“จุฑาธิป” สุดยอดผงาดแชมป์ลิ่วโอลิมปิก “เสธ.หมึก” ลุ้นได้โควต้าเพิ่ม 2 หรือ 3 คน

จุฑาธิป” สุดยอดผงาดแชมป์ลิ่วโอลิมปิก “เสธ.หมึก” ลุ้นได้โควต้าเพิ่ม 2 หรือ 3 คน

 

 “บีซ” โชว์ลีลาสุดยอด ผงาดคว้าแชมป์วันเดย์เรซ “ทัวร์ ออฟ ตราด” พร้อมโกยแต้มตีตั๋วลิ่วโอลิมปิกเกมส์ 2020 เรียบร้อยตามคาด และได้รับถ้วยพระราชทานไปครองถึง 4 ใบ ขณะที่ “ไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม” ก็ผลงานเลิศได้ครองถ้วยพระราชทาน ประเภทชนะเลิศอาเซียน ทั้ง 2 ประเภท “เสธ.หมึก” ปลื้มผลงานนักกีฬา รอลุ้นโคว้าต้าว่าจะได้เพิ่ม 2 หรือ 3 คน

การแข่งขันจักรยานทางไกลสตรีนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ตราด 2019” ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ประเภทวันเดย์เรซ ระดับ “ยูซีไอ อีลิท 1.1” แข่งวันเดียวจบ ไม่รวมกับผลการแข่งขัน 2 วันแรกซึ่งจบไปแล้ว เส้นทางจากหน้าศาลากลางจังหวัดตราด ไปเข้าเส้นชัยที่ อ.แหลมงอบ สุดแผ่นดินตะวันออกของไทย ระยะทาง 93.8 กม.

เส้นทางการแข่งขันเป็นเนินขึ้น ๆ ลง ๆ ตลอดทาง แต่ก็ไม่ถึงกับสูงนัก กลางทางมีฝนตกลงมาเล็กน้อย ช่วง 50 กม. แรก มีการกระชากหนีกันถึง 3 รอบ และช่วง 10 กม. ก่อนถึงจุดแย่งชิง “เจ้าความเร็ว” หรือ IS ซึ่งมีให้เก็บแค่จุดเดียว จันทร์เพ็ง กระชากหนีออกมาพร้อมกับ ลี จู มี นักปั่นเกาหลีใต้, มิซูสุ ชิโมยาม่า ญี่ปุ่น และรัสเซีย 2 คน ไดอาน่า คลีโมว่า กับ อนาสตาเซีย พลิอาสกิน่า และ เชลซี เหว่ย ฉี ตัน สิงคโปร์ รวม 6 คน

เมื่อถึงจุด IS กม.ที่ 55.5 ทางขึ้นเนินเล็กๆ จันทร์เพ็ง ยกสปรินต์ขึ้นมาก่อน ขณะที่คนอื่นๆ ก็ยกตาม แต่ยังสู้ความแข็งแกร่งของ ลี จู มี กัปตันเกาหลีใต้ไม่ได้ สาวโสมขาวคว้า IS ไปครอง เหลือระยะทางอีก 30 กม. กลุ่มใหญ่นำโดยนักปั่นทีมชาติไทย ครบ 5 คน รวมทั้งไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม ที่เหลือก็ไล่ตามรวบกลุ่มสำเร็จ แต่อนาสตาเซีย ยังกระชากหนีออกไปคนเดียวได้ แต่นำได้ไม่นานก็โดนรวบเช่นกัน

เข้าสู่ช่วง 1 กม.สุดท้าย “บีม” ชนิภรณ์ บัตริยะ จากไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม กระชากหนีออกมาเป็นผู้นำ เพื่อเบิกทางให้  จุฑาธิปที่เร่งเครื่องขึ้นมาเกาะกลุ่มหัวแถว แต่ยังมี ยูมิ คาจิฮาร่า กัปตันญี่ปุ่น ขนาบข้างติดมาด้วย รวมทั้งนักปั่นเกาหลีใต้ และก่อนจะเข้าทางตรง 200 เมตร “บีซ” ตัดสินใจฉีกออกขวา แล้วยกสปรินต์ทันที ขณะที่ คาจิฮาร่า พยายามไล่กวด แต่สู้แรงสปรินต์ของ จุฑาธิป ไม่ได้ ส่งผลให้นักปั่นสาวไทยเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก คว้าแชมป์ไปครองอย่างสวยงาม

สรุปผลแข่งขัน วันเดย์เรซ ประเภทบุคคล ชนะเลิศ “บีซ” จุฑาธิป นักปั่นสาวไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม ได้ “เสื้อส้ม” ไปครอง และรับเงินรางวัลพิเศษจากสมาคมฯ 20,000 บาท, ที่ 2 ยูมิ คาจิฮาร่า ญี่ปุ่น ที่ 3 ยู ซอน ฮา เกาหลีใต้ เวลา 2.27.42 ชั่วโมงเท่ากัน โดยมี จันทร์เพ็ง นนทะสิน เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 12

บุคคลอาเซียน ชนะเลิศ “บีซ” จุฑาธิป ได้ “สื้อฟ้า” ไปครองอีกตัว, ที่ 2 ไออุสติน่า เดเลีย พริแอตนา (ทีมชาติอินโดนีเซีย), ที่ 3 จันทร์เพ็ง เวลา 2.27.42 ชั่วโมงเท่ากัน

