“Yadang : The Snitch ทรชนคนสองหน้า” ผลงานผู้กำกับ ฮวังบยองกุก, เขียนบทโดย ฮวังบยองกุก ที่นำแสดงโดย คังฮานึล, ยูไฮจิน, พัคแฮจุน, ริวคยุงซู, แชวินบิน กับเรื่องราวของ “จากนี้ไป แกจะมาเป็นตัวล่อของฉัน” ‘ยาดัง’ อาชีพสายสืบตัวล่อ เป็นอาชีพที่นำข้อมูลลับเกี่ยวกับโลกของการค้ายามาแจ้งเบาะแสแก่อัยการและตำรวจ ในการจับกุมคดียาเสพติดในงานปาร์ตี้มีบุคคลรุ่นที่ 2 (ลูกหลาน) ของเหล่าวีไอพีเข้าร่วมด้วย ยาดังผู้มากประสบการณ์ต้องทำทุกทาง ไม่ใช่แค่เพื่อไปสู่จุดสูงสุดเพียงแค่นั้น แต่ต้องมีชีวิตรอดด้วย
หนังเล่าเรื่องของความพยายามในการทลายแก๊งค้ายาในเกาหลีใต้ โดยเล่าผ่านมุมมองสายลับของอัยการที่มาแฝงตัวอยู่ในแก๊งเพื่อหาหลักฐานในการบุกจับ ช่วงแรกอาจจะเนือยนิด ๆ แต่พอผ่านช่วงปูเรื่อง และแนะนำตัวละครไปแล้วความสนุกก็เริ่มต้นขึ้น เป็นหนังที่ละสายตาจากหน้าจอไม่ได้เลย ด้วยเพราะตัวละครทุกตัวมีปมที่ผูกกับเส้นเรื่องไว้อย่างเหนียวแน่นและซับซ้อน เส้นเรื่องขยับขึ้นลงตลอดเวลาเหมือนนั่งรถไฟเหาะตีลังกา ไว้ใจตัวละครตัวไหนไม่ได้ ซึ่งหนังนำเสนอโลกอาชญากรรมที่ซับซ้อนให้คนดูเข้าใจได้ง่าย ช่วยสืบสวนและแกะรอยนี่ทำถึง ในแง่ของความเป็นทริลเลอร์ที่ดูไปเก็บข้อมูลไปและตามลุ้นไปด้วย แต่พอถึงช่วงแอ็กชันก็ใส่ไม่ยั้งกับความทำถึงในความมันส์สะใจ และมีจังหวะผ่อนคลายด้วยคอมเมดี้ที่เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้ทุกครั้งไป ติดให้ **** ครึ่ง
แบรด พิตต์ คืนสังเวียนนักแข่งประชัน แดมสัน บนสนาม “F1® The Movie” เป็นผลงานจาก Apple Original Films และผู้สร้างภาพยนตร์จากเรื่อง Top Gun: Maverick สู่ภาพยนตร์แอ็กชันสุดระทึก ที่กำกับฯ โดย โจเซฟ โคซินสกี อำนวยการสร้างบริหารฯ โดย เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์, โคซินสกี แชมป์โลก FORMULA 1® ถึง 7 สมัย ลูอิส ฮามิลตัน, พิตต์, ดีดี้ การ์ดเนอร์, เจเรมี่ คลีเนอร์ และ แชด โอมาน พร้อมด้วยนักแสดงคุณภาพเรื่องฝีมือ อาทิ แดมสัน ไอดริส, เคอร์รี่ คอนดอน, โทเบียส เมนซีส์, คิม บอดเนีย และ ฮาเวียร์ บาร์เด็ม เปิดสนามแข่งขันโดย วอร์เนอร์ บราเดอร์ส กับเรื่องราวของ ซอนนี่ ฮาเยส (แบรด พิตต์) ได้รับการขนานนามว่าเป็น “สุดยอดที่สุดอย่างไม่เคยมีมาก่อน” เขาเป็นตัวเต็งแห่ง FORMULA 1 แห่งยุค 1990 จนกระทั่งเขาเกิดอุบัติเหตุบนลู่จนเกือบจบอาชีพตัวเอง 30 ปีต่อมาเขารับจ้างแข่งรถตามที่ต่าง ๆ จนได้พบกับอดีตเพื่อนร่วมทีมของเขา รูเบ็น เซอร์แวนเทส (ฮาเวียร์ บาร์เด็ม) เจ้าของทีม FORMULA 1 ที่ต่อสู้ดิ้นรนบนเส้นทางที่เกือบจะพังทลาย รูเบ็นชวนซอนนี่กลับมาร่วมทีม FORMULA 1 ครั้งสุดท้ายเพื่อกอบกู้ทีมและกลับมาเป็นสุดยอดของโลก โดยเขาต้องขับรถคู่กับโจชัว เพียร์ซ (แดมสัน ไอดริส) เด็กใหม่ของทีมผู้มีความฝันที่จะต้องหาเส้นทางของตัวเอง
