ผลงานเรื่อง “Superman” ภาพยนตร์เรื่องแรกจากทาง DC Studios สู่จอยักษ์ มีกำหนดฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลกจาก “วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส” ด้วยสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของ “เจมส์ กันน์” ที่จะพาซูเปอร์ฮีโร่ต้นฉบับเดิมมาปรับโฉมใหม่ในจักรวาลดีซี พร้อมด้วยการผสมผสานของฉากแอ็กชันสุดยิ่งใหญ่ ตบมุกตลกและความอบอุ่นที่จะนำเสนอซูเปอร์แมนผู้มีความเห็นใจและความเชื่อมั่นในเรื่องคุณธรรมของมนุษย์
ปีเตอร์ ซาฟราน ผู้นำแห่งดีซีสตูดิโอและกันน์ทำหน้าที่อำนวยการสร้างฯ โดยกันน์จะกำกับจากบทของเขาเอง โดยอิงตัวละครต่าง ๆ จากดีซี ซูเปอร์แมนสร้างขึ้นโดยเจอร์รี่ ซีเกลและโจ ชูสเตอร์ ได้นักแสดง อาทิ เดวิด โคเรนสเว็ต (“Twisters,” “Hollywood”) ผู้รับหน้าที่ 2 บทบาท ซูเปอร์แมน/คลาร์ก เคนท์, ราเชล บรอสนาฮาน (“The Marvelous Mrs. Maisel”) รับบท ลูอิส เลน และ นิโคลาส ฮอลท์ (ภาพยนตร์ “X-Men” , “Juror #2”) รับบท เล็กซ์ ลูเธอร์ ภาพยนตร์ยังร่วมแสดงโดย เอดิ กัทเธกิ (“For All Mankind”) แอนโธนี่ คาร์ริแกน (“Barry,” “Gotham”) นาธาน ฟิลเลียน (ภาพยนตร์เรื่อง “Guardians of the Galaxy” , “The Suicide Squad”) อิซาเบล่า เมอร์เซด (“Alien Romulus”) สกายเลอร์ ไกซอนโด (“Licorice Pizza,” “Booksmart”) ซาร่า ซังไปยู (“At Midnight”) มาเรีย แกเบรียลา เดอ ฟาเรีย (“The Moodys”) เว็นเดลล์ เพียร์ซ (“Selma,” “Tom Clancy’s Jack Ryan”) อลัน ทูไดค์ (“Andor”) พรูอิตต์ เทย์เลอร์ วินซ์ (“Bird Box”) และเนวา โฮเวลล์ (“Greedy People”)
ภาพยนตร์เรื่อง “Superman” อำนวยการสร้างบริหารฯ โดยนิโคลาส คอร์ดา, แชนทัล นอง โว และ ลาร์ส วินเธอร์ ทีมงานเบื้องหลังกล้องล้วนเป็นทีมงานที่กันน์ร่วมงานประจำ ได้แก่ ผู้กำกับภาพฯ เฮนรี่ บราแฮม ผู้ออกแบบฉาก เบธ มิกเคิล ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย จูเดียนน่า มาคอฟสกี้ และผู้ลำดับภาพ วิลเลียม ฮอย (“The Batman”) และเครก อัลเพิร์ท (“Deadpool 2,” “Blue Beetle”) ดีซี สตูดิโอส์ นำเสนอภาพยนตร์จาก a Troll Court Entertainment/The Safran Company Production, A James Gunn Film เรื่อง “Superman” จะฉายในโรงภาพยนตร์และระบบไอแมกซ์ในประเทศวันที่ 11 กรกฎาคม 2025 โดยวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส
มาร่วมพูดคุยกับผู้เขียนบทฯ / ผู้กำกับฯ / ผู้อำนวยการสร้างฯ เจมส์ กันน์
ทำไมคุณเลือกภาพยนตร์ของ DC Studios เรื่องแรกเป็นเรื่อง Superman?
ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่จับต้องได้จริง ข้อแรกคือที่ผมนั่งตรงนี้ไม่ใช่เพราะเป็นความฝันของผม ผมนั่งตรงนี้เพราะความฝันของปีเตอร์ ซาฟราน มันเป็นความฝันของเขามาทั้งชีวิตเรื่องการสร้างหนังซูเปอร์แมน และผมต้องเข้าใจความเป็นตัวเขาที่อ่อนโยน ทำให้ผมได้มากำกับฯ และสร้างหนังเรื่องนี้ แต่ผมคิดว่าซูเปอร์แมนคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่างด้วยเช่นกัน เขาเป็นซูเปอร์ฮีโร่คนแรก เขาเป็นตัวละครที่สำคัญมากของ DC ซึ่งมีอยู่ 3 คน มีแบทแมน ซูเปอร์แมน และวันเดอร์วูแมน เราเห็นเกี่ยวกับวันเดอร์วูแมนและแบทแมนมาเยอะแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับซูเปอร์แมน ผมเลยรู้สึกว่ามันคือเรื่องสำคัญที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วด้วย DC Studios โดยเริ่มต้นจากซูเปอร์แมน
ช่วงเวลาที่คุณต้องไขปริศนาเป็นแบบไหน พูดง่าย ๆ คือเริ่มสร้างเรื่องราวซูเปอร์แมนขึ้นมาอย่างไร?
มันอยู่ในช่วง 2-3 หน้าแรกที่ผมต้องเล่นกับอะไรหลายอย่าง แต่ช่วงสำคัญคือตอนซูเปอร์แมนกระแทกพื้นที่เหมือนเป็นกลางขั้วโลกเหนือ และเห็นคริปโตที่ดูอ่อนแอพยายามปั่นหัวเขา แต่กลับเป็นฝ่ายชนะและทำให้เขาเจ็บปวดได้ จากนั้นมีป้อมปราการแห่งความสันโดษกับหุ่นยนต์ซูเปอร์แมน จากนั้นมีเล็กซ์และแผนการของเขาที่วางแผนจัดการให้ผู้คนมาทำงานให้เขา ผมคิดว่านั่นคือช่วงที่ผมรู้ว่าจะสร้างอะไรต่อ และพยายามไขปริศนานั้นมานานหลายต่อหลายปี
คุณมีจินตนาการในการสร้างผลงานที่ต่างจากปกติ: สร้างเรื่องราวเกี่ยวกับการทำความดี การเป็นคนดี มันมีจุดเริ่มต้นมาจากไหน?
ตอนที่ผมสร้างเรื่อง Guardians of the Galaxy ผมรู้ว่าเรามีภาพยนตร์แนวไซไฟที่เป็นแนวดาร์กและชวนเศร้ากันมานาน 25 ปีแล้ว ทุกอย่างควรจะดูสมจริงเพราะมันดูหดหู่ ผมรู้สึกว่ามันยังมีความเป็นสีสัน เป็นผลงานเหมือนสมัยก่อนที่ห่างหายไปจากภาพยนตร์ ซูเปอร์แมนคือตัวละครที่เกี่ยวกับการทำความดีและเป็นคนดี เขามีนิสัยดีแต่การเป็นคนดีอย่างบริสุทธิ์ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป ทั้งหมดเกี่ยวกับตัวละครที่เป็นคนดีอย่างบริสุทธิ์นโลกที่ไม่ได้งดงามขนาดนั้น และผมคิดว่ามีบางสิ่งที่เรามองไม่เห็นชัดเจนนัก ทุกคนล้วนมีคุณสมบัติที่ดูไม่เหมาะจะเป็นฮีโร่ได้ ผมคิดว่าเวลาที่ตัวละครดูเป็นคนดี พวกเขามักจะสร้างความสนุกโดยทำให้ตัวละครดูน่าตลก แต่ตัวละครนี้ดูมีตระกูลและงดงาม เขาไม่ได้ถูกต้องเสมอ มีการทำผิดพลาด ผมเข้าใจความรู้สึกเพราะผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่เกี่ยวกับภาพยนตร์ และเพราะอะไรเราถึงรักซูเปอร์แมนมาก? เพราะเขาต่อยดวงดาวหรือหยิบตึกสูงเสียดฟ้าได้? ผมคิดว่าไม่ใช่เลย ผมคิดว่าเป็นเพราะความดีงามในตัวเขาและความมีมนุษยธรรม แม้ว่าเขาจะเป็นคนต่างดาวก็ตาม อันที่จริงเขาไม่รู้สึกอะไรเลยกับการเป็นคนมองโลกแง่ดี และยอมรับที่ตัวเองมีจุดอ่อน
สำหรับการแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับซูเปอร์แมนในจินตนาการของคุณ คุณคัดเลือก เดวิด โคเรนสเวตเข้ามา อะไรในตัวที่ตรงกับซูเปอร์แมนและคลาร์ก เคนท์อย่างที่คุณคิดเอาไว้?
