“เฮนรี ทราน” ต้อนรับนักแสดงหนังสยองขวัญจากฟิลิปินส์เรื่อง “MALLARI”

            วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ประเทศไทย เปิดตัวทีมนักแสดงนำจากภาพยนตร์ฟิลิปปินส์สยองขวัญ เรื่อง “MALLARI – มัลลารี ตำนานเชือด โลกสะท้าน” ในโอกาสเดินทางมาโปรโมทภาพยนตร์ที่ประเทศไทย ในงาน MALLARI-THAILAND PRESS JUNKET โดยมี เฮนรี ทราน ผู้บริหารวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ประเทศไทย ดูแลและให้การต้อนรับ ณ โรงภาพยนตร์ ENIGMATHE SHADOW SCREEN พารากอน ซีนีเพล็กซ์  

            MALLARI เป็นภาพยนตร์สยองขวัญของชาติฟิลิปปินส์เกี่ยวกับบาทหลวงผู้สังหารเหยื่อ 57 รายในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 และกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องคนแรกในประวัติศาสตร์ของฟิลิปปินส์ที่ได้รับการบันทึกไว้นานกว่า 60 ปีก่อนแจ็คเดอะริปเปอร์ โดยหนังบอกเล่าเรื่องราวน่าขนลุกที่เชื่อมโยงกันของตระกูลมัลลารีสามรุ่น ซึ่งอาศัยอยู่ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นผลงานการกำกับโดย “โรเดอริค คาบริโด” ที่นำแสดงโดย พีโอโล พาสควัล ร่วมด้วย เจซี ซานโตสเอลีส โจซอน, รอน แอนเจลิส, จาแนลลา ซัลวาดอร์, กลอเรีย ดิแอซ เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้ หยวน กวินรัฏฐ์ ยศอมรสุนทร นักแสดงชื่อดังร่วมพากย์เสียงไทยในบทของตัวละครหลักทั้ง 3 ยุค ในบทบาทของ ฮวน เซเวริโน มัลลารีจอห์นเรย์ และ นายแพทย์ โจนาธาน

            ภาพยนตร์สยองขวัญ MALLARI เปิดตัวกระแสแรงขึ้นอันดับต้น ๆ ในช่วงที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ และยังได้รับ 4 รางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์เมโทรมะนิลาครั้งที่ 49 ปี 2023  (MMFF) โดยได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมลำดับที่ 3, รางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม, รางวัลดนตรีประกอบยอดเยี่ยม และรางวัลเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม

            ทีมนักแสดงนำที่เดินทางมาโปรโมทภาพยนตร์ ได้แก่

–           “พีโอโล พาสควัล” รับบทเป็นตัวละครหลัก 3 ตัวของเรื่อง ได้แก่ ฮวน เซเวริโน มัลลารี นักบวชคาทอลิกและฆาตกรต่อเนื่องในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 และจอห์นเรย์ ผู้สืบเชื้อสายมาจากตะกูลมัลลารีในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และโจนาธาน แพทย์ ในยุคปัจจุบัน

–           “เจซี ซานโตส” รับบท บราเธอร์ ลูคัส เพื่อนสนิทของโจนาธาน ผู้มีประวัติครอบครัวร่วมกันมากับตระกูลมัลลารี โดย เจซี ได้รับรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมของหนังเรื่องนี้ จาก เทศกาล MMFF ครั้งที่ 49

–           “เอลีส โจซอน” รับบท เฟลิซิตี้ ผู้เป็นภรรยาของ จอห์นเรย์ ตัวละครหลักในยุคที่ 2

–           รอน แอนเจลิส รับบท ฮวนโว คนรับใช้ของตระกูลมัลลารีในยุคที่ 1

              คราวนี้มาที่บทสัมภาษณ์ของทีมนักแสดงที่มาโปรโมทหนังกัน

คำถาม : การมารับบทนี้ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง แล้วทำไมถึงตัดสินใจมารับเล่นเรื่องนี้