เป็นผลงานของ Apple Original Films ที่จัดเต็มมุมกล้องแบบรอบด้าน สามารถดูได้แบบเหมือนอยู่ในรถแข่งได้จริง ๆ ทาง Apple อาจจะทำเผื่อไว้รับชมผ่าน Apple Vision Pro ได้ด้วย ถ้าเลือกได้ควรดูแบบโรงภาพยนตร์ Screen X ที่จะมีจอด้านข้างจะได้ความเสมือนจริง ที่ทางผู้ถ่ายทำต้องการมากขึ้น เพราะเทคนิค การตั้งกล้อง มุมมองกล้อง คุณภาพของกล้อง ความนิ่งของภาพที่คมชัด ไม่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเมาหรือปวดตาเลย ซึ่งถือว่าการถ่ายทำด้วยคุณภาพที่ทำออกมาได้เนียนมาก ๆ ส่วนแบรด พิตต์เล่นได้ยอดเยี่ยมเหมือนเคย เขามีเสน่ห์ให้ชื่นชม แต่เวลาใส่หมวกกันน็อกลงแข่งเหลือให้เห็นแค่ดวงตาทำให้รู้สึกเห็นถึงความชราเมื่อเทียบกับนักแข่งคนอื่นอย่างชัดเจน แถมหมวกก็แน่นแบบรู้สึกอึดอัดแทนเลย และในการถ่ายทอดอารมณ์ก็ถ่ายทอดออกมาดูใจเย็นช่วยให้ดูผ่อนคลายไม่เครียดจนเกินไป เป็นเสน่ห์อีกแบบที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นไปในตัวด้วย ส่วนนักแข่งเพื่อนร่วมทีมอย่าง แดมสัน ไอดริสนักแสดงผิวสีก็เล่นออกมาดีมาก ทั้งตอนที่มั่นใจและรู้สึกผิดก็ถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครได้ดีเยี่ยม สำหรับบทภาพยนตร์เรียบเรียงเรื่องราว การเล่าถึงเบื้องหลัง ทีมงานในทีม F1 ดูสนุกดี มีชีวิตชีวา อารมณ์ ความผูกพันดีด้วย ซึ่งหนังค่อนข้างยาว 2 ชั่วโมงครึ่ง ถ้าเลือกดูในโรงภาพยนตร์ Screen X ที่มีจอด้านข้างจะได้อรรถรสสุด ๆ ติดให้ **** ครึ่ง
“Midnight Sun กลางคืนตลอดกาล กลางใจตลอดไป” เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงสร้างจากต้นฉบับหนังญี่ปุ่น タイヨウのうた โดย มงคลซีนีม่า ขอส่งต่อความอบอุ่นหัวใจด้วยภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าสุดละมุนจากเกาหลี กับเรื่องราวของ “อีมีซอล” (จองจีโซ) เด็กสาวผู้ป่วยด้วย “โรคแพ้แสงแดด” (Xeroderma Pigmentosum – XP) โรคหายากที่แสงแดดเพียงเล็กน้อยก็เป็นอันตรายถึงชีวิต ทำให้ช่วงกลางวันเธอต้องเก็บตัวอยู่แต่ภายในบ้าน และใช้เวลาทุกวันหมดไปกับการเล่นดนตรีและแต่งเพลงด้วยกีตาร์ตัวโปรด พร้อมแอบมองโลกภายนอกผ่านบานหน้าต่าง แต่แล้วในคืนหนึ่งโลกใบเล็กที่เงียบเหงาของเธอก็เปลี่ยนไปเมื่อเธอได้พบกับ “มินจุน” (ชาฮักยอน) ชายหนุ่มขับรถเร่ขายผลไม้ที่ทำให้หัวใจมีซอลเต้นแรงและตัดสินใจก้าวออกจากบ้านเพื่อไปพูดคุยกับมินจุน จนกลายเป็นความรักที่เปล่งประกายยิ่งกว่าดวงดาวในยามค่ำคืน โดยที่เขาไม่เคยรับรู้ถึงอาการป่วยของเธอเลยแม้แต่น้อย
