เปิดปก…อกนักเขียน : “โอ้วว ชีทเค้ก” – (แพท) กนกวรรณ แย้มศิริ

เปิดปก…อกนักเขียน

“โอ้วว ชีทเค้ก” หวนคืนวงการหลังป่วยไปนาน คลอดเซ็ตยักษ์ตนที่ 3 “ฤารักอสุรี”

          บังเอิญได้เจอ DIZZY BAD HABIT เมื่อรักสั่งให้ร้าย” นามปากกา โอ้วว ชีทเค้ก เจ้าของนามคือ ‘แพท’ หรือเรียก ‘พี’ ก็ได้ ส่วนชื่อจริงคือ กนกวรรณ แย้มศิริ  ซึ่งที่สะดุดตาเราต้องสอยมาเพราะปกนางเอกโดนพระเอกนัวเนียถึงสามคน ซึ่งหายากปกติจะเห็นนายเอกถูกรุมแบบนี้บนปกนิยายวายเสียส่วนใหญ่ เลยอดไม่ได้ต้องสอยมาอ่าน…อ่านยังไม่ถึงครึ่งเรื่องชอบความบ้า บื้อ (ตั้งใจทำ) ของขุนเมืองเพื่อหาทางไถ่โทษจากเฌอนิม ยิ่งตอนท้ายเรื่องโคตรหน่วงหัวใจจนเครียดเลย ต้องพักอ่านไปหาข้าวทานจะได้มีแรงมาอ่านต่อ จากที่อ่านจบเป็นพล็อตที่พระเอกเคยติดยาแต่ยอมไปบำบัดเพื่อจะได้กลับมารักนางเอกอีกครั้งจากที่เคยทำร้ายจิตใจ แต่เมื่อเรื่องเฉลย อึ้งดิ! เพราะกลายเป็นว่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากนางเอกเป็นเด็กเลี้ยงแกะ สร้างเรื่องเพื่อหนีความร้ายกาจของขุนเมือง อ่านจบยังสลัดลูกอ้อนลูกมึนของขุนเมืองไม่ออก พักอยู่หลายวันก็ไปปรับอารมณ์เรื่องต่อคือ EROTIC SNAKE” ชื่อโดนก่อนเลย แถมเนื้อหาแปลกแหวกเพราะเป็นความรักของไพธอนกับโบอา คือพระเอกเป็นงูใหญ่อย่างอนาคอนดากับหญิงสาวธรรมดา นักเขียนจินตนาการความรักระหว่างงูกับคนร้อยเรียงได้โรแมนติกละมุนละไม ไพธอนพูดน้อยแต่พอพูดทีก็น่ารัก น่าหลงใหล แถมเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เราไม่ควรเบียดเบียนกันจึงสามารถอยู่ร่วมกันได้ และงูก็ไม่ใช่ว่ารักไม่เป็น เมื่อได้รักแล้วก็หวงเมียอย่างจงอางหัวไข่เลยล่ะ จบเรื่องความรักแปลกแหวกแนวแต่ได้ใจเราเต็ม ๆ  ก็ขอพานักอ่านขึ้นแดนสวรรค์กับเรื่อง “อสุเรนทร์วิวาทรัก” ชื่อเท่ดี คราวนี้นักเขียนพาไปหลงรักผู้ปกครองยักษ์นามว่า ท้าวอสุเรนทร์ ขอบอกว่าหล่อ ขรึม ดุดัน โมโหหรือเดินทีสะเทือนทั่วแดนมนุษย์ นักเขียนนำเสนอความรักต่างฐานันดรและรักที่เป็นไปไม่ได้ของท้าวอสุเรนทร์กับกุมกัณฑ์ ทหารเอกคู่กายที่กลายเป็นอริต้องใช้ศรทองปลิดชีพ แต่ก่อนตายได้สาปกุมกัณฑ์ให้มันไปเกิดเป็นคน ในร่างสตรีผู้อ่อนแอ แต่กลายเป็นคนคว้าหัวใจท้าวอสุเรนทร์ ซึ่งผูกเรื่องราวได้ดี มีกลอนให้ความเป็นไทยรวมทั้งภาษา ฉากแผลงศรปลิดชีพกุมกัณฑ์ก็หน่วงหัวใจเราพลอยเศร้าเลย ขอแนะนำให้อ่านเพราะสนุก ภาษาโบราณสวย ยิ่งน่ารักยามท้าวอสุเรนทร์เกี้ยวเมรีที่ภพยักษ์ก็คือกุมกัณฑ์ พอจบเรื่องของพี่ชายเจ้าเมืองยักษ์ก็ไปต่อ “กลรักอสุรา” น้องชายที่ถูกกุมภัณฑ์พรากลมหายใจของดวงใจของพระองค์ไป แต่พระองค์สัญญาจะตามหาและดันเข้าใจว่ากรองขวัญ ผู้จัดการเมรีคือดวงใจของพระองค์ในภพยักษ์ แต่แล้วท้าวอสุราก็ตามหาดวงใจจนเจอ ยามท้าวอสุราเกี้ยวพาทับทิมด้วยภาษาโบราณชั่งน่ารัก คันหัวใจพอ ๆ กับพี่ชายเลย แต่ความรักของพี่น้องยักษ์ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ดังนั้นนักอ่านต้องไปค้นหาคำตอบเอง  ครั้นอ่านอสุ           เรนทร์วิวาทรักจบขอติเรื่องเดียวเรื่องตัวหนังสือติดกันถี่ยิบลายตามาก ซึ่งนักเขียนรับรู้ปัญหาจะนำไปปรับปรุงแก้ไขในเล่มใหม่เซ็ตยักษ์ตนที่ 3 เตรียมเปิดพรีเร็ว ๆ นี้เรื่อง “ฤารักอสุรี” (หรือ-รัก-อะ-สุ-รี) เป็นคู่ของไวเกลกับท่านสุริยาภพ โดยพีเปิดอกพูดคุยอย่างหมดเปลือกพร้อมเผยผลงานเรื่องใหม่ด้วย