รอน : สิ่งที่ผมทำคือการอ่านบทแต่ไม่ใช่แค่บทของผมแต่เป็นบทของคนทั้งเรื่อง เพื่อที่ผมจะได้รู้เรื่องราวความเป็นไปเป็นมา เพราะว่าบทของผมในเรื่องนี้ไม่ได้มีมากนัก

เอลีส : ด้วยบทของฉันที่เป็นหญิงสาวที่เกิดปี1900 การศึกษาบทของฉันคือ การย้อนกลับไปดูหนังในยุคนั้นเพื่อที่จะไปเรียนรู้ถึงคาแร็กเตอร์ในการพูด การเดิน การแสดงออกในท่าทางต่าง ๆ รวมถึงการรับรู้ว่าชายหญิงสมัยนั้นมีลักษณะความสัมพันธ์อย่างไร มีบทบาทในสังคมแบบไหน

พีโอโล : ผมได้บทในช่วงที่ไปพักร้อนพอดี พอกลับมาก็ต้องเตรียมตัวเข้าฉากเลย ถ้าพูดถึงการเตรียมตัว ผมมีการเตรียมตัวมาก่อนล่วงหน้าอยู่แล้ว ซึ่งในระหว่างการอ่านบทด้วยความที่จะต้องเล่นใน 3 ไทม์ไลน์ บทที่ทางทีมจัดเตรียมไว้ให้คือ การปรับเปลี่ยนฟร้อนท์เพื่อแยกบท 3 ไทม์ไลน์ออกจากกัน ทำให้เวลาอ่านบทอาจจะมีความซับซ้อนยุ่งยากนิดนึงในการทำความเข้าใจ สิ่งที่ผมทำ จะเน้นหนักไปที่การรีเสริชมากกว่า ว่าผู้คนแต่ละยุคแต่ละสมัยมีการแสดงออกอย่างไร มีการแสดงท่วงท่าอย่างไร เพื่อที่จะสื่อออกมาให้ได้คล้องจองไปกับยุคสมัยหรือช่วงเวลานั้นมากขึ้น แล้วช่วงที่อยู่ในกองถ่ายก็จะมีแอ็กติ้งโค้ชคอยประกบตลอดเวลาเพื่อให้การแสดง การสวมบทบาทได้ดีมากยิ่งขึ้น

               โดยปกติแล้ว ตัวผมจะมีการอ่านทบทวนบทในช่วงท้ายวันของทุกวัน เพื่อที่จะซึมซับในเรื่องของคาแร็กเตอร์ และเรื่องของความเข้าใจพื้นฐานที่เป็นของตัวละครทั้งหมด ซึ่งกว่าที่ผมจะอินเข้าไปกับบทบาทแต่ละบทบาท ผมใช้เวลาประมาณ 3 ถึง 5 วันของการถ่ายทําเพื่อเข้าไปล่วงลึกถึงคาแร็กเตอร์ถึงความเป็นไปของตัวละครเรื่องราวความเป็นมาว่าเป็นยังไงบ้างครับ ผมถือว่าเป็นบทที่ท้าทายมากทั้ง 3 ตัวละครเลย ซึ่งผู้กํากับเองก็รู้ดีว่าต้องการให้หนังออกมาเป็นอย่างไร จะส่งบท ส่งอารมณ์ของหนังให้ผมในเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องแบบไหนครับ

เจซี : สําหรับผมนะครับ ถ้าเป็นในเรื่องของการเตรียมตัวในเชิงกายภาพ  หลัก ๆ เลยก็จะออกไปสอบถามผู้คนว่าโดยปกติแล้วเวลาที่นักบวชอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จะมีการปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อที่จะได้วางภาพ และวางคาแร็กเตอร์ออกมาให้สมกับบทบาทที่เป็นนักบวชหนุ่มครับ  ส่วนการเตรียมตัวอีกเรื่องหนึ่งคือ การเตรียมตัวในเชิงสภาพจิตใจ ก็คือ เวลาที่เล่นสวมบทบาทตัวละครตัวนี้ ก็จะมีการตั้งคำถามในใจเลยว่า ความผิดหวังหน้าตาเป็นยังไง เพื่อดื่มด่ำไปกับอารมณ์ความรู้สึกตรงนั้น