ซึ่งทางค่ายทุ่มทุนแจกดอกทานตะวันให้สื่อและผู้โชคดีที่มารับบัตรชมภาพยนตร์พร้อมแชะภาพกับโปสเตอร์ด้วยรอยยิ้ม โดยหนังเกริ่นให้รู้ถึง “โรคแพ้แสงแดด” (Xeroderma Pigmentosum – XP) โรคหายากที่นางเอกเป็น นำร้อยเรื่องราวเข้ากับความรักที่เกิดขึ้นของ มีซอลกับมินจุน พระเอกได้น่ารักปนตลกเกือบทั้งเรื่อง ชอบมุกตลกแม้เป็นภาษาเกาหลีแต่ต้องยกเครดิตให้คนแปลออกมาขำดังลั่นโรงจนสำลักก็มี ขำหนักกับนางเอกเริ่มปฏิบัติการจีบพระเอก มันมีความน่ารัก มุ้งมิ้ง ทั้งสองเล่นได้อย่างเคมีเข้ากันดี คือไม่บ่อยได้ดูหนังแล้วมีเสียงหัวเราะลั่นโรงจนสำลัก และชอบเพลง yellowday ความหมายดี ตอนแรกที่นางเอกร้องเล่นกีต้าร์ตัวเดียวก็เพราะแต่พอเล่นเต็มวงยิ่งเพราะกว่าว่าจะไปหามาฟัง ก็ไม่รู้ว่านางเอกเป็นนักร้องหรือเปล่าแต่งับปากเพลงทันจนเชื่อว่าร้องเองเลย ส่วนนักแสดงทุกคนเล่นดี อย่างพ่อแม่ก็ถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกที่ต้องทนดูลูกป่วยตายได้สะเทือนอารมณ์ แต่มีฉากที่ลุ้นคือฉากนางเอกรีบวิ่งหลบแสงตะวันเข้าบ้านแล้วพ่อแม่ก็รีบตามเข้าไปดูแลมันลุ้นมาก เพราะนักแสดงสื่อออกมาดีทำให้เห็นว่าแสงตะวันคือฆาตกรในเวลานั้น เลย แม้ฉากนางเอกเสียชีวิตส่วนตัวขยี้อารมณ์ไม่สุดเลยไม่ร้องไห้ ทว่าถือเป็นหนังสร้างแรงใจมาก ๆ ในการตามหาความสุข ติดให้ ****
ภาพยนตร์อภิมหาปอบแห่งปี “ห่าก้อม The Darkness of the Soul” จากผลงานการผลิตของ แอคอาร์ต เจเนอเรชั่น ภายใต้การนำของ บีบี-เอกนรี วชิรบรรจง โปรดิวเซอร์ ร่วมกับ Mono Next, M Studio และสุดยอดผู้กำกับฯ อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง กับเรื่องราวในสังคมจอมปอบ ที่จะพาทุกคนดำดิ่งสู่กิเลสตัณหา ควบรวมความเชื่อเรื่อง “ปอบ” ผีร้ายที่กัดกินสังคมไทยมาช้านาน
บวกกับการเล่าเรื่องที่ไม่เรียงตามลำดับเวลา จึงเป็นการดูหนังไปคิดตามไป พร้อมกับต้องปะติดปะต่อข้อมูลไปเรื่อย ๆ แม้เปิดเรื่องมาให้เห็นภาพปอปหรือมีการนำผีแม่หม้ายที่คนภาคอีสานเชื่อและหวาดกลัวมาใส่ ทว่าเส้นเรื่องขยับไปตามดร่ามาของเหล่าตัวละครเสียมากกว่าจะเน้นไปที่ความทริลเลอร์จากสิ่งลี้ลับ แต่ก็ซ่อนความจริงที่น่าตกใจเรื่องคนฆ่าพ่อพระเอกที่พระเอกไล่ตามหาว่าใช่ปอปพรไหม สุดท้ายเมื่อความจริงเฉลยทุกคนก็ได้รู้ว่าปอปตัวจริงคือใคร!? นอกจากนี้ยังเอาประเด็นทางการเมืองระดับท้องถิ่นและความไม่เท่าเทียมกันระหว่างเพศเข้ามาอีก ราวกับกำลังนั่งดูแบบจำลองสังคมไทยขนาดย่อม ๆ ซึ่งหนังไปไกลกว่าความสยองขวัญจากผีปอบมากมายนัก ด้วยการใส่แง่มุมของความชั่วร้ายในความคิดและพฤติกรรมของคนเข้ามาให้เห็นว่า คนนี่แหล่ะที่น่ากลัวกว่าผีห่าซาตานตนใด ติดให้ ****
