เที่ยวทั่วไทยไปกับพี่หนุ่ม’สุทน : พาไปวัดแก้วพิจิตร อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี เยี่ยมชมศิลปะ4ชาติผสมผสานกันบริเวณรอบอุโบสถ มีศิลปะไทย จีน ยุโรปและเขมร

เที่ยวทั่วไทยไปกับพี่หนุ่ม’ สุทน” ทักทายกันวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน 2563 วันนี้ขอพาทุกท่านไปเยี่ยมชมศิลปะ 4 ชาติผสมผสานคือ ไทย จีน ยุโรปและเขมรที่บริเวณรอบอุโบสถวัดแก้วพิจิตร เขตอำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี

วัดแก้วพิจิตรนี้เป็นวัดโบราณเก่าแก่อีกวัดหนึ่งของเมืองปราจีนบุรี ตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าหัวรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งนั้นมีผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนาคือ นางประมูล โภคา หรือ แก้ว ประรังสิต ร่วมกันสร้างวัดริมแม่น้ำปราจีนบุรีเป็นวัดเล็กๆ ต่อมาเมื่อเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) เดินทางกลับมาจากเมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชาหรือเขมร ผ่านเมืองปราจีนบุรีแล้วเห็นว่าเป็นเมืองที่มีอากาศดี มีธรรมชาติหลากหลายทั้งภูเขา ทะเล ซึ่งเหมาะมากกับการพักผ่อนตากอากาศ จึงขอตั้งหลักปักฐานอยู่เมืองปราจีนบุรีแล้วก็มาบูรณะวัดแก้วพิจิตรโดยจัดสร้างเสนาสนะ เช่น ศาลาการเปรียญ หอไตรและที่โดดเด่นสะดุดตามาก ๆ คือตัวอุโบสถวัดแก้วพิจิตร ชาวแฟนเพจทุกท่านน่าจะหาโอกาสสักครั้งหนึ่งไปเที่ยวเมืองปราจีนบุรีให้ได้นะครับ ไปชมความงามของธรรมชาติและวัดแก้วพิจิตร ค่อยๆพินิจพิจารณาความสวยงามของศิลปะผสมผสาน 4 ชาตินั้นแล้วจะได้รักและหวงแหนและรู้ค่าของสมบัติบ้านเราเมืองเรากันอีกมากโขเลยนะครับ หนุ่มสุทน ขอนำเสนอ เริ่มต้น

จุดที่ 1 ยืนอยู่ด้านนอกกำแพงแก้วแหงนหน้ามองหลังคาอุโบสถมีช่อฟ้าใบระกา ส่วนหน้าบันเป็นวิมานพระอินทร์ล้อมรอบด้วยช่อดอกไม้วิจิตรศิลป์งดงามเป็นศิลปะไทย

จุดที่ 2 ถัดลงมาตัวพญามังกรมุงหลังคาศิลปะของจีนเป็นมงคลยิ่งใหญ่ตามความเชื่อของชาวจีนสมัยโบราณ

จุดที่ 3 ตัวเสารอบอุโบสถเรียกว่าโครินเธียลศิลปะแบบยุโรปและ

จุดที่ 4 ประตูซุ้มกำแพงแก้วสีชมพูดูโดดเด่นเช่นกันศิลปะเขมร

เนื่องจากเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นเจ้าเมืองปราจีนแต่อยู่เขมรนาน คงได้รับอิทธิพลศิลปะเขมรมาด้วย ค่อยๆ เดินชมให้รอบด้านตัวอุโบสถ เสร็จแล้วเข้าภายในอุโบสถตั้งจิตใจให้เป็นสมาธิ กราบบูชาองค์พระพุทธรูปปางประทานอภัยหรือหลวงพ่ออภัยวงศ์ องค์พระประธานในอุโบสถ สำหรับองค์หลวงพ่ออภัยวงศ์นั้นสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงออกแบบเพื่อให้ช่างหลวงหล่อเป็นองค์พระพุทธรูปประดิษฐานในอุโบสถวัดแก้วพิจิตรเพื่อรำลึกถึงเจ้าพระยาอภัยภูเบศร สำหรับองค์พระพุทธรูปเชื่อว่าหล่อด้วยทองแดงผสมผสานโลหะสำริดดังนั้นสีออกมาคล้ายๆ สีดำ

เสร็จแล้วขึ้นไปที่ศาลาการเปรียญเยี่ยมชมพระพุทธรูปเก่าแก่ไม่ปรากฎหลักฐานว่าจัดสร้างสมัยใดมีเพียงแค่เรื่องราวเล่าขานกันเองว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ทรงโปรดฯ พระราชทานให้เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ต่อมาเมื่อบูรณะวัดแก้วพิจิตรแล้วจึงได้อัญเชิญมาถวายวัดแก้วพิจิตร และครั้งกระนั้นทางท่านเจ้าอาวาสเห็นว่าเป็นพระพุทธรูปทององค์เล็กๆ เกรงว่าจะถูกขโมยก็ซุกซ่อนไว้ใต้เตียงแล้วต่อมาประมาณ 60-70 ปี เปลี่ยนเจ้าอาวาสแล้วอยู่วันหนึ่งทางวัดแก้วพิจิตรได้ทำความสะอาดกุฏิเจ้าอาวาสก็พบเจอองค์พระพุทธรูปทองคำหน้าตักกว้าง 7 นิ้ว ทางวัดก็เกรงจะไม่ปล่อยภัยจึงไปเก็บในตู้เซฟหรือตู้นิรภัยของธนาคารในตัวเมืองพิจิตรจนถึงปี พ.ศ. 2546 ทางคณะกรรมการวัดแก้วจิตรได้ปรึกษากันเองแล้วอัญเชิญกลับมาประดิษฐานในศาลาการเปรียญนั้นคือองค์พระพุทธรูปพระรัตนสุวรรณ ซึ่งเป็นห้องที่มีความปลอดภัยและผู้คนสามารถเข้าไปกราบบูชาได้ครับ

น่าไปเที่ยวครับวัดแก้วพิจิตรริมแม่น้ำปราจีนบุรีพระอารามหลวงชั้นตรี เขตอำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี หนุ่มสุทนเดินทางไปเพื่อเก็บเรื่องราวมาเขียนเล่าให้ชาวแฟนเพจทุกท่านฟังแล้วไปเที่ยวกันเองนะครับ วันนี้ขอบคุณและสวัสดี

เรื่องและภาพโดย : หนุ่มสุทน รุ่งธัญรัตน์

แฟนเพจเฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/

#ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว 100.5fm ทุกวันอาทิตย์ เวลา 10.10-11.00 น.

#เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel #Tourism local life ชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวไทยยั่งยืน

Related posts