คำถาม : อยากถามว่านักแสดงทุกท่านว่าเคยทราบไหมว่าที่ฟิลิปปินส์มีฆาตกรต่อเนื่องคนแรกมาก่อน

เจซี :  สําหรับผมก็เพิ่งทราบเรื่องตอนที่ได้รับบทครับ แล้วก็เริ่มทําการค้นหาในกูเกิ้ลว่า มีความเป็นมายังไงมีเรื่องราวแบบไหน แต่ว่าข้อมูลถือว่ามีน้อยมาก ๆ เลยครับ

พีโอโล :  สําหรับผม คือเพิ่งได้ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ครั้งแรกในจังหวะที่ผมอยู่ในกองถ่ายเรื่องอื่น ที่อยู่ ๆ เพื่อนนักแสดงร่วมในกองได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องฆาตกรต่อเนื่องที่มีอยู่ในโลกแล้วมีการค้นหากันในกูเกิ้ลว่าจะมีฆาตกรต่อเนื่องที่อยู่ในฟิลิปปินส์บ้างไหม แล้วจึงได้พบข้อมูลเรื่องราวของที่เกี่ยวกับ เซเวริโน มัลลารีขึ้นมา ผมจึงเพิ่งรับรู้ถึงการมีฆาตกรต่อเนื่องคนแรกที่มีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของฟิลิปปินส์ ซึ่งข้อมูลมีไม่มากนักครับ

เอลีส : ฉันก็เพิ่งทราบตอนที่ทีมงานได้มีการนําเสนอโปรเจกต์นี้ให้กับฉัน โดยส่วนตัวก็มีความแบบประหลาดใจเหมือนกันที่ว่า ทําไมเรื่องราวของฆาตกรที่เป็นฆาตกรต่อเนื่องคนแรกของฟิลิปปินส์ไม่ค่อยมีการพูดถึงเป็นอย่างแพร่หลายเท่าไหร่ ไม่ได้มีการบันทึกถึงเรื่องราวความเป็นมาเป็นไปเรื่องราวที่เกิดขึ้นขณะนั้นในสื่อของฟิลิปปินส์

รอน : ผมเองก็ไม่เคยทราบมาก่อนเลยครับ ก็เพิ่งทราบตอนที่เหมือนทีมผู้จัดได้มีการบอกเล่าแล้วก็พูดคุยเกี่ยวกับตัวเนื้อเรื่องมากขึ้น ด้วยความที่ข้อมูลมีน้อยมากก็เลยต้องเริ่มคิดว่าผมจะแสดงออกให้สมบทบาทยังไง แล้วจะถ่ายทอดเรื่องราวให้มันครบรูปแบบครบวงจรยังไงบ้างครับ

คำถาม : อยากทราบว่าหนังสยองขวัญเรื่องนี้มันแตกต่างจากหนังสยองขวัญของฟิลิปปินส์เรื่องอื่นยังไง

พีโอโล :   สำหรับผม ถ้าถามว่าหนังเรื่องนี้แตกต่างจากภาพยนตร์สยองขวัญอื่น ๆ อย่างไร ผมไม่สามารถบอกได้ชัดเจน แต่โดยส่วนตัวผมได้สอบถามในเรื่องของมูลค่าการถ่ายทํา มูลค่าของการทําหนังเรื่องนี้ ทางทีมงานได้ช่วยจําแนกออกมาให้เห็นชัดเจนในแต่ละรายการ ทำให้ผมรู้ว่าหนังเรื่องนี้มีมูลค่าสูงมาก ๆ ซึ่งถือว่าพอเทียบกับรูปแบบของหนังที่เป็นประเภท jump scares (จัมป์สแกร์ก็คือเทคนิคที่ผู้สร้างหนังใส่เข้ามาอรรถรสในการรับชมหนังขยองขวัญ โดยมากจะเป็นการทำให้ผู้ชมตกใจแบบไม่มีสัญญาณบอกล่วงหน้า) แล้วถือว่าหนังเรื่องนี้มีการลงทุนที่สูงแล้วก็มีมูลค่าในการถ่ายทําที่ค่อนข้างมาก

