หนังดีติดดาว ***

หนังดีติดตาว ***

            กลับมาสร้างความหลอนภาคใหม่ “The Nun II” กำกับโดย ไมเคิล ชาเวส (“The Conjuring: The Devil Made Me Do It”) ได้นักแสดงนำ อาทิ เทสซ่า ฟาร์ไมก้า (“The Nun,” “The Gilded Age”) ที่กลับมารับบทซิสเตอร์ไอรีน พร้อมด้วย โจนาส โบลเกต์, สตรอม รี้ด, แอนนา พอปเพิลเวล และบอนนี่ อารอนส์ (กลับมารับบทเดิมจาก “The Nun”)

              หนังภาคต่อที่คนดูควรดูภาคแรกมาก่อน เนื้อเรื่องต่อเนื่องกันเลย บรรยากาศในหนัง เปลี่ยนไปจากภาคแรก ที่ไปในที่เฉพาะ พื้นที่ปิด ชวนให้อึดอัด แต่มาภาคนี้ เป็นสถานที่ต่าง ๆมากมาย เป็นเมือง พื้นที่เปิดมากขึ้น ความอึดอัดลดน้อยลงไป แต่กลับให้ความรู้สึกใกล้ตัวมากขึ้น ปีศาจปรากฎตัวบ่อยขึ้น ชัดเจนขึ้น ตกใจมากขึ้น มาหลากหลายรูปแบบด้วย มิหน้ำซ้ำยังดุร้าย รุนแรงกว่าเดิม ฉากการไล่ล่า ฆ่ากัน เหมือนจริงมากกว่าภาคแรก มีตัวละครมากกว่าเดิมหลายเท่า ส่วนตัวละครเอกเล่นได้ดีกว่าเดิม ดูมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม นักแสดงเด็ก ๆ ก็เล่นได้ดีนะ ชวนให้ตกใจมากยิ่งขึ้น ด้วยเสียงกรี๊ดของสาวน่ารักวัยแรกรุ่น ซึ่งจุดเด่นของหนังฆ่าได้หลากหลายรูปแบบ จู่โจมได้ทุกทิศทาง ทำให้ดูน่ากลัวมากขึ้นกว่าภาคที่ผ่านมา แต่จุดด้อยของหนังดู imax ถ้าลำโพง แยกได้ไม่ชัดว่า เสียงทางไหน จะทำให้ความน่ากลัวลดลงพอควร

ติดให้ ****

000

              คำถามจากภาพยนตร์เรื่อง “The Nun II” : จักรวาลเดอะ คอนจูริง คือต้นกำเนิดของปีศาจแม่ชี เรื่องใดในจักรวาลเดอะ คอนจูริ่งหรือภาคใดที่ปีศาจแม่ชีปรากฎตัวเป็นครั้งแรก?

              เฉลยคำถามภาพยนตร์เรื่อง “Barbie” : มาร์โกต์ ร็อบบี้

              เฉลยคำถามจากภาพยนตร์เรื่อง “MEG 2” : เจสัน สตาแธม

              เฉลยคำถามจากภาพยนตร์เรื่อง “มอนโด รัก|โพสต์|ลบ|ลืม” : แอป เม-บอต’ (May-Bot)

ทราบคำตอบเขียนชื่อ นามสกุล ที่อยู่ คำตอบให้ชัดเจน ส่งไปรษณียบัตรมาที่

คอลัมน์ “หนังดีติดดาว” 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

ผู้ที่ตอบถูก 3 ท่าน จะได้รับของรางวัลจาก “วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส”

