สกู๊ปพิเศษ
โดย…ยอดเยาวพา
“หน่อง – อรุโณชา” ผู้สร้างคู่จิ้นเคมีดีมาก “โป๊ป-เบลล่า” ดังเปรี้ยงปร้าง “บุพเพสันนิวาส” ไปไกลถึงต่างประเทศ
ตั้งแต่เริ่มเข้าวงการข่าวบ่อยครั้งที่สัมภาษณ์ พี่หน่อง “อรุโณชา ภาณุพันธุ์” ผู้บริหารสาวคนเก่ง ใจดีบริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ของน้อง ๆ นักข่าว ซึ่งไม่ว่าพี่หน่องจะถูกถามคำถามแบบไหนมักตอบด้วยรอยยิ้มเสมอ แล้วครั้งนี้มีโอกาสได้เจอในงานประกาศ “รางวัลชมนาด ครั้งที่ 11” พี่หน่องได้รับเกียรติเป็นกรรมการในรอบตัดสินนวนิยายที่ส่งเข้าประกวด จึงแจ้งขอสัมภาษณ์พี่หน่องก็ยินดี เมื่อได้สัมภาษณ์จึงถามถึงการร่วมงานกับ จีดีเอช ที่นำโดย จินา โอสถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด ที่ติดต่อขอนำบุพเพสันนิวาสไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง “บุพเพสันนิวาส ๒” กำกับโดย ปิ๊ง – อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม ที่ส่งให้พี่หมื่นและแม่หญิงการะเกดดังเปรี้ยงปร้างต่อยอดจากละคร นอกจากนี้พี่หน่องยังเผยเรื่องการคัดเลือกนิยายมาทำละคร พร้อมบอกถึงละครปีหน้า “พรหมลิขิต” ที่จับโป๊ป-เบลล่ามาเจอกันอีกด้วยว่า
“จริง ๆ แล้วเป็นจังหวะที่ดีค่ะ “บุพเพสันนิวาส” ออกอากาศปี 2561 ปีต่อมาพี่จินา โดยทางจีดีเอชติดต่อมาว่าอยากนำบุพเพสันนิวาสไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ก็เลยเกิดเป็นโปรเจกต์“บุพเพสันนิวาส ๒” ซึ่งเป็นการร่วมมือกันของทางจีดีเอชกับบรอดคาซท์ นะคะ ตรงนี้ก็ดีใจค่ะ ตอนนี้ในโรงก็ยังฉายบุพเพสันนิวาส 2 นะคะ เข้าฉายตั้งแต่ 28 กรกฎาคมจนวันนี้ตุลาคมก็ยังฉายอยู่ แล้วก็ดีใจที่บุพสันนิวาส 2 เป็นอีกหนึ่งผลงานของคนไทยที่ไปประสบความสำเร็จในต่างประเทศนะคะ บุพสันนิวาส 2 ทำรายได้สูงมากในประเทศเวียดนามและในหลาย ๆ ประเทศนะคะ และเห็นบอกว่าทำสถิติ Box Office ตลอดกาลค่ะ แล้วหลังจากบุพเพสันนิวาสคุณรอมแพงก็ได้เขียน “พรหมลิขิต” ขึ้นมา ซึ่งตอนนี้บรอดคาซท์ กำลังถ่ายทำเรื่อง พรหมลิขิตอยู่นะคะ คิดว่าจะได้ชมกันในปีหน้าค่ะ ส่วนพระนางก็จะเป็นพี่โป๊ปพี่เบล เป็นเรื่องต่อกันน่ะค่ะ แต่บุพสันนิวาส 2 เป็นอีกชาติหนึ่งของพี่หมื่นและแม่หญิงการะเกดเรื่องไม่ต่อกันค่ะ สำหรับพรหมลิขิตเป็นเรื่องราวที่ต่อกัน เหตุการณ์ยังเกิดในสมัยอยุธยาค่ะ แต่จากเดิมเกิดในสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แต่เรื่องพรหมลิขิตจะเกิดขึ้นในสมัยพระเจ้าท้ายสระค่ะ
ถามว่าจะทำละครย้อนยุคต่อไหม คือจริง ๆ ขึ้นอยู่กับบทประพันธ์ ซึ่งคุณรอมแพงได้แพลนไว้อยู่แล้วว่าจะเขียนพรหมลิขิตต่อตอนเขียนบุพเพสันนิวาสก็ได้พล็อตไว้อยู่แล้ว พอออกมาเป็นหนังสือก็มีความสมบูรณ์ เรื่องพรหมลิขิตอันนี้รุ่นลูกแล้วค่ะ ก็จะมีแฝดด้วย เพราะฉะนั้นเบลล่าต้องเล่นเป็นทั้งเกศสุรางค์และพุดตาน พุดตานมาจากภพปัจจุบันแล้วก็เข้ามาในสมัยกรุงศรีอยุธยาน่ะค่ะ ถามว่าจะมีต่อไปอีกหรือเปล่าก็อยากให้ชมพรหมลิขิตเยอะ ๆ ก่อนค่ะ ถ้าผู้ชมชอบแล้วมีเรื่องราวที่ต่อไปได้ก็อันนี้ก็เป็นเรื่องของอนาคตค่ะ