          “ปัจจุบันเขียนนิยายเป็นทั้งงานประจำและงานอดิเรกเลยครับ (หัวเราะ ติดนิสัยพูดครับ)  นามปากกาที่พีใช้มีนามปากกาเดียวครับคือ “โอ้วว ชีทเค้ก” ไม่แยกนามปากกาหรือแนวเรื่อง ยกเว้นตอนลองเขียนนิยาย Boy Love ครั้งแรก จะมีพ่วงต่อจากนามปากกาเดิมเป็น ‘โอ้วว ชีทเค้ก/Saice”  ที่ผ่านมาพีเขียนมาราว ๆ 20 เล่ม หลายเรื่อง หลายแนวมากครับ ส่วน Boy Love เคยเขียนเรื่อง COMBAT AFFECT ความลับเด็กช่าง (ทำมือ) เขียนแค่เล่มเดียว (หัวเราะ)  ที่เขียนเพราะส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ชอบอยากและลองเขียนอะไรที่ไม่เคยเขียนอยู่แล้วก็เลยได้ออกมาเป็นผลงานเรื่องนี้ (หัวเราะ)  แต่ถ้านิยายเรื่องแรกในชีวิตคือ S.o.s สัญญาณรักร้ายคุณชายมาเฟีย เหตุผลที่เขียนเรื่องนั้นคือช่วงนั้นค่อนข้างว่างมากครับ เลยอยากลองเขียนอะไรสักอย่างที่เป็นเรื่องยาวดูบ้างสักครั้ง (หัวเราะ) ส่วนแรงบันดาลใจนั้นมาจากช่วงเกาหลีฟีเว่อร์ในช่วง 10 ปีก่อนครับ ทำให้เรื่อง S.o.s สัญญาณรักร้ายคุณชายมาเฟีย มีความเป็นไทย-เกาหลีและค่อนไปทางราชวงศ์โชซอนด้วย  สำหรับเรื่อง ‘เมื่อรักสั่งให้ร้าย’ เป็นนิยายเก่าที่เคยเขียนและวางขายไปเมื่อราว ๆ 6-7 ปีก่อน ส่วนเหตุผลที่พีเขียนฉากจบ ‘เมื่อรักสั่งให้ร้าย’ ให้นักอ่านเลือกสองแบบ เพราะตอนช่วงที่ลงเรื่องนี้ค่อยข้างเป็นที่พูดถึงอยู่ในระดับหนึ่งในกลุ่มนักอ่าน ของเรา คงเพราะสไตล์การควบของตัวละครที่กวาดผู้ชายหล่อ ๆ มาเป็นของตัวเองทั้งหมด ในสถานการณ์พีค ๆ แบบที่นักอ่านคาดไม่ถึงด้วย (หัวเราะ) ส่วนเหตุผลที่ต้องเขียนฉากจบ 2 แบบ แน่นอนว่าเราเขียนจากการเดาความรู้สึกคนอื่นล้วน ๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มาจากการกระทำของตัวละครล้วน ๆ เลยจำเป็นต้องจบแบบที่ใช้ความรู้สึกและจบด้วยเหตุผล เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักอ่านครับ (หัวเราะ)