ขอบคุณสนับสนุนของรางวัลเล่มเกมทายปัญหา

000

              สำหรับ “แมนสรวง (Man Suang)” ไม่ได้รู้จักพีอาร์เลยไม่ได้หมายเชิญดู แต่ขอบคุณพี่โป้ง พีอาร์รุ่นเก๋าของค่ายโรงหนังให้ตั๋วมาดูพอบอกอยากดูแถมที่นั่งดีอย่างรู้ใจด้วย โดยหนังเรื่องแมนสรวงเป็นแนวดราม่า / สืบสวนสอบสวน ที่นำแสดงโดย ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์, ภาคภูมิ ร่มไทรทอง, อัศวภัทร พลพิบูลย์, ธนายุทธ ฐากูรอรรถยา กำกับโดย กฤษดา วิทยาขจรเดช, ชาติชาย เกษนัส, ผศ.ดร.พันพัสสา ธูปเทียน กับเรื่องราวที่ได้แรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์ไทย ย้อนอดีตไป 173 ปี ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 ปี พ.ศ. 2393 ที่เล่าถึงสถานที่ลับในการสังสรรค์ พบปะ เจรจาธุรกิจของผู้มีอำนาจ นักธุรกิจ พ่อค้าเชื้อสายจีน และชาวต่างชาติหลากหลายประเทศที่นัดกันมาต่อรองตกลงผลประโยชน์ต่าง ๆ ใน “แมนสรวง”

              เอาจริงที่อยากดูเพราะน้องคนหนึ่งมาชมแมนสรวงสนุก ซึ่งแต่ละฉากทำออกมาดีมาก สวยงาม อลังการ โดยเฉพาะในแมนสรวง ซึ่งหนังพาย้อนไปสมัยรัชกาลที่ 3 แม้เป็นเรื่องแต่งขึ้นก็วางเนื้อหาชวนติดตามพาดิ่งสู่อดีต ส่วนนักแสดงตัวเอกเปิดด้วยรำชุดรจนาเสี่ยงพวงมาลัยให้เจ้าเงาะ เมื่อถอดหน้าเจ้าเงาะก็เป็น ณัฐวิญญ์ ที่รับบท ‘เขม’ ฉากแรกโชว์หุ่นที่เข้ากับตัวบท เขมในบทไพร่ถูกเจ้านายทั้งหญิงชายกดขี่ด้วยการใช้เรือนร่างสนองตัณหา ฉากที่กล่าวไม่ได้หวือหวาแค่ให้รู้เท่านั้น โดยเขมถ่ายทอดอารมณ์ถูกรังแก กดขี่ออกมาดี นอกจากนักแสดงตัวเอกเล่นถึงบทบาทแล้วยังรำได้อ่อนช้อย อีกทั้งฉากเวที เสื้อผ้านักแสดงแต่ละคนก็ไม่มีหลุด สำหรับภาคภูมิที่สวมบท ฉัตร นักตีตะโพนในสรวงแม้ออกมาทีหลังก็เปิดตัวได้ดี ชื่อเรื่องแมนสรวงเป็นสถานที่ขายความบันเทิงที่ผู้ชายชอบมาแต่มีความลับซ่อนอยู่ เรื่องนี้มีฉากให้ขำตอนเขมชวนฉัตรชักว่าว (เราคิดไปไกลแล้ว) ก็ได้เห็นการละเล่นชักว่าว แล้วยังชวนให้อยากรู้ใครฆ่าเจ้าสัวของแมนสรวงและพ่อพระเอก ขอยินดีกับแมนสรวงที่กวาดรายได้อยู่ อีกทั้งชื่นชมนักแสดงทุกคนแม้หน้าใหม่กับหนังแต่เล่นได้ดีมาก แต่เสียดายไม่มีบทพระเอกกับนายเอกสื่ออารมณ์รักให้เห็นเลย

ติดให้ ****

000

              “Blue Beetle” ผลงานจากวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ที่จะนำซูเปอร์ฮีโร่ยุคแรกของดีซีสู่จอยักษ์ กำกับฯ โดย แองเจล มานูเอล โซโต นำแสดงโดย โซโล มารีฮวนญา (“Cobra Kai”) ผู้รับบท เจมี่ เรเยส ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ  