ผมคิดว่าใครก็ตามที่ดูหนังจะเข้าใจว่าทำไมเดวิด โคเรนสเวตถึงได้เป็นซูเปอร์แมน เดวิดเป็นคนที่ผมเคยเห็นจากผลงานของเพื่อน ไท เวสต์ ในเรื่อง Pearl พอเห็นแล้วก็รู้สึกว่าผู้ชายคนนั้นน่าจะมาออดิชั่นบทซูเปอร์แมน และมันน่าสนใจมากเพราะผู้คนมักเริ่มออดิชั่นจากเทปเกี่ยวกับตัวเองที่ส่งมาให้จอห์น แปปไซเดร่า ผู้กำกับฯ คัดเลือกนักแสดงของเรา ผมได้รับเทปเหล่านั้นรอบแรกในช่วงวันแรก มีนักแสดงหลายคนเลย อาจจะมี 30 ซูเปอร์แมนและ 30 ลูอิส แต่ระหว่างนั้นคือช่วงวันแรก ทั้งราเชล บรอสนาฮานอ่านบทลูอิสและเดวิด โคเรนสเวตอ่านบทซูเปอร์แมน ตอนนี้ลูอิสเป็นแบบที่ผมคิดเอาไว้ เพราะลูอิสไม่ได้ถูกจำกัดเรื่องร่างกาย แต่ซูเปอร์แมนมีความเจาะจงมาก ผมเลยกังวลเรื่องการหาซูเปอร์แมนที่เหมาะสมเป็นพิเศษ โชคดีที่ผมเห็นเดวิดอ่านบทในวันแรก เขาทำได้น่าทึ่งเลย หนึ่งในฉากสำคัญคือ เขาต้องถกเถียงกับลูอิสเรื่องสถานที่ของเขาบนโลก ซึ่งไม่ใช่ฉากที่ถูกต้องนัก ผมเขียนมันขึ้นมาใหม่เลยออดิชันด้วยฉากนั้นกัน ซึ่งเขาทำได้ดีมาก และผมคิดว่าเวลาที่คุณเห็นเขาฉากนั้นในหนัง คุณจะเข้าใจความเป็นนักแสดงที่น่าทึ่งของเขา ภาพลักษณ์และน้ำเสียงของเขาเหมือนซูเปอร์แมนมาก เขาเหมือนซูเปอร์แมนในชีวิตจริง เขาฟังเพลงแจ๊ซสมัยก่อนและดนตรีแนวสวิง นั่นคือความจริง และคุณจะรู้สึกเกิดเคมีประหลาดกับนักแสดงอย่างเดวิดทันทีเหมือนที่ผมรู้สึก เราสามารถสื่อสารกันได้อย่างตรงไปตรงมาและเปิดอกกันได้ตลอดเวลา
