วัดพระแก้ว​ แห่งสรรคบุรี​ จ.ชัยนาท

วัดพระแก้ว​ เป็นวัดเก่าแก่โบราณ​อีกวัดหนึ่งตั้งอยู่ในตำบลแพรกศรีราชา​ อำเภอสรรคบุรี​ จังหวัดชัยนาท​ ห่างจากตัวเมืองชัยนาทมาทางทิศใต้​ 23​ กิโลเมตร​ เป็นโบราณ​สถานที่น่าศึกษา​เพราะเป็นวัดสำคัญ​อีกแห่งหนึ่งที่โดดเด่นด้วยเจดีย์​สี่เหลี่ยมที่มีความงดงาม​ จนได้ขนานนามว่าเป็นราชินี​แห่งเจดีย์​ทั้งมวลในเอเซียอาค เนย์ซึ่งไม่เกินจริง​ในความงดงามที่ประจักษ์​ตา​

เราเดินทางมาพบกับอาจารย์​จรรยงค์​ พุ่มผล​ รองผู้อำนวยการโรงเรียน​อนุบาล​ชัยนาท​ ผู้ทรงคุณวุฒิ​ด้านวรรณกรรม​และภาษาของชัยนาทพร้อมทั้งน้องฟ้าและน้องแหม่ม​ 2​ สาวเจ้าหน้าที่​ททท.สำนักงานลพบุรี​ที่เดินทางมาให้ความสะดวกเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสาร​ในพื้นที่ชัยนาทด้วยความร่วมมือกันหลายฝ่ายในครั้งนี้​ ท่านอาจารย์​จรรยงค์​ได้อธิบายความเกี่ยวกับเจดีย์

 

   ลักษณะ​ของเจดีย์​จะเป็นแบบละโว้ทรงสูงผสมกับเจดีย์​ทราวดีตอนปลาย​ ฐานเรือนธาตุ​แบบลดท้องไม้​เป็นศิลปะสมัยสุโขทัยผสมผสานกับสมัยศรีวิชัย​ บริเวณ​ด้านหน้าองค์เจดีย์​ จะเป็นวิหารของหลวงพ่อฉาย​ ซึ่งเป็นพระประธานอยู่ในวิหาร​ ที่แปลกแตกต่างจากพระประธาน​ที่เราเคยพบ​ หลวงพ่อฉาย​ ด้านหลังจะมีการสลักลายจากหินทรายเป็น​นรูป​ ทับหลัง​ แกะสลักติด​อยู่​และมีการลงอักขระด้านหลังจึงมีความแตกต่างกันมาก​ เวลาไปกราบไหว้องค์​หลวงพ่อ​ฉาย​ต้องเดินไปดูด้านหลังจะเห็นความแปลกตาน่าทึ่ง​ หลวงพ่อฉาย​เป็นพระพุทธรูป​เก่าแก่ที่สร้างด้วยศิลาแลง​ สร้างมานานประดิษฐานอยู่ในวิ​ หาร​ ด้านหน้าจะมีพญานาค​ 2​ ตัวขนดหางหันหน้าเข้าหากันดูเกรงขามและน่าเคารพยิ่ง

    หลวงพ่อฉาย​ สันนิษฐานกันว่าน่าจะมีอายุประมาณ​ 800  กว่าปีมาแล้ว​ ด้านหน้ามีลักษณะ​ เหมือนพระพุทธรูป​ทั่วไปเป็นปางมารวิชัย​ แต่ใน​ ด้านหลังกลับมีลายแกะสลักนูนเป็นรูปทับหลังพระอินทร์​ทรงช้าง​เอราวัณ​ในเรือนแก้วฝังอยู่ใน​ องค์​พระลักษณะ​กลับหัว​ ทับหลังนี้เป็นศิลปะของขอมโบราณ​อายุราวพันกว่าปี​ นำมาสร้างหลวงพ่อฉายอยู่ด้านหลังพนะพุทธ​รูป​โบราณ​ ทับหลังกลับหัวนี้มีการตีความด้านปริศนา​ธรรมว่า​ ผู้ที่ต้องการความสำเร็จ​สูงสุด​เช่นพุทธองค์​ จะต้องรู้จักปฏิบัติ​ทวนกระแส​ แห่งโลภะ  โทสะ​ โม​หะ​ ถึงจะพบความสุขแห่งชีวิต​ ซึ่งอาจารย์​จรรยงค์​ได้ให้คำนิยามอย่างนั้น​ พวกเราออกเดินทางต่อไปยังวัดมหาธาตุ​ วัดเก่าแก่อายุกว่าพันปีแห่ง​ อำเภอสรรคบุรี​ ชัยนาทที่เพิ่งขุดพบเครื่องชามสังคโลก​ในสมัยราชวงศ์​ซ้องเป็นที่น่าตื่นตา