              หนังทำออกมาได้ดี ทีเซอร์ไม่หลอก เนื้อหาถ่ายทอดเรื่องราว ความรัก ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวเข้ามาในหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องนี้ได้ชัดเจนดีมาก ในส่วนของซูเปอร์ฮีโร่ตัวใหม่นาม Blue Beetle ชุดออกแนวคล้าย สไปเดอร์แมน ที่มีเกราะแข็ง ๆ มีอาวุธออกมาได้หลากหลาย ดูครบเครื่องดี ตื่นตาตื่นใจกับฉากต่อสู้ แต่ความโดดเด่นของฮีโร่มีลักษณะคล้ายแมลง บางทีก็ดูน่ากลัวไปหน่อย เพราะเล่นเจาะทะลุผิวหนังกันเลย แต่จุดเด่นของชุดน่าจะเป็นเหมือน AI ที่เป็นผู้ช่วยในการต่อสู้ถูกฝังในร่างกายพระเอกด้วย ซึ่งหนังทำฉากต่อสู้แนวเครื่องจักรแมลงได้สร้างสรรค์ดี มีไอเดีย แต่อาจจะบู๊ทำลายล้างไม่อลังการมากมายเท่าที่คิด เพราะหนังแนวฮีโร่ช่วยโลกคนชอบบู๊แอ็กชันมากกว่าเรื่องราว แต่เรื่องนี้ไม่ค่อยบู๊ล้างผลาญเท่าไหร่ แล้วเป็นที่แน่ชัดหนังต้องตบมุกตลกสอดแทรก แล้วปิดท้าย end credit

ติดให้ *** ครึ่ง

000

              คำถามจากภาพยนตร์เรื่อง “Blue Beetle” : ใครรับบทเป็นซูเปอร์ฮีโร่?

ทราบคำตอบเขียนชื่อ นามสกุล ที่อยู่ คำตอบให้ชัดเจน ส่งไปรษณียบัตรมาที่

คอลัมน์ “หนังดีติดดาว” 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

ผู้ที่ตอบถูก 3 ท่าน จะได้รับของรางวัลจาก “วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส”

ขอบคุณสนับสนุนของรางวัลเล่มเกมทายปัญหา

000

              “เลียม นีสัน” กลับมาฟาดความระห่ำเดือดใน “Retribution เหยียบระห่ำ ดับโคตรแค้น” เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อผู้ร้ายโทร.มาบอกว่าได้ติดตั้งระเบิดไว้ใต้เบาะรถที่เขากำลังขับพาลูก ๆ สองคนไปส่งโรงเรียนตามที่ภรรยาขอร้อง

              เปิดเรื่องให้เห็นว่าพระเอกทำงานอะไรถึงรวย ขับรถแพง ๆ แต่เงินไม่ช่วยให้ภรรยาไม่ขอหย่า เปิดเรื่องว่าภรรยาขอให้พระเอกไปส่งลูกทั้งสองแทนเธอที่โกหกว่าจะไปหาเพื่อนแต่ไปหาทนายมาฟ้องหย่าสามี ที่วันนี้ผู้ร้ายโทร.มาขู่บอกติดตั้งระเบิดไว้ใต้เบาะรถที่เขาขับ เส้นเรื่องกระชับ และเดาได้ว่าเรื่องเกิดในรถก็จบในรถ พระเอกเป็นนักกล่อมลูกค้ามาลงทุนได้สำเร็จแต่ไม่อาจกล่อมคนร้ายได้ แต่ผู้ร้ายดันทำให้เขาโกรธ โมโหเมื่อเห็นลูกสาวได้รับบาดเจ็บจึงเหยียบคันเร่งล่าผู้ร้ายแทนตำรวจซะเองในสภาพรถไร้ประตูสักบาน เคยดูหนังเฮียเลียมตั้งแต่ยังแอ็กชันไหว แต่เมื่อวัยล่วงเลยก็เข้าใจว่าให้ไปบู๊คงไม่ไหวแล้ว จึงสร้างความระห่ำจากเท้าที่เหยียบคันเร่งควานหาตัวผู้ร้ายแก้แค้นให้ลูกสาวได้ซะใจ ขอมอบฉายาคุณพ่อดีเด่น นอกจากนี้ก็ได้ภรรยาที่จะหย่าคืนมาด้วย แต่พอเฮียแอ็กชันไม่ไหวก็กลายเป็นใส่บทพูดเยอะจนเผลอหลับ

