เขียนตามคิด………ปัญญา ไกรทัศน์ บ้านเหล่าจันทร์ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม

 

 

ที่ไหนก็ได้ในประเทศไทย ที่ชาวบ้านอยากทำท่องเที่ยวชุมชน ผมขับรถตะลอนๆไป ช่วยสานฝันให้ชาวบ้าน

 

    บ้านเหล่าจันทร์ ตั้งในพื้นที่อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม

    นาง จากบ้านหลุบควัน ขี่มอไซด์นำหน้า ไปในเส้นทางลัดที่เจอหลุม หลบหลุม ก็ตกหลุม ผ่านท้องนา ควายเคี้ยวหญ้าอ่อนหันมามองหน้า แล้วพยักหน้าทักกัน ก่อนควายก้มลงไปดึงหญ้ามาเคี้ยวแต่ชายตามองรถของผมที่ผ่านเลย วัวออกมาขี้กลางถนนให้ล้อรถของผมเหยียบ ให้ขี้วัวกระจายติดตรงประตูเพื่อบอกว่า มาเยี่ยมที่บ้านเหล่าจันทร์ มหาสารคามแล้วเด้อ ฝากขี้วัวติดรถกลับกรุงเทพด้วย

     ผู้ใหญ่สังวรณ์ ฟ้าลั่น เจ้าหน้าที่อบต. มงคล กรรมการหมู่บ้าน สุรินทร์ อบต. วิ่งมาถามผมว่า จะนั่งปิคอัพไปดีกว่าไหม ผมหันไปเห็นซาเล้ง ผมชี้ขอนั่งซาเล้ง ทุกคนหันมามองหน้าผม อ้าปากค้าง เหวอกะผม ผมบอกนั่งซาเล้งดีกว่า มันกว่า ผมชอบ ผมนั่งท่าสบาย นางหันมาถามว่า ไม่กลัวตกเหรอ ถ้ารถคว่ำทำไง ผมหันไปถามผู้ใหญ่สังวรณ์ว่า รถของใคร ผู้ใหญ่บอกว่า ของผม ผมค่อยหัวเราะร่วน พร้อมบอกว่า โอ๊ย ผู้ใหญ่ไม่ขับให้คว่ำหรอก

      เรามาถึงป่าชุมชนของบ้านเหล่าจันทร์กับบ้านหลุบควัน

      ผมบอกทั้งสองชุมชนว่า ไปหาต้นดอกรักมาปลูกสองข้างทางให้เป็นแถว และตั้งชื่อถนนสายนี้ว่า

     ถนนดอกรัก

    ยามที่ต้นดอกรักออกดอก ขอให้ 2 ชุมชน ส่งคนมาช่วยกันเก็บ ส่งเข้ามาขายกรุงเทพ ให้เขาร้อยพวงมาลัยขาย รายได้เข้ากองกลางสองชุมชน สิ้นปีมีปันผล แจกจ่ายคนที่มาทำงาน อย่าลืมทำตามนี้

     เราเดินเข้าป่า ผมจับหน้าอกที่มีองค์พระกรุนาดูน รุ่นกรุแตกปี 22 กับรุ่นกรุแตก ปี 55 บอกว่า ผมมาดี มาพัฒนา อย่าให้ผมเดินหลงป่า พระสององค์สั่นในกระเป๋าจนผมต้องชะโงกมองลงไปนึกว่าลูกกบกระโดดลงไปดิ้นในกระเป๋า เห็นมีแค่พระสององค์

      ผมบอกว่า หาสมุนไพรมาปลูก หาไม้แดกมาปลูก ไม่ต้องไม้ดอก เพื่อให้สัตว์ไว้กินเป็นอาหาร เพื่อสร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ เชิงธรรมชาติ และให้คนมาส่องสัตว์ป่าถ่ายรูป

      เส้นทางนี้สามารถเชื่อมโยงกับบ้านหลุบควันเพื่อไปยังบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์

     ผมนั่งเล็งถ่ายภาพ ตาจ้องมองว่า เลขอยู่ตรงไหน เห็นแต่เลข 2 ตรงด้านข้างของหลักที่อายุเยอะนับพันปี ลืมนึกไป ไม่งั้นผมเอาแป้งทาตัว มาทาหาเลข อยากรวยมั่ง ผมเพ่งไปที่แท่งหิน ตั้งจิตอธิษฐาน ให้ผมมีโอกาสมาพัฒนาให้

     ภูมิปัญญาชาวบ้าน เอาถุงพลาสติกพันต้นไม้ไว้กันเดินหลงป่า ผมเดินตามถุงพลาสติกออกมา

       ชาวบ้านที่นี่เลี้ยงกบ น้ำพริกคั่วกบจึงเป็นที่ขึ้นชื่อลือชา แถมที่นี่มีตลาดนัดอีกต่างหาก

   มีควายหล่อแต่ตัวเตี้ยสักนิด ยืนเป็นนายแบบ ชอบเดินเล่นในน้ำ พอเห็นหน้าผม มันค่อยๆเดินไปตรงอื่น แต่พอเจอสาว มันจะยื่นจมูกไปหา