               ผมเองก็เคยแบบดูหนังแนวสยองขวัญอื่น ๆ มาก่อนซึ่งถ้าเทียบกันในเรื่องของรูปแบบของประสบการณ์ที่จะได้รับ ก็ถือว่าหนังเรื่องนี้มีองค์ประกอบที่แตกต่างและโดดเด่นมาก ๆ ถือว่าครบถ้วนมากสําหรับหนังแนวสยองขวัญ เพราะว่าไม่ใช่แค่ทําให้ทุกคนรู้สึกกลัวหรืออินไปกับประสบการณ์ที่จะได้รับตรงหน้า แต่ว่าหนังเรื่องนี้จะถ่ายทอดเบื้องลึกเบื้องหลังว่าทําไมถึงกลายมาเป็นโศกนาฏกรรม ทําไมถึงกลายมาเป็นเรื่องราวที่น่ากลัวที่ทุกคนจะได้รับชมครับ

เอลีส : ฉันเองก็คิดคล้ายคลึงกับคุณพีโอโลค่ะ ในเรื่องของการที่องค์ประกอบทุกอย่างเนี่ยมันมารวมผสมกันแล้วเกิดเป็นหนังที่ถือว่ากลมกล่อมมากสําหรับหนังประเภทที่เป็นแนวสยองขวัญแบบนี้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการถ่ายทํา มุมกล้อง นักแสดง บรรยากาศ หรือแม้กระทั่งฉากที่ใช้ในการถ่ายทํา ทุกอย่างคือรวมออกมาแล้วกลมกล่อมกลายเป็นหนังที่ถือว่ามีคุณภาพสูงแล้วก็น่าติดตามมากค่ะ

รอน : ของผมก็จะเป็นในเรื่องของคุณภาพหรือว่ามาตรฐานของการทําหนังนั่นเองครับ คือถ้าพูดถึงในเรื่องของหนังแนวสยองขวัญในประเทศฟิลิปปินส์แน่นอนว่าไม่ได้มีความแตกต่างมากนัก แต่ถ้าพูดเจาะจงไปที่ มัลลารี จะเป็นหนังแนวสยองขวัญที่เป็นของชาวฟิลิปปินส์ในระดับที่เป็นนานาชาติเลย เรียกได้ว่าโปรดักชั่น การถ่ายทํา องค์ประกอบทุกอย่าง ถือว่าส่งให้หนังแนวสยองขวัญฟิลิปปินส์เรื่องนี้ไปสู่ระดับนานาชาติได้ และทางวอร์เนอร์ บราเดอร์สเองก็เหมือนช่วยส่งช่วยเผยแพร่หนังเรื่องนี้ให้ออกสู่สายตาชาวโลกมากยิ่งขึ้นครับ

เจซี : สำหรับผม หนังเกี่ยวกับฆาตกรต่อเนื่องของฟิลิปปินส์คนแรกนี้ถือว่าน่าสนใจมาก เป็นหนังแนวสยองขวัญของฟิลิปปินส์ที่มีการสอดแทรกวัฒนธรรมหลายอย่างที่ผลิตโดยทีมภายในของชาวฟิลิปปินส์เอง ก็ถือว่าเป็นจุดที่สร้างความแตกต่างความโดดเด่นให้กับหนังเรื่องนี้ครับ