ติดให้ *** ครึ่ง

000

            “Postman ไปรษณีย์4โลก” ผลงานกำกับของ พฤกษ์ เอมะรุจิ ได้นักแสดงมาร่วมสร้างโลก นำโดย  อารักษ์ อมรศุภศิริ, ญานนีน ภารวี ไวเกล, สพล อัศวมั่นคง, สวนีย์ อุทุมมา, ต้นหน ตันติเวชกุล, วรนิษฐ์ ถาวรวงศ์, นริลญา กุลมงคลเพชร, บุญพงษ์ พานิช

              ตอนเห็นทีเซอร์ในโรงหันไปถามคนข้าง ๆ พยักหน้าอยากดูมากก เป็นหนังแนวดราม่า | ตลก | ไซไฟ ที่ได้นักแสดงมาร่วมสร้างโลกแบ่งออกเป็น 4 โลก เริ่มจากโลกยุคหิน ที่ตามล่าหาไฟ ต่อด้วยโลกของกรุงศรีฯ ที่หาคนไปส่งจดหมายขอความช่วยเหลือเพราะจะถูกพม่ารุกราน มาถึงโลกยุคไซไฟ มีบุรุษไปรษณีย์สุดไฮเทกรับส่งพัสดุแม้เป็นคนก็ส่งถึงมือได้ และโลกปัจจุบันที่ไปรษณีย์ยังขี่มอเตอร์ไซด์ส่งจดหมายอยู่ โดยแต่ละโลกนักแสดงถ่ายทอดออกมาไม่สุด พระเอกโลกไฮเทคเล่นไม่ลื่นไหล ทั้งที่ทุกคนมีการเวิร์กชอปแต่เล่นไม่อิน ต่อไปเชื่อทีเซอร์ไม่ได้ เพราะตอนตัดตัดฉากเด็ด ๆ แต่พอเข้าไปดูไม่สนุกอย่างที่คิด พล็อตเชย บทตลกที่ขายมุกแป้กคนดูเงียบกริบ ยิ่งนักแสดงถ่ายทอดออกมาไม่สุดจนไม่เชื่อ ไม่มีอารมณ์คล้อยตาม มีคนเดียวต้องยกให้ “พี่เอี้ยง” ฉากที่รู้ว่าลูกชายตายทำเอาน้ำตาหยดเลย ในเรื่องการต่อเนื้อเรื่องตัดสลับไม่ค่อยอินบางฉาก แต่ในโลกของเป้ฉากสุดท้ายค่อยกินใจ แต่ถือว่าเป็นหนังแหวกแนวจริง

ติดให้ ** ครึ่ง

000

            ในอนาคตอันใกล้หุ่น android เดินอยู่ท่ามกลางมนุษย์อย่างเรา บางตัวมีท่าทาง การพูด และทำตัวเหมือนหุ่นยนต์ แต่หุ่นอัจฉริยะที่เรียกว่า “Simulant โลก ร่าง เสมือน” นำแสดงโดย จอร์ดานา บรูว์สเตอร์ (Fast & Furious), ซีมู หลิว (Shang-Chi, Barbie), แซม เวิร์ธธิงตัน(Avatar: The Way of Water)

              จะมีจริงไหมโลกของเราที่ AI แทรกตัวแล้วเดินอยู่ตามท้องถนน พักหลังหนังมักทำแนวนี้กัน แล้วเรื่องนี้ได้พระเอกหล่อ มีแบบนี้สักคนให้รักก็ดีเหมือนกันนะ แต่โลกที่ในหนังสร้างยังไม่ยอมรับหุ่นอัจฉริยะ นักแสดงแต่ละคนก็ถ่ายทอดออกมาตามบทบาทที่ได้รับดี แม้บทสรุปจะเดาถูก แต่ถือเป็นหนังตามกระแสที่มี AI เป็นตัวเด่น เลือกนักแสดงแสดงได้เหมือนหุ่นยนตร์ที่ฉลาดมีชีวิตจากหน้าตาตัวเอก ที่หล่อ เท่ พอสวมเสื้อผ้ามาเดินตามถนนเอาจริงก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าเป็นหุ่นยนต์ แม้หนังไม่ได้ฟอร์มยักษ์แต่เนื้อหาก็น่าติดตาม บทพูดก็พอประมาณ เน้นการตามล่าหุ่นอัจฉริยะมาทำลาย อย่างว่าคนที่ไหนจะยอมแพ้หุ่น หรือเป็นหุ่นเชิดให้หุ่นยนต์กันล่ะ ซึ่งหนังดูได้เรื่อย ๆ ฉากบู๊ก็ไม่ได้โดดเด่นสะใจเท่าไหร่

