีพขึ้นมาภายใน 3 คืน!

          นี่คือ The Exorcist : Kimchi Edition ที่ผสมพิธีการไล่ผีแบบฝรั่งที่ใส่บริบทความรักความผูกพันในครอบครัวแบบเอเชียได้อย่างลงตัว เส้นเรื่องตัดสลับช่วงเวลาด้วยการนำพาคนดูให้คอยเก็บข้อมูลกันไปเรื่อย ๆ จนเข้าใจทุกอย่าง ส่วนความสยองขวัญในการไล่ผีเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องราว หนังเน้นดราม่าและความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัว ช่วงหนึ่งของเรื่องราวให้ตัวละครไปค้นหาความจริง หนังเปลี่ยนโทนเป็นระทึกขวัญอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่จะกลับเป็นดราม่าแบบหนักหน่วงในช่วงท้าย ในส่วนของตัวละครฝั่งบาทหลวงมีมิติน้อยกว่าตัวละครฝั่งครอบครัว จากที่น่าจะเป็นตัวละครหลัก ทำให้อีกฝั่งกลายเป็นตัวละครรองไปแทนซะนี่ สำหรับเส้นเรื่องมีเนือย ๆ และวนไปวนมาอยู่บ้าง แต่โดยรวมก็ดูสนุกประมาณนึงนะ

          วอร์เนอร์ บราเดอร์ส เชิญทุกคนพบกับภาพยนตร์ฮ่องกงแนวดราม่าอบอุ่นหัวใจ เรื่อง “The Last Dance – เดอะ ลาสต์ แดนซ์” ภาพยนตร์ที่สะท้อนมุมมองใหม่ของชีวิตและความตาย ที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการภาพยนตร์เอเชีย ผลงานกำกับสุดประณีตโดย ฉั่น เหม่า เหยี่ยน, อันเซล์ม การันตีคุณภาพด้วยทีมนักแสดงระดับตำนาน นำแสดงโดย ดาโย หว่อง และ ไมเคิล ฮุย พร้อมด้วย มิเชล ไหว่, แคทเธอรีน เชา และ ทอมมี จู

หนังเดินเรื่องผ่านตัวละครที่เป็นคนนอกที่เพิ่งจะก้าวเข้ามาในวงการงานศพที่ตนไม่รู้จักและไม่คุ้นเคยกับวิถีปฏิบัติและความเชื่อ จึงทำให้เกิดการปะทะกันทางความคิดและพฤติกรรมกับเหล่าตัวละครที่อยู่ในวงการมาก่อน  หนังใส่ดราม่าที่เพิ่มดีกรีความหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรักความสัมพันธ์ในครอบครัว ไปจนถึงวิธีปฏิบัติและชุดความเชื่อแบบจีนแบบฮ่องกงที่นำมาซึ่งอุปสรรคขวากหนามที่ตัวละครหลักและตัวละครรองต้องพบเจอมาให้เราได้ติดตามกัน  เส้นเรื่องเดินหน้าและหักไปหักมาเพื่อให้ได้เห็นถึงเรื่องราวของตัวละครทั้งหลาย ช่วงกลางที่คอนมาทางด้านหลังมีการดึงดราม่าจนผิดสังเกต ก่อนก่อนที่จะเอาดราม่านั้นมาขยี้ในช่วงท้ายและจบเรื่องราวได้อย่างน่าประทับใจ ถือเป็นหนังที่ดีทีเดียว

          “Companion – คอมแพเนียน”  โดย นิวไลน์ ซีเนม่า สตูดิโอผู้นำเสนอเรื่อง “The Notebook” และผู้สร้างเรื่องราวหลุดโลก “Barbarian” พาสัมผัสความรักแบบใหม่ เขียนบทฯ และกำกับฯ โดย “ดรูว์ แฮนค็อก” (“My Dead Ex,” “Suburgatory”) ที่นำแสดงโดย โซฟี แดตเชอร์,  แจ็ค เควด, ลูคัส เกจ, เมแกน ซูริ, ฮาร์วีย์ กิลเลน และรูเพิร์ท เฟรนด์

          น่าเสียดายที่หนังสปอยล์ตัวเองผ่านตัวอย่าง เพราะเมื่อมาดูจริง กว่าหนังจะเผยว่าตัวละครหลักไม่ใช่มนุษย์ ก็จบองก์แรกไปแล้ว  หนังมีตัวละครน้อยแต่ใช้งานทุกตัวได้อย่างคุ้มค้า ตัวละครหลักและรองมีเส้นเรื่องเป็นของตัวเอง โดยแต่ละตัวจะสลับกันเข้ามามีบทบาทในเรื่องราวที่เดินหน้าไปแบบหักไปหักมาให้ได้ตามลุ้นกันอย่างสนุกสนาน  แก่นแท้ของหนังคือการหยิบเอา toxic relationship มาตีความและเล่าในรูปแบบของ sci-fi / thriller / romance ที่ได้รสชาติแปลกใหม่ได้อย่างน่าสนใจ

           ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จัดรอบความสยองก่อนใครใน “พนอ” ของผู้กำกับ “พุฒิพงศ์  สายศรีแก้ว” นำแสดงโดย เฌอปราง อารีย์กุล, แจ๊คกี้-จักริน กังวานเกียรติชัย, น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์, มิ้ม-รัตนวดี วงค์ทอง, แบงค์-ณฐวัฒน์ ธนทวีประเสริฐ, เพอซ-นันทวรรณ พงศ์ประเสริฐสิน, ลูกหว้า-พิจิกา จิตตะปุตตะ, มัส-กฤชยศ เลิศประไพ, ต๊อบ-สหัสชัย ชุมรุม, สายฟ้า ตันธนา, วาม-จิรกิตติ์ สุวรรณภาพ

          เป็นหนังสยองขวัญ คนเล่นของ ที่ทำมาแนวย้อนยุคเล็กน้อย ในบรรยากาศย้อนอดีต ที่วิถีชีวิตของผู้คน มีหลายอย่างที่เป็นแบบปัจจุบันแล้ว ทำให้คนดูสัมผัสได้ถึงความใกล้ตัวมากขึ้น บรรยากาศการถ่ายทำออกมามีแสงสี ที่คล้ายหนังในอดีตชวนให้ดูลึกลับ น่ากลัว ยิ่งกว่าเดิมมาก ส่วนฉากการโดนของทำออกมาได้สยดสยองเหมือนจริงมาก ๆ มีความหลากหลายของวิธีการใช้ของ ซึ่งก็โหดร้าย รุนแรงมาก ทว่าฉากต่อสู้บางมุม บางฉาก กล้องไม่นิ่ง ภาพมีความสั่นระดับนึง คนดูอาจจะปวดตาและมึนเล็กน้อยได้  ในส่วนแต่ละตัวละครมีความเลวของระดับจิตใจที่สูง มีการกระทำตอบโต้กันไปมา นักแสดงนำทุกคนเล่นได้เยี่ยมมาก เข้าถึงอารมณ์ถ่ายทอด ความรู้สึกของตัวละครได้ค่อนข้างสมบูรณ์ มาที่บทภาพยนตร์ เนื้อเรื่องก็เรียบเรียงลำดับเรื่องราวอาจมีความซับซ้อน ระดับนึง แต่ก็ให้เข้าใจได้ไม่ยาก สำหรับตัวละครปริศนาที่บงการอยู่ พอเฉลยออกมาว่า…คือ ใคร ก็มีการอธิบายให้เข้าใจไม่ปล่อยให้ งง หรือ คิดไปเอง ทันที

          M STUDIO ส่งภาพยนตร์เรื่อง “Heretic บ้านสั่งตาย” ผลงานภาพยนตร์คุณภาพจากค่าย A24  พบการแสดงที่สยองที่สุดในชีวิตของ ฮิวจ์ แกรนท์ และ 2 นักแสดงสาวดาวรุ่ง โซฟี แทตเชอร์ (จาก The Boogeyman) และ โคลอี อีสต์ (จาก The Fabelmans)

          เป็นหนังที่ไปไกลเกินกว่าสิ่งที่ตัวอย่างปล่อยมาให้เห็น มันมีอะไรมากกว่าการจับเอาตัวละครมาอยู่ในพื้นที่จำกัดแล้วชิงไหวชิงพริบกันเพื่อเอาตัวรอด ด้วยเนื้อหามีประเด็นหนัก ๆ ที่ว่าด้วยความเชื่อทางศาสนาและศรัทธาด้วยการตั้งคำถามไปถึงจุดเริ่มต้น ที่มาที่ไป เหตุและผลของการมีอยู่ของศาสนาและศรัทธา โดยให้ตัวละครหลักสองตัวต้องมาเผชิญกับสถานการณ์ที่ทำให้ศรัทธาของทั้งคู่นั้นต้องสั่นคลอน  อาจจะมีช่วงเนือยๆ เอื่อย ๆ อยู่บ้าง มีความจงใจในการวางสถานการณ์ที่ดูไม่น่าเชื่อเข้ามา แต่ก็เข้าใจได้ว่ามันทำให้เรื่องเดินไปข้างหน้าได้ ถึงแม้การกระทำบางอย่างของตัวละครทั้ง 2 ฝั่งจะไม่สมเหตุสมผลก็ตาม ในเรื่องของการสร้างบรรยากาศความน่าไว้วางใจมีความทริลเลอร์ที่ดูสนุก ลุ้นระทึก แถมยังได้อาหารสมองกลับบ้านไปคิดต่อได้ด้วย