คำถาม : ตัวฆาตกรคนนี้แตกต่างจากแจ๊ค เดอะริปเปอร์มากไหม อะไรกันที่ทําให้เปลี่ยนบาทหลวงกลายเป็นฆาตกรได้

พีโอโล :    จริง ๆ แล้วเรื่องราวของ ฮวน เซเวริโน มัลลารี ฆาตกรคนนี้เกิดขึ้นก่อนหน้า แจ็ค เดอะริปเปอร์ อาจจะมีความคล้ายคลึงกันในเรื่องของการเป็นฆาตกรต่อเนื่อง และเป็นการฆ่าแบบเชือดแล้วนําเนื้อหรือเครื่องในของมนุษย์มากิน จุดเริ่มต้นของการที่ผันเปลี่ยนจากบาทหลวงไปเป็นฆาตกรต่อเนื่อง เกิดขึ้นจากการที่เขามีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือแม่ของตัวเองที่มีอาการป่วยบางอย่าง แล้วผ่านการแนะนําที่ได้รับจากคนรับใช้ภายในบ้าน ว่าการที่จะรักษาแม่ให้หายกลับมาเป็นปกติจําเป็นที่จะต้องแม่กินเครื่องในของมนุษย์ เนื้อของมนุษย์ เหตุผลนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเริ่มฆ่าคน แต่ว่าคนที่เขาฆ่าส่วนใหญ่ จะเป็นคนไม่ดีที่อยู่ในสังคมครับ

               ในบทบาทของบาทหลวงคือมันอาจจะสร้างมุมมองความแตกต่างในเรื่องของการรับรู้นิดนึงด้วยความที่การจะเป็นฆาตกรต่อเนื่องคงไม่มีใครจินตนาการว่าจะอยู่ในคราบของบาทหลวงแน่นอน  คือถ้าย้อนกลับไป พฤติกรรมที่เกิดขึ้นกับมัลลารีอาจจะเกี่ยวข้องกับอาการทางจิตที่ไม่ปกติด้วย แต่ในยุคสมัยนั้นความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาการทางจิตมีค่อนข้างน้อยเลยเหล่านี้อาจจะเป็นปัจจัยที่ร่วมกันแล้วที่ทําให้ผันเปลี่ยนให้เกิดเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่เกิดขึ้น

คำถาม : ขอถามถึงการถ่ายทําในกองถ่าย ว่าเป็นอย่างไรบ้าง สนุกไหม ทุกคนร่วมงานกันครั้งแรกหรือเปล่า

รอน :  นี่คือการร่วมงานครั้งแรกกับทุกคนครับ ผมเคยเห็นหน้าค่าตาของนักแสดงท่านอื่นมาก่อนแล้วบ้างครับ โดยรวมบรรยากาศภายในกองถ่ายก็ถือว่าสนุกครับ เช็ตติ้งหรือฉากของผมส่วนใหญ่ก็คือจะอยู่ภายในบรรยากาศที่เป็นปี 1800 ฉะนั้นก็จะอยู่ในอาคารบ้านเรือนที่เก่าเก่าอายุแบบร้อยปี ก็จะให้อารมณ์แบบประมาณนั้น

เอลีส : ถ้าบรรยากาศภายในการทํางานของฉันนะคะถือได้ว่าเหมาะสมเพอร์เฟกต์มากค่ะ เหมาะเจาะมาก ๆ เลยทั้งในเรื่องของการเชตฉาก การรวบรวมในเรื่องขององค์ประกอบต่าง ๆ ที่มาเป็นหนังเรื่องนี้แล้วก็เกิดขึ้นภายในฉากการถ่ายทําค่ะ ถ้าพูดถึงเฉพาะตัวนักแสดงเอง จะเห็นได้เลยว่าทีมแคสนักแสดงทํางานได้ดีมากเพราะว่าสามารถเลือกนักแสดงได้เหมาะสมกับบทบาท เลือกคนให้เหมาะกับบท เป็นการดึงเอาพลังงานการแสดงออกของนักแสดงแต่ละคนออกมาใช้ได้อย่างเยี่ยมยอดมากค่ะ