ติดให้ **

000

              ไร้ท์ บิยอนด์ ส่ง “Where The Wind Blows คู่พายุเดือด” หนังรางวัลนักแสดงนำชายปีล่าสุด ได้สองนักแสดงจากเกาะฮ่องกงประชันฝีมือโดยมาพบกันในรอบหลายปี “เหลียงเฉาเหว่ย” (แห่ง Shang-Chi and The Legend of The Ten Rings / ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์, Infernal Affairs – 2 คน 2 คม และล่าสุดกับ Hidden Blade – โค่นคมพยัคฆ์) ปะทะ “กัวฟู่เฉิง” (จาก Port Of Call และ The Storm Riders – ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า) เรื่องราวเกิดขึ้นจริงในปี 1970 ซึ่งคณะกรรมการอิสระต่อต้านการทุจริตของฮ่องกง (ICAC) ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบบรรดาเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่ฉ้อฉล โดยมี 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ “เหลยเล่อ” และ “หนานเจียง” ตัดสินใจจับมือกันเพื่อจัดการกับระบบที่แหลกเหลวภายในกรมตำรวจ ในที่สุด เหลยเล่อ ก็ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสารวัตรใหญ่ได้สำเร็จ แต่ในขณะเดียวกันการขยายอำนาจของเขาก็นำไปสู่ความขัดแย้งกันระหว่างสมาชิกใน ICAC และเมื่อนั้นฮ่องกงก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

              นานแล้วไม่ได้ดูหนังดี ๆ แนวนี้ ทั้งยังคว้าสองนักแสดงชื่อดังแห่งเอเชียที่ฝีมือไม่ทิ้งกันเลยมาถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้เชื่อว่าเป็นตัวแสดงตัวนั้นจริง ๆ อีกทั้งไม่มีใครขโมยซีนใครได้ ขอชมผู้กำกับที่คว้าพวกเขาโคจรมาเจอกันได้ในรอบหลายปี ทั้งสองเฉือนอารมณ์กันในบทพูด ท่าทาง สีหน้า แต่ส่วนตัวชอบเหลียงเฉาเหว่ยอาจเอนเอียงไปทางพระเอกคนนี้มากหน่อยนะ ถือเป็นหนังที่ตามยุคสมัยในบ้านเราที่มีพวกกระทำความผิดและคอรัปชั่นเกลื่อนทุกแวดวง ไม่เฉพาะกรมตำรวจฮ่องกงเหมือนในหนัง ส่วนฉากแอ็กชันนี่สมจริง เสียงตูมตาม เอฟเฟคมาเต็ม ด้านเสื้อผ้า ฉากลงทุนพาเราย้อนไปยุคเกิดเรื่องราวเลย และบทสนทนาก็เฉือนกันอย่างชิงไหวพริบ แต่ที่อยากดูที่สุดจนถูกตรึงไว้ก็ฉากเฉือดเฉือนของสองซูเปอร์สตาร์ที่ปะทะบทบาทกันดุเดือด แต่เด็กรุ่นใหม่อาจไม่ทันหนังแนวนี้

ติดให้ *** ครึ่ง

000

              “SHORTCOMINGS หัวใจชำรุด มนุษย์โรงหนัง” ของผู้กำกับ แรนดัลล์ พาร์ค นำแสดงโดย จัสติน เอช.มิน, เชอร์รี โคลา, แอลลี มากิ