          Flight Risk ชื่อไทย “นรกยึดไฟลต์” ส่งหายนะโดย มงคลเมเจอร์ ที่ความสูง 10,000 ฟุต ครั้งนี้ มาร์ค วาห์ลเบิร์ก พลิกภาพลักษณ์สวมบทวายร้าย ร่วมด้วย มิเชลล์ ด็อกเคอรี, โทเฟอร์ เกรซ กำกับโดย  เมล กิ๊บสัน

มีพล็อตเรื่องง่าย ตัวละครน้อย พื้นที่จำกัด แต่ดูสนุกด้วยการตามลุ้นตัวละครที่ต้องแก้ไขสถานการณ์ที่พลิกผันไปเรื่อย ๆ สำหรับแอ็กชันมาในแบบมินิมอล แต่ทำถึง ด้วยการให้ตัวละครต้องเจ็บเนื้อเจ็บตัว เนื้อหาเพิ่มความสลับซับซ้อนและความไม่น่าไว้วางใจให้เรื่องราวด้วยการเพิ่มตัวละครที่มาแต่เสียงผ่านวิทยุและโทรศัพท์ว่า ‘ใครกันแน่ที่เป็นผู้ร้ายตัวจริง’  ซึ่งสรุปได้ว่า Flight Risk เป็นหนังเล็ก แต่ว่า ดาราไม่เล็กนะ แถมยังมีผู้กำกับเบอร์ใหญ่ ที่ทำหนังออกมาได้สนุกประมาณนึงด้วย ทำให้ดูแล้วมีอะไรให้ลุ้นตามได้ตลอดทั้งเรื่อง เชียร์ ๆ

The Room Next Door นำแสดงโดย ทิลดา สวินตัน, จูลีแอนน์ มัวร์, จอห์น เทอร์เทอร์โร, อเล็กซานโดร นีโวลา ผลงานกำกับโดย เปโดร อัลโมโดวาร์  ที่มาพร้อมเรื่องราวของ อิงกริด และ มาร์ธา ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เด็ก และได้ทำงานที่นิตยสารฉบับเดียวกัน อิงกริดกลายเป็นนักเขียนนวนิยาย ในขณะที่มาร์ธากลายเป็นนักข่าวสงคราม และพวกเธอก็ถูกแยกจากกันด้วยสถานการณ์ของชีวิต หลังจากขาดการติดต่อกันไปหลายปี พวกเธอได้กลับมาพบกันอีกครั้งในสถานการณ์สุดขั้ว แต่แสนหวานอย่างน่าประหลาด

ถือเป็นหนังชวนงง เดินเรื่องเร็ว และเหมาะสำหรับผู้ชมสายเฉพาะทาง ที่เล่าเรื่องแบบเฉพาะตัวจนหลายคนอาจต้องตั้งคำถามว่า ตัวเองกำลังดูอะไรอยู่ การดำเนินเรื่องมาในจังหวะที่รวดเร็ว ชนิดที่แทบไม่ให้เวลาให้ผู้ชมได้หายใจหรือตั้งตัว ตัวละครและเหตุการณ์ต่าง ๆ ถูกโยนใส่ผู้ชมอย่างต่อเนื่อง ราวกับผู้กำกับอยากเล่าเรื่องทั้งหมดในเวลาที่จำกัด  ซึ่งในแง่โครงเรื่องแม้จะมีจุดเริ่มต้นที่ดูน่าสนใจ แต่ก็กลายเป็นความซับซ้อนและความพยายามใส่ความลึกลับลงไปมากเกินทำให้เนื้อหาเต็มไปด้วยความคลุมเครือ จนดูแล้วต้องย้อนกลับไปคิดว่า “ฉันพลาดอะไรไปหรือเปล่า?” ฉากบางฉากถูกตัดต่อมาแบบรวบรัดจนขาดน้ำหนักของอารมณ์ ส่งผลให้การเชื่อมโยงความรู้สึกกับตัวละครเป็นเรื่องยาก ที่น่าสังเกตคือ “The Room Next Door” ดูเหมือนจะไม่ได้สร้างมาเพื่อคนดูวงกว้าง แต่เป็นงานที่มาเพื่อกลุ่มคนที่ชอบหนังแนวทดลอง หรืองานที่ท้าทายความเข้าใจทั่วไปของผู้ชม ด้วยบรรยากาศชวนอึดอัดและความลึกลับที่ไม่คลี่คลาย ทว่าอาจเป็นเสน่ห์สำหรับบางคน แต่อาจทำให้คนอีกจำนวนไม่น้อยรู้สึกหลุดจากเรื่องราวไปเลย

Related posts