          มีช่วงที่พีหยุดเขียนนิยายเกิดจากพีป่วยเป็นโรคซึมเศร้ากับไบโพล่าครับ มารู้ตัวตอนถูกพาไปตรวจที่ศรีธัญญานี่ล่ะ ตอนนั้นช็อกมาก ๆ จนเขียนอะไรไม่ได้ไปหลายเดือนเลยครับ  ช่วงที่ป่วยจนช็อกแล้วไม่สามารถเขียนอะไรได้พีหันกลับไปอยู่ในสังคมบอท (Both) ครับ แต่พีเล่นในฐานะโรลเพลย์เยอร์ โดยช่วงนั้นพีจะเข้าไปเขียนระบายความรู้สึกของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ครับ จากนั้นก็เริ่มพยายามเขียนเรื่องราวต่าง ๆ ในรูปแบบบทความเรื่องสั้น แต่เพราะตอนนั้นเรายังไม่สามารถเขียนอะไรยาว ๆ ได้เหมือนแต่ก่อน อีกทั้งเราเองก็ได้พบเจอคนมากมายในสังคมบอทโรลเพลย์ มันทำให้เราเห็นว่ามีหลายคนซึ่งมีฝีมือและมีความฝันอยากเป็นนักเขียนหรือมีหนังสือนิยายเป็นของตัวเองสักเล่มเยอะมาก พอเราเห็นแบบนั้นเราเลยอดที่จะเปิดบ้านโรลเพลย์ในฐานะโรลเพลย์เยอร์คนหนึ่งไม่ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อคอยให้คำแนะนำ ช่วยบอก คอยสอนและช่วยเกลางานของผู้คนที่มีความชอบในการเขียนเหมือนกันให้พัฒนายิ่งขึ้น จนมาช่วงปีก่อนบ้านก็ได้เริ่มขยายกว้างขึ้นโดยร่วมทำกับเพื่อนโรลเพลย์เยอร์ชาวฟิลิปปินส์ จนตอนนี้บ้านโรลเพลย์ของพีมีทั้งคนไทยและเทศอยู่ร่วมกัน จากช่วยพัฒนางานเขียน ตอนนี้เลยมีเรื่องการฝึกภาษาพ่วงเข้ามาด้วย (หัวเราะ) และเรายังทำบ้านหลังนี้อยู่ถึงปัจจุบันนี้ครับ  การมีเพื่อนต่างชาติที่รักงานเขียนทำให้พีได้ภาษาด้วย  จริงอย่างที่พีเล่าไปในตอนแรกน่ะครับ เนื่องจากเพื่อนที่สนใจเป็นชาวต่างชาติมันเลยทำให้ทั้งตัวเราเองและสมาชิกคนไทยต้องกระตือรือร้นที่จะพูดคุยกับพวกเขา นอกจากจะฝึกและพัฒนางานเขียนตามจุดประสงค์บ้านแล้ว เรายังได้ฝึกภาษา เพราะต้องใช้สื่อสารกับสมาชิกในครอบครัวซึ่งเป็นชาวต่างชาติด้วย  