               ในวงการภาพยนตร์ของฟิลิปปินส์เองค่อนข้างแคบ ฉันก็เคยเห็นหน้าเห็นตากันมาก่อน ฉันไม่เคยร่วมทำงานกับทีมนักแสดงนี้กันมาโดยตรง แต่ก็คือเห็นกันตามงานอีเวนต์ งานอื่น ๆ มาก่อนค่ะ

พีโอโล : เป็นครั้งแรกที่ผมได้ร่วมงานกับทุกคนครับ เหมือนกับที่เอลิสพูดคือ วงการนี้ไม่กว้างมากนัก เราจึงได้เจอกันตามงานอีเวนต์ต่าง ๆ สำหรับหนังเรื่องนี้ ในเรื่องของรายละเอียดองค์ประกอบต่าง ๆ เรียกได้ว่าเนรมิตใหม่หมดเลยคือทีมงานทุกคนมีการใส่ใจในเรื่องของรายละเอียดมาก ๆเพื่อที่จะให้นักแสดงเวลาที่เข้าไปเล่นในฉากที่เป็นไทม์ไลน์ที่แตกต่างกันจะได้เข้าถึงในเรื่องของบทบาทในเรื่องของบรรยากาศเหล่านั้นมากยิ่งขึ้น อย่างเช่นในปีที่เป็น 1800 ก็มีการเนรมิตโบสถ์ขึ้นมาใหม่เลย หรือว่าในปีที่เป็น 1940 ก็จะเนรมิตเป็นเหมือนทั้งชุมชนใหม่ แล้วก็มีการใช้ตึกเก่าแบบ 100 ปี สร้างขึ้น เพื่อให้ทุกคนได้แสดงภายในนั้น หลัก ๆ คือจะทำให้นักแสดงย้อนไปถึงห้วงเวลาเหล่านั้น ได้อินกับบทบาทที่เกิดขึ้นในแต่ละไทม์ไลน์มากขึ้น

เจซี : สำหรับผม เวลาพูดถึงหนังแนวสยองขวัญ ทุกคนจะจินตนาการถึงบรรยากาศการทำงานที่ตึงเครียด หลอน แต่สำหรับหนังเรื่องนี้ ทุกคนทำงานร่วมกันได้อย่างดีมาก เข้าขากัน รับส่งบทบาทกันให้เข้าถึงตัวละครได้ดีมาก ถือว่าเป็นการร่วมงานกันที่ดีเรื่องหนึ่ง

คำถาม : ถ่ายทำหนังสยองขวัญ เคยเจอเรื่องแปลก ๆ ในกองถ่ายบ้างหรือไม่ กลัวบ้างหรือเปล่า

เจซี : ปกติผมเป็นคนขี้กลัวมาก ๆ ในระหว่างการถ่ายทำก็แอบคาดหวังอยากให้มีอะไรแปลก ๆ น่ากลัวเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เจออย่างเดียวคือนักแสดงประกอบใส่ชุดแสดงเป็นผีเท่านั้นครับ

พีโอโล : ไม่มีเลยครับ ผมไม่ได้สัมผัสอะไรที่แปลกหรือน่ากลัว หรือที่หลอน ๆ เลย

เอลีส : ในเรื่องของฉากการถ่ายทำ มันน่ากลัวประมาณนึงอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้เจออะไรที่เป็นประสบการณ์น่ากลัวหรือหลอน ๆ เลยค่ะ

รอน :  ผมก็ไม่ได้เจออะไรเลยครับ อาจจะเป็นเพราะทีมงามของเราเองสุดยอดอยู่แล้ว เหนือธรรมชาติกันอยู่แล้ว

คำถาม : ทราบว่ากระแสหนัง Mallari ที่ฟิลิปปินส์ดีมาก พวกคุณคาดหวังอย่างไรกับการมาโปรโมทหนังที่เมืองไทย