              หนังทำออกมาแบบพูดกันเยอะมาก แต่ก็กระชับเรื่องราวได้รวดเร็วด้วย เพราะต้องตามอารมณ์ตัวละคร ทำให้ถ้าหากใครอ่านหนังสือไม่เร็ว บางครั้งอาจจะอ่านตามไม่ทัน ช่วงแรก ๆ ดูเยอะวุ่นวายสักหน่อย อาจจะงง ๆ ในการแสดงออก การพูด ทัศนคติของตัวละครแต่ละคน แต่พอดูไปสักพัก ก็จะเข้าใจมากขึ้น ช่วยให้เดาสิ่งที่จะพูดได้ง่ายขึ้น ทำให้อ่านได้ทันมากขึ้น ไม่แน่ใจว่า ผู้กำกับฯ ต้องการให้คนดูรู้สึกแบบนี้มั้ย แต่พอมานึกทวนดูก็เข้าใจที่ทำไมต้องพูดเยอะตอนแรก เหมือนเวลาเจอคนเยอะใส่ แต่พอนานไป รู้จักตัวตนมากขึ้น ถึงเยอะเหมือนเดิม แต่ก็ตามทันละ สำหรับบทภาพยนตร์ เรียบเรียงเป็นตอน ๆ ออกมาได้ดีเลยล่ะ จุดด้อยของหนังคือพูดเยอะจึงไม่เหมาะคนที่ไม่ถนัดภาษา

ติดให้ ***

000

            “ชินจัง เดอะ มูฟวี่ นินจาคาถาวายุอลเวง” จากการ์ตูนเด็กผู้ชายจอมทะลึ่งทะเล้นที่กลับมาปังปุริเย่อีกครั้งในประเทศไทย ด้วยยอดวิวทะลุหลักล้านวิวไปแล้วกว่า 70 ตอน รวมถึงจำนวนผู้เข้าชมชินจังทุกคลิปนั้นยังคงเพิ่มขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ผู้ชมกำลังทานข้าว! ผ่านทาง Youtube Channel :  POPS Anime Thailand

              เพื่อนถามวันนี้ไปดูหนังเรื่องอะไรบอก ‘ชินจัง’ เพื่อนบอกต้องได้เห็นช้างของชินจังแน่ เพราะเป็นตัวขายความทะลึ่งของเด็กผู้ชายตัวน้อยน่ารัก แต่ภาพจำของเราเป็นภาพแม่ของชินจังยกถาดแตงโมมาให้ครอบครัวทานซึ่งมีให้เห็นในหนัง แต่อดเห็นช้างของชินจัง โดยหนังเปิดเรื่องดีเห็นความรักของพ่อแม่แม้เป็นแค่การ์ตูน หนังไม่เกริ่นเยอะเพราะFC ชินจังรู้เรื่องดี โดยผูกเรื่องราวพร้อมกล่าวถึงที่เที่ยวเมืองนินจาในญี่ปุ่น ที่ไม่เคยไปแต่บางคนอาจเคยไปใส่ชุดนินจา ยอมรับว่าไม่คาดหวัง แต่ทำออกมาสนุก ไม่เผลอหลับ ยิ่งชินจังทะลึ่งน่ารัก ทั้งติดเซลฟีตามยุคสมัยนี้เลย ซึ่งเรื่องราวสนุกไม่มีพิษภัยต่อเด็ก แล้วแทรกมุกตลกที่ FC  คุ้นเคย ได้เห็นความรักของพ่อแม่เล่นเอาน้ำตาซึมตอนไปตามหาชินจังที่ถูกลักพาตัวไปเมืองนินจา แล้วพ่อแม่นึกว่าชินจังกลายเป็นลิงก็ร้องไห้แต่บอกรักลูก หรือคำพูดกินใจของพ่อบอกแม่ว่า “ชินโนะซึเกะรออยู่” แค่นี้ก็ซึ้งสำหรับทุกคนที่มีครอบครัวอบอุ่นแบบชินจัง ยังได้เห็นเอฟเฟคเนียนทันยุคสมัยที่ทำออกมาดี ซึ่งนอกจากพล็อตสนุก เนื้อหาสอดแทรกข้อคิดเรื่องครอบครัว ความรักของเพื่อนไม่ทิ้งกัน