          ถ้าถามว่าระหว่างนิยายรักกับนิยายสายดาร์กพีถนัดแนวไหนมากกว่า คงต้องบอกว่าพอ ๆ กัน เนื่องจากเป็นคนชอบเขียนอะไรที่มันกึ่ง Real ด้วย การถ่ายทอดด้านมืดของคนจึงเป็นงานถนัด ส่วนเรื่องของความรักก็คงเป็นนิยามความสุขที่เราสามารถเติมเต็มเข้ามาไม่ให้เรื่องราวด้านมืดมืดมิดเกินไป แล้วจากที่กลับมาเขียนนิยายอีกครั้งหลังอาการดีขึ้นพีเปิดตัวด้วยเรื่อง “ฤารักอสุรี” (หรือ-รัก-อะ-สุ-รี) เรื่องที่ 3 ในเซ็ตยักษ์ เป็นคู่ของไวเกลกับท่านสุริยาภพครับ ปกเสร็จแล้วอยู่ระหว่างพิสูจน์อักษร เหตุผลที่เขียนแนวนี้เพราะพีค่อนข้างชอบเรื่องรามเกียรติ์มากเลยเลือกที่จะเขียน อสุเรนทร์วิวาทรัก กับอสุรา ยักษ์พี่น้องเป็นเรื่องแรก โดยตัวละครสองตัวนี้เป็นตัวละครในจินตนาการครับ สืบเนื่องจากพีค่อนข้างชอบรามเกียรติ์มากโดยเฉพาะทศกัณฑ์ (หัวเราะ) ส่วนเรื่องข้อมูลพีค่อนข้างอ่านเยอะมาก ทั้งประวัติเรื่องเล่าต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องเก็บรายละเอียด ช่วงนั้นพีเลยจะไปที่วัดแจ้งกับวัดพระแก้วบ่อยมาก ๆ สำหรับบุคลิกของท่านท้าวอสุเรนทร์และท่านอสุรามาจากคุณปู่กับคุณตาของพีเองครับ ท่านทั้งสองค่อนข้างมีวิถีชีวิตตามฉบับของคนโบราณอย่างแท้จริง คุณตาพีเขาจะเป็นคนดูดุ ๆ แต่ขี้อาย ส่วนคุณปู่ของพีท่านเป็นคนขี้เอาใจ ใจดี และบางทีท่านก็ดูนุ่มนิ่มจนน่าบีบ (แงงง หัวเราะ) ในการวางรูปเล่มพีตั้งใจให้ทั้งสองเรื่องนี้จบในเล่มเดียว แต่ก็แอบสองจิตสองใจเหมือนกัน เพราะเนื้อหากับรายละเอียดที่เยอะ แต่สุดท้ายก็ออกมาได้ตามแพลนนั่นคือจบในเล่มครับ (หัวเราะ)  ถามถึงความยากของเซ็ตยักษ์ อย่างที่บอกพีชอบเขียนอะไรใหม่ ๆ ตลอด ชอบจับนั่นมาผสมนี่ให้ออกมาเป็นแนวใหม่ ๆ ยิ่งส่วนตัวชอบอ่านรามเกียรติ์ด้วยแล้วมันเลยอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเราทำนิยายที่มีบทกลอนสอดแทรกเนื้อเรื่องลงไปด้วย มันจะสามารถดึงดูดคนอ่านจำพวกเด็ก ๆ หรือวัยรุ่นได้ไหม คิดได้แค่นั้นก็เลยลองทำเลยครับ (หัวเราะ) ความยากของงานเขียนเซ็ตนี้คือการหาข้อมูลและการเเต่งกลอนครับ ยอมรับเลยว่าช่วงเเรก ๆ เรื่องสัมผัสอาจไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่พอฝึกเขียนไปเรื่อย ๆ กลายเป็นว่าการแต่งกลอนคือสิ่งที่พีชอบไม่ต่างจากงานเขียนทั่ว ๆ ไปเลยครับ

