อ.ส.ค.ปลุกกระแสคนไทยเรียนรู้ศาสตร์พระราชาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 

                 อ.ส.ค.ปลุกกระแสคนไทยเรียนรู้ศาสตร์พระราชาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  จับมือขสมก.จัดเดินรถโดยสารปรับอากาศ เส้นทางกรุงเทพฯ-สระบุรี แบบไปเช้า-เย็นกลับเที่ยวฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์คในราคาสุดประหยัด    เพื่อเปิดโอกาสให้นักเที่ยวเข้ามาเรียนรู้  ต่อยอด “โคนมอาชีพพระราชทาน”  ชูจุดขายเป็นฟาร์มโคนมพระราชทานและฟาร์มโคนมแห่งแรกที่มีความทันสมัยที่สุดในประเทศ 

               นายสมพร  ศรีเมือง  ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อ.ส.ค.) กล่าวว่า เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  เร็วๆนี้อ.ส.ค.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)ร่วมกันเป็นครั้งแรก  ด้วยการจับมือจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค เพื่อศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงโคนม ซึ่งเป็นอาชีพพระราชทานของในหลวงรัชกาลที่ ๙ เป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอดการทำฟาร์มโคนม ตลอดจนเป็นการสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น ในการนำสินค้าทางการเกษตรและสินค้าพื้นบ้านมาจำหน่าย เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านในชุมชน โดยขสมก.จะจัดเดินรถโดยสารปรับอากาศ เส้นทางกรุงเทพฯ-สระบุรีจากอู่รถโดยสารของขสมก.แบบไปเช้า-เย็นกลับ ไปยังฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์คเพื่อให้บริการรับ-ส่งประชาชนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยคิดค่าบริการในราคาประหยัด   ซึ่งแนวทางความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการจัดกิจกรรมตามแนวทางใช้ทรัพยากรร่วมกัน (Synergy) ระหว่างทั้งสองหน่วยงาน  ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านในชุมชนแล้วยังช่วยพัฒนาการดำเนินงานทั้งสองหน่วยงานให้มีความยั่งยืนอีกด้วย

นายสมพร  ศรีเมือง 
ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อ.ส.ค.)

               นายสมพร  กล่าวด้วยว่า   ปัจจุบันฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์คได้รับการยอมรับว่าเป็นฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ระดับประเทศที่มีทุ่งหญ้าและทิวทัศน์สวยงามและประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่าและสร้างความภาคภูมิใจกับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน เนื่องจากเป็นฟาร์มโคนมแห่งแรกของประเทศไทยและถือเป็นฟาร์มโคนมพระราชทาน ซึ่งเกิดจากสายพระเนตรที่กว้างไกลของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงห่วงใยราษฎร อยากให้มีอาชีพที่มั่นคง ยั่งยืน จึงทรงมีพระราชดำรินำอาชีพการเลี้ยงโคนมเข้ามาในเมืองไทยเป็นครั้งแรก ณ ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์คแห่งนี้

              ปัจจุบันอ.ส.ค.ได้เปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปศึกษาวิธีการผลิตนมในขั้นตอนต่าง ๆ ตั้งแต่การเลี้ยงโคนม การนำน้ำนมไปแปรรูป จนกระทั่งออกมาเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ และนอกจากจะได้ความสนุกสนานแล้วยังเหมาะสำหรับเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ   โดยมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจในฟาร์มให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมและร่วมทำกิจกรรมอย่างสนุกสนาน   โดยเริ่มต้นกันที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ รู้จักพืชพันธุ์สมุนไพรไทย และชมการสาธิตการทำปุ๋ยนม จากนั้นไป ชมวิดีทัศน์ เพิ่มความรู้ด้านข้อมูลประวัติความเป็นมาของอ.ส.ค และ ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์คจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

                นอกจากนี้ยังมีจุดไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ของที่นี่ คือการรีดนมวัว โดยวิทยากรจะให้ความรู้เกี่ยวกับการรีดนมวัวทีละขั้นตอน ตั้งแต่การสอนชาวบ้านเลี้ยงวัวนม ขั้นตอนก่อนรีด วิธีการรีด  จากนั้นไปสร้างเสริมประสบการณ์กันต่อที่ จุดป้อนนมลูกโค หลังจากรีดนมแม่โคแล้ว ก็มาให้นมลูกโค พร้อมชื่นชมความน่ารักของลูกโคตัวน้อยหลากสายพันธุ์ ที่นี่นอกจากจะมีแม่วัว และลูกวัวที่น่ารักแล้ว บริเวณใกล้กันยังมี สวนสัตว์ไทย-เดนมาร์ค ที่จะได้เพลิดเพลินกับสัตว์น่ารัก อาทิ นกกระจอกเทศ อูฐ และกวาง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถป้อนหญ้าให้กับสัตว์เหล่านี้ได้ หลังจากชื่นชมวิวทิวทัศน์ สัมผัสวิถีชีวิตเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมแล้ว ก็ไปตื่นเต้นเร้าใจกันต่อกับการแสดงคาวบอย และการแสดงม้า ชื่นชมความน่ารักของม้าแคระเต้นลีลาศที่ถูกใจถูกใจนักท่องเที่ยวที่มาเยือนอีกด้วย 

               “ขณะนี้อ.ส.ค. กำหลังเร่งปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในพื้นที่ฟาร์มให้มีความน่าสนใจและสอดคล้องกับแนวคิดการเรียนรู้เชิงเกษตร ด้วยการตกแต่งทัศนียภาพให้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น เพื่อดึงดูดและสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือนฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค  ซึ่งใครที่มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมชมรับรองว่าประทับใจอย่างแน่นอน” นายสมพร  กล่าว

               นายสมพร   ยังกล่าวอีกด้วยว่า    ปี 2565 อ.ส.ค.ได้เปิดฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์คเพิ่มขึ้นอีก 1ฟาร์ม   ในอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรีเป็นฟาร์มโคนมประสิทธิภาพสูง (Thai-Denmark Smart Dairy Farm)  ซึ่งในอนาคตอ.ส.ค.เตรียมเปิดบริการให้เกษตรกร นักวิชาการและประชาชนทั่วไปเข้ามาศึกษาเรียนรู้และพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการฟาร์มที่มีประสิทธิภาพสูงเนื่องจากใช้เทคโนโลยีช่วยในการจัดการฟาร์ม และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สาหรับเป็นแหล่งฝึกปฏิบัติและการสร้างบุคลากรมืออาชีพด้านการเลี้ยงโคนม รวมทั้งเป็นฟาร์มสำหรับใช้ในการศึกษาและพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการฟาร์ม ให้มีความสะดวกและเหมาะสมกับการเลี้ยงโคนมของเกษตรกรยุคใหม่ที่สอดคล้องกับหลักการดูแลสวัสดิภาพสัตว์ (Animal welfare) และถือเป็นฟาร์มต้นแบบแห่งแรกในประเทศไทยที่มีความทันสมัยระดับอาเซียน

Related posts