ประเภททีมเวลารวม ชนะเลิศ เกาหลีใต้, ที่ 2 ญี่ปุ่น, ที่ 3 ไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม เวลา 7.23.06 ชั่วโมงเท่ากัน ส่วนประเภททีมอาเซียน ชนะเลิศ ไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม เวลา 7.23.12 ชั่วโมง, ที่ 2 อินโดนีเซีย  ที่ 3 สิงคโปร์ เวลา 7.23.15 ชั่วโมงเท่ากัน

รางวัลเจ้าความเร็ว ที่ 1 ลี จู มี เกาหลีใต้ ที่ 2 ไดอาน่า คลีโมว่า รัสเซีย , ที่ 3 จันทร์เพ็ง นนทะสิน ด้านรางวัลนักบู๊ยอดเยี่ยม อนาสตาเซีย พลิอาสกิน่า รัสเซีย

 

39452805

 

ด้านนักกีฬาและทีมที่ได้ครองถ้วยพระราชทาน ทั้ง 9 ถ้วย แบ่งเป็น ถ้วยพระราชทานของ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ประเภทสเตจเรซ จำนวน 5 ถ้วย ประกอบด้วย

ถ้วยชนะเลิศประเภทบุคคลเวลารวม ได้แก่ ยูมิ คาจิฮาร่า ญี่ปุ่น

ถ้วยชนะเลิศประเภททีมเวลารวม เกาหลีใต้,

ถ้วยชนะเลิศประเภทคะแนนรวม (เจ้าความเร็ว)แก่ จุฑาธิป มณีพันธุ์,

ถ้วยชนะเลิศบุคคลอาเซียน  จุฑาธิป มณีพันธุ์ และ

ถ้วยชนะเลิศประเภททีมอาเซียน ไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม

 

ถ้วยพระราชทานของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ประเภทวันเดย์เรซ จำนวน 4 ถ้วย ประกอบด้วย

ถ้วยชนะเลิศประเภทบุคคล จุฑาธิป มณีพันธุ์,

ถ้วยชนะเลิศประเภททีมเวลารวม เกาหลีใต้,

ถ้วยชนะเลิศบุคคลอาเซียน จุฑาธิป มณีพันธุ์ และ

ถ้วยชนะเลิศประเภททีมอาเซียน  ไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม

 

พล.อ.เดชา กล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้ นับว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย แม้ประเภทสเตจเรซ จุฑาธิป จะได้ที่ 2 แต่คะแนนรวมกับเพื่อน ๆได้มาถึง 154 คะแนน ในวันเดย์เรซ จุฑาธิป เข้าที่ 1ได้อีก 125 คะแนน ได้ไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ ญี่ปุ่นแน่นอนแล้ว 1 คน คือ จุฑาธิป ส่วนจะได้เพิ่มเป็น 2 หรือ 3 ก็ต้องลุ้นกันต่อไป ตอนนี้คะแนน “โอลิมปิก แรงกิ้ง” ของทีมชาติไทยน่าจะขยับขึ้นไปอยู่ที่ 9 หรือ 10 โดยการคว้าโควต้าโอลิมปิก ต้องอยู่ 1 ใน 22 อันดับแรก

“หลังจากให้นักกีฬาพักผ่อน 2 สัปดาห์ ก็จะกลับมาซ้อมต่อ เตรียมแข่งขันรายการอื่น ๆ เพื่อสะสมแต้มเพิ่ม โดยคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ จะหารือกับสตาฟฟ์โค้ช และนักกีฬาว่าจะวางแผนกันอย่างไร หนทางจะเอาแต้มเพิ่มมีรายการไหนควรไปแข่ง พอหมดช่วงการล่าแต้มในเดือน ต.ค. เราต้องมาดูว่าญี่ปุ่นจัดสนามแข่งขันแบบไหน ทางราบ หรือทางขึ้นเขา จะได้หาสถานที่ฝึกซ้อมให้เหมาะสม ส่วนทีมชายเราก็ไม่ได้ทิ้ง ตอนนี้กำลังตระเวนแข่งขันเก็บแต้มอยู่เช่นกัน”

ด้าน จุฑาธิป กล่าวว่า วันนี้เราทำเต็มที่กันทุกคน วางแผนมาดี รวมใจกันเป็นหนึ่งเดียว ไม่ปล่อยให้ใครหนี ส่วนการที่ไม่ขึ้นไปเก็บ IS เพราะไม่มีผลต่อคะแนน ช่วงที่เหลือระยะทาง 15-10 กม. เหนื่อยมาก ยิ่งเหลือ 5 กม. ก็ยิ่งบีบหัวใจ พอถึง 300 เมตรก่อนเข้าเส้นชัย นักปั่นเกาหลีใต้ พยายามเบียดดักทางซ้าย แต่ตนเองเปลี่ยนเกมฉีกหนีออกขวา พุ่งเข้าเส้นชัยคนแรก ยอมรับว่าทุกคนเหนื่อยสุด ๆ พวกเราทำเต็มที่ทุกแมตช์ แต่ถึงเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องอดทน ต้องสู้ เพราะอยากเห็นนักปั่นไทยไปโอลิมปิก 2 หรือ 3 คน ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ ทุกคนคือทีมชาติไทย วันนี้เราประสบผลสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว

 

39452806

Related posts