          จากที่ก่อนหน้าร่วมงานกับ สนพ.มาปัจจุบันทำมือเองเห็นความแตกต่างอย่างแรกเลยที่เราชอบการทำมือมากกว่าก็เป็นเพราะการใส่สุดและใส่หลาย ๆ อย่างได้อย่างเต็มที่ไม่มีขีดจำกัดครับ ไม่ว่าจะพล็อต, แนวเรื่อง เรตเนื้อหาหรือความยาวของตัวเรื่อง ส่วนเวลากำหนดส่งก็ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของผู้เขียนอย่างเราด้วยเช่นกัน ที่ต้องเขียนผลงานออกมาให้ตรงกำหนดและเดตไลน์ที่ตั้งไว้ครับ  สำหรับปกนิยายเห็นเป็นแนวรามเกียรติจริง ๆ จะพูดว่าภาพไปทางแนวรามเกียรติก็ไม่ถูกทั้งหมด เรียกว่ามีความเป็นไทยมากขึ้นแต่ยังคงความเป็นนิยายรักวัยรุ่นที่ผู้ใหญ่อ่านได้เด็กและวัยรุ่นอ่านดีจะถูกกว่า (หัวเราะ) อย่างที่พีบอกไปครับ ว่าส่วนตัวชอบคิดและเขียนอะไรแปลกใหม่ ทำให้มีความรู้สึกว่าถ้าเราเอาบทกลอนเหมือนจากพวกหนังสือวรรณคดีมามิกซ์กับเนื้อหานิยายที่สามารถเข้าถึงทุกเพศทุกวัยได้มันน่าจะท้าทายดี (หัวเราะ) สรุปง่าย ๆ ก็คืออยากลองท้าทายความสามารถตัวเอง ประมาณนั้นครับ สำหรับนิยายยักษ์ที่เรียกว่ามีความเป็นไทย พีมีแพลนไว้ทั้งหมด 4 เรื่อง (จบในเล่ม) ที่ออกวางขายแล้วก็มี อสุเรนทร์วิวาทรัก, กลรักอสุรา ส่วนอีกสองเรื่องที่กำลังจะมาเร็ว ๆ นี้ก็ ‘ฤารักอสุรี’ กับ ‘ต้องรักอสุรินทร์’ ครับ

กับคำถามที่ว่าการเขียนนิยายช่วยบำบัดโรคซึมเศร้ากับไบโพล่าได้ไหม? ก็ช่วยได้มากเลยครับ จริง ๆ แล้วส่วนตัวไม่ใช่แค่การเขียนนิยาย แต่รวมถึงการเขียนเรื่องราวและบันทึกต่าง ๆ ในสังคมโรลเพลย์ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยเยียวยาได้ดีเสมอมาครับ  จากที่พอรู้ว่าเป็นยังช็อกและปรับตัวไม่ได้มันเป็นอุปสรรคการดำเนินชีวิตหรือเขียนนิยายมากพอสมควรเลยครับ มันทำให้จากที่เคยเขียนได้วันหนึ่งหลายตอน แต่พอเริ่มป่วยกว่าจะได้ตอนหนึ่งลากเลือดมาก ๆ ครับ แต่ตอนนี้พีเริ่มทำได้มากขึ้นจากช่วงป่วยแรก ๆ  หันมาคุยถึงพล็อตส่วนใหญ่พล็อตโผล่มาพีก็จะจดบันทึกเอาไว้ก่อนกันลืม จากนั้นก็ค่อย ๆ เริ่มลากเนื้อเรื่องและความเชื่อมโยงกันระหว่างตัวละครและเหตุการณ์ต่าง ๆ ภายในพล็อตที่คิดได้ครับ