ติดให้ *** ครึ่ง

000

            มงคลซีเนม่า ตีแผ่ “Concrete Utopia คอนกรีตยูโทเปีย” ภาพยนตร์ทริลเลอร์-หายนะโดยผู้กำกับ “ออมแทฮวา” นำทีมเสิร์ฟความใหญ่ในโปรเจกต์รวมซูป’ตาร์ตัวท็อปเกาหลี นำโดย อีบยองฮอน (Emergency Declaration, Squid Game), พัคซอจุน (The Marvels, Itaewon Class), พัคโบยอง (Strong Girl Bong-oon, A Werewolf Boy), คิมซอนยอง (Return to Seoul), พัคจีฮู (All of Us Are Dead) และ คิมโดยุน (Lucky Monster) โคจรมาเจอกันในโลกหลังมหันตภัยนี้

            ที่หนังทำออกมาแนวมืดมนตลอดเรื่อง แต่ละคนเหมือนสามัคคี แต่ก็เถื่อนดิบ มนุษยธรรมสู้ไม่ได้ในวิกฤตแบบนี้ ดูแล้วหดหู่ใจ แต่ต้องยอมรับว่าเกาหลีเก่งทุกแนวทำมามีที่มาที่ไปของตัวละครชัดเจน แต่ละคนเด่นตามบทที่ได้รับ ทำให้เข้าใจนิสัยการกระทำของแต่ละตัวละครได้ดี ฉากซากปรักหักพังทำได้ดี แต่ช่วงแผ่นดินยกตัว การถล่มทลายก็ยังดูไม่เหมือนจริงเท่าไหร่ ในส่วนของนักแสดงนำทุกคนไม่มีสวยหล่อแต่ออร่าพวกเขามีในตัวแม้แต่งหน้าโทรมต่างก็เล่นได้ถึงอารมณ์มาก ส่งความรู้สึกผ่านแววตาได้ชัดเจนมาก ๆ แม้หนังจะดิบเถื่อน ไร้ความปรานีที่เกิดจากภัยพิบัติ แต่เป็นเรื่องราวที่คนดูอยากเห็นตอนจบอยู่ดีว่าเป็นอย่างไร 

ติดให้ ** ครึ่ง

000

              “COBWEB ก๊อก ก๊อก เคาะเรียกผี” เรื่องราวของ ปีเตอร์ เด็กชายวัยแปดขวบต้องอยู่อย่างหวาดผวาเมื่อเขาได้ยินเสียงเคาะลึกลับจากกำแพงห้องนอนทุกคืน แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามบอกพ่อแม่ของเขาขนาดไหน ทั้งสองคนก็บอกว่าปีเตอร์คิดไปเอง เมื่อความกลัวเริ่มกัดกินจิตใจปีเตอร์เริ่มสัมผัสได้ว่า คนที่เขาเรียกว่าพ่อและแม่ (รับบทโดยแอนโทนี สตาร์ และ ลิซซี่ แคปแลน) อาจซ่อนความลับสุดสยองเอาไว้ สำหรับเด็กคนหนึ่งอะไรจะน่ากลัวไปกว่าการไม่สามารถไว้ใจพ่อแม่ตัวเองได้

            หนังทำมาไม่ค่อยน่ากลัวเท่าที่ควร เรื่องราวดูแปลก ๆ ในส่วนของการเดินเรื่อง เน้นแค่เข้าใจความรู้สึก อารมณ์ และความกลัวของเด็กตัวเอกเท่านั้น แถมตัวละคนอื่นบางทีก็ทำอะไรที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่นัก แต่นักแสดงนำทุกคนก็เล่นได้ดีมาก ส่งอารมณ์ตัวละครให้เข้าถึงผู้ชมได้ตามบทบาท สำหรับบรรยากาศหนังที่เป็นหนังหลอน ๆ ทำได้ดี ดูน่ากลัว ซากร่างกายที่ถูกฆ่าทำออกมาได้สยองดี ดูเหมือนจริง จังหวะตกใจก็ไม่ได้เน้นมาก ทำให้ความน่ากลัวดูไปเรื่อย ๆ แต่ก็มีที่ไม่ชอบในเรื่องของความน่ากลัวไม่น่ากลัวตามที่คิด

ติดให้ * ครึ่ง

000