 

     เสียดายที่คณะพาสาวนางแบบไปหลบ ไปซ่อนเลยไม่เห็นหน้าสาวสวยแห่งเหล่าจันทร์

    ของดีที่นี่มีผ้าหมกโคลน

    ที่นี่เลี้ยงกบเยอะมาก อาชีพคนที่นี่จึง ทำผัดเผ็ดหรือน้ำพริกกบใส่กระปุกขาย ออกงานเมื่อไหร่ แบกแต่ตังค์กลับบ้านทุกที เพราะขายของหมดก่อนงานเลิกทุกที

     ผมชิมไปครึ่งกระปุกเพราะ คณบดีคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตักให้ผมชิม

     อร่อยสุดยอด

     ผมออกมายืนมองที่เขาบรรจุ ถุงละสามกระปุก และคณบดีควักตังค์ชิงจ่าย

     รสชาติระดับนี้

     ฝีมือขนาดนี้

      ถ้านำไปทำระบบให้ดี บรรจุกระป๋อง ออกแบบฉลากให้เด่น

     สินค้าตัวนี้น่าจะทำเงินได้ในแคนาดา เยอรมนี ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา เพราะคนลาว คนเขมร คนเวียดนามและคนอิสานย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่นั่นเยอะ

      เจอสินค้าดีในวันที่ผมไม่มีตำแหน่งหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกในแวดวงราชการเสียแล้ว

      ผมมองข้ามไปว่า

      ถ้าคณะวิทยาศาสตร์ และคณะที่เกี่ยวข้องร่วมกันทดลอง ทดสอบ พัฒนาจนลงกระป๋อง คณะสถาปัตยกรรม ออกแบบฉลาก จะกลายเป็นสินค้าที่เด่นและสะดุดตามาก แม้นว่าที่นี่โอท็อปยังไม่เหล่ตามามอง

 

      ผ้าหมักโคลนที่วางขาย

      ผมบอกให้เขียนโครงการ บอกให้ทำห้องน้ำให้ดี ซ่อมแซมให้เป็นหน้าตา ซ่อมอาคารเอนกประสงค์ที่พายุยกหลังคากับโครงลงมาวางไม่ไกลให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ พัฒนายกระดับบ้านของชาวบ้านให้เป็นโฮมสเตย์แนวใหม่ไม่ใช่ดักดานแบบที่กรมการท่องเที่ยวไปตรวจประเมินและทำมาตรฐานไว้

       ตรงนี้ทำท่องเที่ยวชุมชนสบายๆ

      แถมมีศิลาจารึกอีกหลักในพื้นที่ กับอีกหลักเชื่อมต่อแดนกับบ้านหลุบควัน

       มันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงผจญภัยกี่งประวัติศาสตร์เชิงนิเวศน์ได้แบบสบายๆ

      ซาเล้งพาผมมาส่ง คนขายของในตลาดนัดมองผมจากหัวจรดเท้า คงจะคิดในใจว่า คนบ้าอะไรว่ะ ขับฟอร์จูนเน่อร์มานั่งซาเล้งแบบสนุกสนาน

      คราวหน้ามีโอกาส น่าไปทำระบบท่องเที่ยวชุมชน จัดวางระบบผลิตภัณฑ์ของฝาก

     ผมฝากการบ้านให้หาไผ่สีสุกมาปลูก ไว้ตัดลำทำข้าวหลามผัดเผ็ดกบ กับ ผัดเผ็ดปลา

      ตัดสมุนไพรส่งขายคณะเภสัชศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหาสารคามให้พัฒนาตัวยาออกขายทั่วแคว้นแดนอิสาน

     ผมเงยหน้ามองฟ้า ดวงตะวันโบกมือลา ผมยกมือไหว้ร่ำลาทุกคน พร้อมกำชับทำตามแผนที่บอก

      ตั้งใจว่า จะขับรถเข้าชัยภูมิเพื่อนอนสักราตรีก่อนตียาวเข้ากรุงเทพในรุ่งสาง

       คณบดีบอกให้ผมกลับไปนอนที่ห้องพักรับรองในคอนโดมิเนียม เปลี่ยนห้องใหม่ แอร์เย็นเจี้ยบ ผมกระดกน้ำพรวดเดียว ล้วงพระกรุพระนาดูนทั้งสององค์ออกจากกระเป๋า บริกรรมคาถาปลุกพุทธคุณ ๆท่านแรงกล้านัก ผมปลุกท่านเพื่อให้คุ้มครองให้ผมหลับสนิททั้งคืนเพราะจะต้องตื่นแต่เช้าขับรถเข้ากรุงเทพ เพราะคืนก่อนหน้า มีคนขย่มประตูห้อง แล้วสลายหายไปไม่ยอมเจอ

     มหาสารคาม มีของดีซุกซ่อน ขาดการเจียระไน ถ้าค่อยๆปรับความคิดของชาวบ้าน เคี่ยวเข็ญให้เขาทำ ที่นี่คือเหมืองทองที่กระจายเต็มไปทั่ว

     ผมจะกลับมาช่วยวางแผนพัฒนาให้

Related posts