          จากที่เขียนนิยายมาพีชื่นชอบพระเอกท่านท้าวอสุเรนทร์ จากเรื่อง “อสุเรนทร์วิวาทร์รัก” / เกอร์หรือ Joker ในเรื่อง Demonic Joker” และ คำราม ในเรื่อง Demonic Wife” ครับ ส่วนนักอ่านก็น่าจะเป็นสามเรื่องนี้เหมือนกันนะครับ พีเดา (หัวเราะ)  ถ้าไม่ถามข้อนี้จะเชยกรณีช่วงโควิดระบาดมีผลกระทบกับนิยายทำมือของนักเขียนมากน้อยแค่ไหน  ส่วนตัวน่าจะเยอะนะครับ แล้วจากที่เห็นนักเขียนหลาย ๆ ท่านบ่นกัน ซึ่งตัวเราเองช่วงนี้เป็นช่วงที่อาการป่วยของเราหนักมาก เลยไม่ได้แตะและห่างหายจากการทำมือไปเลยราว ๆ 2-3 ปี  และเอาเข้าจริงแล้วพีไม่มีปัญหากับโควิดเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่แต่ภายในห้องตัวเองมันเลยเป็นเหมือนวันปกติ ทั่วไปของพี แต่ที่ต้องสู้คืออาการป่วยที่พีเป็นอย่างเดียว ก็แก้มันด้วยการเขียนบทความหรือเขียนอะไรสักอย่างเพื่อระบาย

          พีเคยวางไว้ว่าปีหนึ่งออกสัก 3-4 ปกได้น่าจะดี ซึ่งพีเคยทำมันได้แล้ว แต่ปัจจุบันขอปีละปกหรือ 2 ปกก็แล้วกันครับ  ในส่วนของลายเซ็นผลงานของพีที่นักอ่านจดจำคงจะเรื่องความสุดโต่งของตัวละครล่ะมั้งครับ มีกลวิธีและลักษณะนิสัยที่ชัดเจน แล้วก็พวกพล็อตเรื่องที่เป็นแนวรักวัยรุ่นแต่จะแทรกเรื่องราวแปลก ๆ ในแบบที่คนอ่านคาดไม่ถึงว่าจะเจอในนิยายรักอะไรทำนองนั้น  ท้ายนี้หากนักอ่านสนใจซื้อนิยายหรือติดตามผลงานของพีได้ที่เพจ โอ้วว ชีทเค้กโดยตรงครับ, หรือถ้าอยากอ่านบทความเรื่องสั้นสามารถกดติดตามได้ที่ Fb. EIL Qahiras ส่วนงานล่าสุดจะเป็นเรื่องที่ 3 ของเซ็ตยักษ์น่าจะมีข่าวดี ๆ ในเดือนสองเดือนนี้  และตอนนี้พีเหมือนกลับมาเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด เรื่องที่กลับมาอัปเดตคือ ฤารักอสุรีครับ และแพลนว่าน่าจะเปิดพรีในอีกเดือนหรือ 2 เดือนนี้ครับ ยังไงพีก็ขอฝากเรื่องนี้และผลงานทุก ๆ เรื่องของพีไว้ในอ้อมอกนักอ่านทุกท่านด้วยนะครับ ❤️”

          เฉลยคำถามผลงานล่าสุดของ “ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ” : เพื่อนไม่จริง กับสำนักพิมพ์ Lavender Publishing

         คำถามนิยายเซ็ตยักษ์ตนที่ 3 ของ “โอ้วว ชีทเค้ก” ที่เปิดพรีชื่อเรื่อง/เป็นเรื่องของคู่ไหน?

ทราบคำตอบ เขียนชื่อ – ที่อยู่ และคำตอบให้ชัดเจน ลงไปรษณียบัตร ส่งมาที่

เปิดปก…อกนักเขียน

เลขที่ 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 

ผู้ตอบถูก 3 ท่านได้รับนิยายของ “โอ้วว ชีทเค้ก” (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)

หมดเขตส่งคำตอบ 30 เมษายน 2564

Related posts