พีโอโล : ผมมีความชื่นชอบในหนังสยองขวัญอยู่แล้วครับ การที่หนังได้มาโปรโมทที่เมืองไทยก็หวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี ได้รับการชื่นชอบจากแฟน ๆ ชาวไทยครับ ก่อนหน้านี้ Mallari นอกจากจะฉายที่ฟิลิปปินส์ แล้วยังได้ไปฉายที่ประเทศอื่น ๆ ก็ได้กระแสตอบรับที่ค่อนข้างดีเหมือนกัน ผมเลยคาดหวังว่าในประเทศไทยจะชื่นชอบหนังเรื่องนี้เช่นกันครับ

เจซี : ผมตื่นเต้นและดีใจที่ได้แบ่งปันเรื่องราวทางวัฒนธรรม ได้ส่งต่อรูปแบบการทำหนังของฟิลิปปินส์ให้แฟนชาวไทยได้รับรู้และรับชมกันครับ

เอลีส : แม้ว่าไทยกับฟิลิปปินส์จะมีภาษา มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน แต่เรื่องราวของ Mallari จะวางรากฐานมาจากเรื่องราวของความรัก ความรักเป็นภาษาที่เป็นสากลอยู่แล้ว จึงคิดว่าการถ่ายทอดเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความรักอยู่ภายในหนัง แฟนชาวไทยน่าจะเข้าถึงได้ น่าจะเข้าใจเนื้อเรื่อง และอินไปกับบทบาทของตัวละครและเรื่องราวของหนังค่ะ

รอน :  ผมเชื่อว่าทางวอร์เนอร์ บราเดอร์สจะทำให้หนังเรื่องนี้เข้าถึงแฟน ๆ ชาวไทยได้ และคาดว่า Mallari จะเป็นที่ยอมรับและเป็นที่ชื่นชอบสำหรับแฟน ๆ ชาวไทยครับ

คำถาม : จากการที่ Mallari เข้าฉายมาหลายประเทศและได้รับรางวัลมากมาย องค์ประกอบอะไรที่ทำให้หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ

พีโอโล : สำหรับผม ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้มีองค์ประกอบทุกอย่างที่ใช่ ที่ถูกต้องทั้งหมด ที่ไม่ได้เน้นให้ทุกคนกลัว แต่เป็นเบื้องหลังที่ทำให้เกิดเรื่องราวนี้ครับ ถ้าเป็นเรื่องราวของหนังสยองขวัญ ในส่วนของผู้กำกับเองก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในการผลิตและทำหนังสยองขวัญมากครับ มีการใส่ใจในรายละเอียด ในทุกขึ้นตอนของการผลิตหนังที่ถือว่า ใช่เลยครับ

               ผมว่าการที่มีคุณ พีโอโล พาสควัล มาแสดงบทนำในหนังเรื่องนี้ และรับบทถึง 3 ตัวละครด้วยกัน ถือว่ายากและท้าทาย นอกจากนี้ยังมีการส่งบทบาทกันอย่างเข้มข้น

คำถาม : อยากให้ฝากหนังเรื่องนี้กับแฟน ๆ ชาวไทย

พีโอโล : พวกเราขอฝากภาพยนตร์สยองขวัญเกี่ยวกับฆาตกรต่อเนื่องคนแรกของฟิลิปปินส์เรื่อง Mallari ผลงานที่พวกเราทุกคนตั้งใจทำกันครับ ผมขอเชิญชวนแฟน ๆ ชาวไทยชมหนังเรื่องนี้ และหวังว่าทุกคนจะชื่นชอบครับ หนังจะเข้าฉายในเมืองไทย 1 พฤษภาคมนี้ในโรงภาพยนตร์ครับ ขอบคุณมากครับ

              MALLARI – มัลลารี ตำนานเชือด โลกสะท้าน” มีกำหนดฉายในไทยทุกโรงภาพยนตร์ 1 พฤษภาคม นี้

Related posts