คำสาปแห่งเขาเกเด (Petaka Gunung Gede) เป็นภาพยนตร์สยองขวัญจากอินโดนีเซีย สร้างสรรค์โดย Azhar Kinoi Lubis ผู้กำกับภาพยนตร์คุณภาพมากฝีมือที่เคยสร้างความประทับใจมาแล้วมากมาย อาทิ ชู้จากนรก (Pengantin Setan), รันตี แต่งผีปลุกปีศาจ (Pengantin Iblis) เป็นต้น โดยภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงของ มายา อัซกา ที่ได้ไปปีนเขาเกเดกับเพื่อนสาว อิตา และเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่ออิตาถูกกล่าวหาว่าละเมิดตำนานบางอย่างบนภูเขา มายาไม่เชื่อว่าเพื่อนของเธอจะต้องเผชิญชะตากรรมร้ายแรงขนาดนั้น จึงพยายามค้นหาความจริงเพื่อช่วยชีวิตเพื่อน
ซ่อนใจความสำคัญของหนังไว้ใช้เป็นปมในการเดินเรื่อง จึงกระตุ้นให้อยากรู้และอยากติดตาม ถึงแม้จะอึดอัดกับทั้งตัวละครและการเดินเรื่องที่เชื่องช้า ทุกครั้งที่ดูหนังจากประเทศเพื่อนบ้านก็มักจะเห็นคติชนที่มีความคล้ายคลึงกันในความเชื่อและวิถีปฏิบัติ ก็เลยทำให้เป็นหนังที่ดูแล้วเข้าใจง่าย แล้วหนังก็มาเฉลยทุกสิ่งอย่างด้วยการตีหัวเข้าบ้านในช่วงท้าย ที่แบบอดคิดไม่ได้ว่านี่เอากันอย่างนี้จริง ๆ เหรอเนี่ย ติดให้ **
มงคลเมเจอร์ และ ไลออนส์เกต เปิดฉากความมันส์ในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง “From the World of John Wick: Ballerina” เมื่อ อีฟ มาการ์โร (อนา เดอ อาร์มาส) โคตรนักฆ่าศิษย์จากสำนักบัลเลต์รุสกาโรมา สถานที่ที่เคยบ่มเพาะนักฆ่าในตำนานอย่าง “จอห์น วิค” ต้องการสะสางแค้นและค้นหาความจริงเบื้องหลังการตายปริศนาของพ่อเธอ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางชำระแค้นของอีฟที่สั่นสะเทือนไปทั่วโลกนักฆ่า ล้างบางทุกศัตรูที่ขวางหน้า ฝ่าทุกห่ากระสุน เดิมพันด้วยชีวิต
นับเป็นจิ๊กซอว์ที่เชื่อมต่อและขยายจักรวาล John Wick ให้ลุ่มลึกและกว้างไกลขึ้นได้อย่างสวยงามและลงตัว โดยเนื้อเรื่องสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง พร้อมกับเติมเต็มความเป็นจักรวาลได้ด้วย ความพลิ้วไหวของสตรีเพศท่ามกลางความเป็นแอ็กชันสุดระห่ำ มันช่างดูเพลินตาและเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเรื่องราวขยับเร็วในช่วงต้น ผ่อนจังหวะลงในช่วงกลาง ก่อนจะเร่งสปีดไปหาไคลแมกซ์ในช่วงท้าย แต่การจะดูให้รู้เรื่องและเข้าใจทุกอย่าง ก็ต้องทำการบ้านกับ John Wick ทั้ง 4 ภาค มาก่อนเป็นการดี ติดให้ ****