    วัดมหาธาตุ​ ตำบลแพรกศรีราชา​อำเภอสรรคบุรี​ จังหวัดชัยนาท​ ซึ่งมี​ พระครู​สิทธิชัย​ รังสรรค์​ เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ​ได้อำนวยความสะดวกและได้เล่าถึงรายละเอียดเกี่ยวกับวัดนี้สันนิษฐาน​ว่าสร้างก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยา​และก่อนกรุงสุโขทัย​ การขุดพบโบราณ​วัตถุ​เกี่ยวกับเครื่องใช้สังคโลก​ในสมัยราชวงศ์​ซ้อง​ ซึ่งมีอายุกว่าพันปี​ ในบริเวณ​นี้เคยเป็นอาณาจักร​ที่รุ่งเรือง​ในสมัยก่อนเมืองสรรคบุรี​จึงเป็นเมืองเก่าแก่​ และมีสกุลช่างที่บ่งบอกเอกลักษณ์​ว่าเป็นเมืองโบราณ​พันปี​ ซึ่งสันนิษฐาน​ว่าเป็นเช่นนั้น

   มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์​คือพระปรางค์​กลีบมะเฟือง​สร้างฐานด้วยอิฐถือปูน​ 3​ องค์​พระปรางค์ ​มีลักษณะ​คล้ายกลีบมะเฟือง​ ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมเป็นศิลปะสมัยลพบุรี​ รวมทั้งพระวิหารและหมู่เจดีย์​ต่างๆสร้างด้วยศิลปะแสนงดงามเรียงรายกันภายในวัดมหาธาตุ​ การเดินทาง​เข้ามาในวัดจะต้องมากราบไหว้หลวงพ่อหลักเมือง​ เพราะเบื้องหลังของท่านมีแผ่นศิลาสองแผ่นสลักลายเทวรูปปัก​อยู่​คู่กัน​ ชาวบ้านจึงเรียกว่าหลักเมือง​ ส่วนชื่อนั้นมาทีหลังจากชาวบ้าน​ที่เจ็บไข้ได้ป่วยมักจะมาบนบานศาลกล่าวขอพรขอน้ำมนต์​ไปดื่มกินเพื่อรักษา​ไปตามความเชื่อ​ กลับหายจากโรคภัยจึงให้ชื่อว่าหลวงพ่อหลักเมือง​ เป็นพระพุทธรูป​ศักดิ์สิทธิ์​อีกองค์

 

    ภายในวัดมหาธาตุ​ บริเวณ​ด้านหลังวัดลักษณะ​จะคล้ายกับเมืองเก่ามีโบราณ​สถาน​พระพุทธรูป​เก่าแก่หลายองค์​ประดิษฐาน​อยู่​ ที่เด่นชัดสุดจะเป็นองค์​พระมหาธาตุ​ที่ก่อสร้างด้วยอิฐสีแดง​ ปัจจุบัน​ยังคงเหลือไว้แค่ฐานสี่เหลี่ยมมีผ้าสีเหลืองพันรอบองค์​พระธาตุ​ ด้านหน้าองค์​พระธาตุ​ยังมีโบสถ์​มหาอุดอีกหลัง

​ ส่วนภายในวัดยังมีพระพุทธ​รูปอีกหลายองค์​ตั้งเรียง​รายภายในวัด​ นอกจากนั้นยังมีภาพแกะสลักหินทรายรูปนารายณ์​บรรทมสินธุ์​ ให้กราบสักการะ​ในศาลาด้านหน้า​ ซึ่งท่านพระอาจารย์​ได้ให้คำแนะนำอย่างดีในการเข้ามาชม​ บริเวณวัดและภายในอำเภอสรรคบุรี​นี้​ ถูกขุดค้นพบเครื่องชามสังคโลก​ในสมัยราชวงศ์​ซ้อง​ จึงทำให้สรรคบุรี​กลายเป็นเมืองเก่าแก่อายุนับพันปีก่อนกรุงสุโขทัย​และกรุงศรีอยุธยา​ พวกเรารับทราบถึงความยิ่งใหญ่ของวัดมหาธาตุ​ กราบอำลาพระอาจารย์​เดินไปต่อเพื่อไปร่วมงานลอยกระทง

Related posts