ถามว่ามีเกณฑ์อะไรในการคัดเลือกบทประพันธ์มาสร้างเป็นละคร จริง ๆ แล้วเรื่องทุกเรื่องมีโอกาสเป็นละครได้หมดเลยนะคะ เพียงแต่ว่าเราเองก็ต้องพิจารณา พิจารณาอะไรบ้าง หนึ่งแน่นอนค่ะ แก่นของเรื่อง ความสนุกสนาน การดำเนินเรื่อง แล้วก็ตัวละครโดยเฉพาะตัวเอกเนี่ย มีความน่าสนใจแล้วก็ความแปลกใหม่ในการนำเสนอ อาจจะเป็นเรื่องแนวดรามาแต่วิธีการนำเสนอมันแตกต่างจากที่เขียนกันมา เออ…หลาย ๆ ท่านที่เขียนแล้วกลายเป็นละครเนี่ย พอมันทำแล้วมันโดดเด่นขึ้นไปแล้วเนี่ย สมมุติเช่น บุพเพสันนิวาส คุณรอมแพงเขียนไว้ดีอยู่แล้ว แต่พอเรื่องใหม่ที่จะเขียนขึ้นมาเป็นแนวพีเรียดอีก มันก็ต้องมีความแตกต่างกัน ถ้ามันเหมือนกันคนดูจะรู้สึกว่าดูไปแล้ว มันพูดยากนะ มันมีรายละเอียด อย่างคุณรอมแพงจบคณะโบราณคดี เพราะฉะนั้นการเขียนกว่าจะมาเขียนเป็นบทประพันธ์เขาเองหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นคำพูด เป็นยุคสมัย หรือความเป็นอยู่ของตัวละครในเรื่อง มันเขียนมาจากพื้นฐานที่เป็นจริงในประวัติศาสตร์ เขามีการค้นคว้ามาอย่างดี น่าเชื่อถือ รายละเอียดที่ให้ แล้วก็ความสนุกสนานการดำเนินเรื่องต่าง ๆ วางได้อย่างเหมาะสมเหมาะเจาะ คนทำเองก็ต้องมองให้ออกว่าในหนังสือหนึ่งเล่มเนี่ย อะไรเป็นจุดที่คนดูอยากจะชมค่ะ เรื่องบุพสันนิวาสเป็นเรื่องของความแปลกใหม่ที่นางเอกข้ามยุคมาแล้วก็มาเจอพระเอกที่มีคาแร็กเตอร์ที่แตกต่างกับนางเอกเลย เราก็มองว่าเรื่องนี้ทำเป็นละครมีความน่าติดตามค่ะ แล้วเราต้องคัดเลือกนักแสดง เราก็โชคดีคัดเลือกนักแสดงได้พี่โป๊บกับพี่เบลล่า พอเขาเข้าคู่กันต้องใช้คำว่า ‘เคมีดีมาก’ ทำให้การแสดงของทั้งสองมีเสน่ห์และน่าติดตาม เพราะฉะนั้นการที่เราจะมีละครที่ดีสักเรื่องหนึ่งเนี่ย มันก็ต้องประกอบหลายอย่าง แล้วก็ได้เรื่องที่ดี ได้ผู้เขียนบท อย่าง อาจารย์แดง ศัลยา สุขะนิวัตติ์ ข้อดีของอาจารย์จะศึกษาแล้วมีความเข้าใจถึงบริบทของตัวเรื่อง เขียนแล้วขั้นตอนในการทำเราเองก็ต้องมีความละเอียดอ่อนในการทำข้อมูลต่อ ไม่ว่าจะมีการเตรียมงาน ทำโปรดักชัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเสื้อผ้าหน้าผมที่ต้องให้เข้ากับยุคสมัยอันนี้เราก็ต้องค้นคว้าเพิ่มเติม จากนั้นก็เป็นขั้นตอนของการคัดเลือกผู้กำกับที่มีความสามารถทำละครแนวนี้ได้ดีนะคะ แล้วก็คัดเลือกนักแสดงที่ถ่ายทอดนอกจากนักแสดงนำพี่โป๊บพี่เบลล่าแล้ว ทุกตัวละครเล่นดีมากหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นพี่หนิง นิรุตติ์ ศิริจรรยา หรือพี่เหมียว -ชไมพร, คุณเก่ง-ชาติชาย, คุณก๊อต – จิรายุ ทุกคนทำหน้าที่ได้ดีหมด แล้วพี่โป๊บกับพี่เบลเองก็สามารถจะรักษาคาแร็กเตอร์และสร้างเสน่ห์ของตัวละครได้อย่างต่อเนื่องค่ะ ทำให้คนดูรักตัวละคร แม้จะผ่านมาหลายปีแต่ผู้ชมหลาย ๆ ภาคก็ยังพูดถึงว่ายังดูอยู่เลยค่ะ เรารู้สึกดีใจมาก แล้วหลาย ๆ คนบอกรอชมพรหมลิขิตค่ะ (ให้สัมภาษณ์ยิ้มไปด้วย)”
