เปิดปก…อกนักเขียน  : “นางฟ้าจันทรา” – (เจ) “จันทิมา ฉัตรแก้ว”

เปิดปก…อกนักเขียน

“นางฟ้าจันทรา” คลอด “นิราศวันวาน” สอดแทรกแง่คิดอดีตกลับไปแก้ไขไม่ได้แต่ทำวันนี้ให้ดีได้

              ปลายฝนต้นเหมันต์ คือผลงานมาสเตอร์พีชของนักเขียนนามปากกา “นางฟ้าจันทรา” หรือนามจริงคือ เจ “จันทิมา ฉัตรแก้ว” ตอนเริ่มอ่านไม่ได้เดาเรื่องราวเลย อ่านแบบเปิดใจเหมือนอ่านนิยายวายทุกเรื่องของนักเขียนทุกคนที่สะดวกเปิดหน้าตาให้สัมภาษณ์ เนื้อหาว้าวมาก! กับสองภพสามชาติ ที่นักเขียนรังสรรค์สายใยรักระหว่าง ‘เหมันต์กับวัสสาน’ ได้อย่างละมุนละไมไม่ว่าจะภพนายเอกเป็นพรรษและรักพี่เหม หรือจะไอ้เหมของนที ความรักของเหมันต์ที่มีต่อวัสสานในภพปัจจุบันก็ไม่เคยจืดจาง แต่กว่าที่ทั้งสองจะรู้ว่าพวกเขาคือคนของกันมาแต่ชาติอดีตก็ต้องฟันฝ่าอุปสรรคและประคองความรัก เพราะวัสสานบังเอิญไปเห็นภาพวาดของ ‘หยาดพิรุณ’ ก็เกิดน้อยใจอาเหม เพราะคิดว่าตนนั้นเป็นตัวแทนของแฟนเก่าที่เสียชีวิตบวกกับแรงยุแยงของนารีที่หลงรักพระเอกมาตั้งแต่ภพอดีตเลยพานให้เข้าใจอาเหมผิด แต่เมื่ออาเหมเปิดใจกับวัสสานทำให้นายเอกหายน้อยใจ ทว่าเรื่องก็ยังไม่จบนะ ตัวร้ายยังไม่เลิกอิจฉาขนาดตายไปในเรื่องปลายฝนต้นเหมันต์ก็ยังส่งแรงอาฆาตสู่รุ่นลูกของเหมันต์กับวัสสาน ในเรื่อง เหนือนทีมีฟ้า เรื่องนี้ดรามาไม่จัดเหมือนรุ่นพ่อแม่ แต่ก็มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนอาจจะน้อยกว่า ทว่าก็พาน้ำตาซึมฉากที่ เหนือนทีตัดสัมพันธ์กับมีฟ้าก่อนไปเรียนต่อต่างประเทศ เฮ้ย! เป็นไปได้ไง ก็เหนือนทีรักมีฟ้ามากกก เลยอ่านจนจบเพราะอยากรู้เหตุผลของเหนือนที ใครอยากรู้ต้องไปอ่านเองไม่เฉลยนะ นอกจากความรักที่เหนือนทีมีให้มีฟ้าจนน่าจดจำแล้วก็ยังมี “ยี่สิบเอ็ดกระบวนท่า” ที่มีฟ้าครีเอทเพื่อบอกรักเหนือนที นักเขียนคงทำงานหนักมากกับยี่สิบเอ็ดกระบวนท่าเพื่อต้องการให้นักอ่านฟินเคลิ้ม ส่วนมีฟ้าก็ระบมสะโพกไปเต็ม ๆ (นักอ่านจะนำกระบวนท่าต่าง ๆ ไปใช้กับคู่ได้ คิดว่านักเขียนไม่หวงหรอก) คราวนี้มาปรับอารมณ์กับตัวละครที่ปลื้มเหนือนทีจนทำให้มีฟ้าหึง อย่าง “แดนดิน” ที่นักเขียนเขียนแยกออกมาเป็นเรื่อง “เล่ห์วาเลนไทน์” แดนดินที่ตัดสินใจชั่ววูบขายเรือนร่างให้เสี่ยโจเพราะถูกแม่เลี้ยงยุยง เหตุเพราะสมบัติถูกแม่เลี้ยงถลุงจนบ้านที่อยู่ตั้งแต่เกิดกำลังจะถูกธนาคารยึด แต่พอคิดได้แดนดินก็เปลี่ยนใจทว่าเสี่ยโจไม่ยอมเลยต้องหนีสุดชีวิตจนไปเจอกับ “เมลวิน” ที่ช่วยเหลือให้หลุดรอดจากเสี่ยโจและแม่เลี้ยงด้วยการกางปีกปกป้องแดนดิน เรื่องราวมีดรามาปนความแสบสันต์ของแดนดินที่ไม่ยอมถูกเมลวินกดง่าย ๆ แต่เมื่อ ‘เพียงพบ’ โผล่มา เพียงพบเป็นใครน่ะเหรอ เป็นเด็กเลี้ยงที่เมลวินถูกใจเพราะช่างเอาใจเก่ง แดนดินจึงต้องงัดเล่ห์เหลี่ยมมาแย่งชิงเมลวินคืนจากเพียงพบพอรู้ว่าตัวเองรักเมลวิน เป็นศึกชิงพระเอกที่นายเอกกับนายรองใช้สมองมากกว่าเสียงกรี๊ดแบบตัวร้ายในละคร ก็น่ารักดีทั้งแดนดินและเพียงพบ ซึ่งขณะที่แดนดินใช้เล่ห์เสน่ห์มัดใจเมลวินก็ลืมระวังตัวจากแม่เลี้ยงใจร้ายที่ใช้เสน่ห์ยั่วยวนน้องชายเพียงพบให้ร่วมมือหลอกแดนดินไปให้นางฆ่า! นางร้ายสมตำแหน่งเอาแดนดินถึงตาย จากที่ได้อ่านทั้ง 3 เรื่องของนางฟ้าจันทรา บุคลิกพระเอกและนายเอกแตกต่างกัน เนื้อหาที่รังสรรค์มาก็ใส่ความซับซ้อนซ่อนปมให้นักอ่านค้นหาจนถึงตอนจบ ทั้งสอดแทรกเรื่องของบาปบุญ ความดีความชั่ว แต่ทั้ง 3 เรื่องเน้นความรักเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวพระเอกนายเอก รวมถึงคู่รองด้วย และได้รู้ว่านักเขียนนางฟ้าจันทราหาความสุขจากการเขียนนิยาย จึงต้องคว้าตัวมาเปิดอกพูดคุยอย่างหมดเปลือกว่า…

              “นิยายเรื่องแรกที่เขียนเรื่อง บอสครับอย่าจับผมทำเมีย ในนามปากกา นางฟ้าจันทรา ตอนแรกวางขายเฉพาะอีบุ๊กและรายตอนในเว็บ แต่มีเสียงเรียกร้องจากนักอ่านว่าอยากได้เล่ม จึงทำเล่มทำมือวางขายพร้อมกับเรื่องถัดมาค่ะ  เจเขียนนิยายเป็นงานอดิเรกเพราะทำงานประจำในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งค่ะ  สำหรับนิยายถ้าเป็นนิยายวายออกมาทั้งหมด 12 เรื่องแล้วค่ะ ทั้งเรื่องสั้นเรื่องยาว ทั้งให้อ่านฟรีและวางขายในรูปแบบอีบุ๊ก แต่ทำเล่มทำมือเฉพาะเรื่องยาว ซึ่งทำมาแล้วทำหมด 8 เรื่องค่ะ โดยใช้นามปากกาเดียวกันทั้งหมด คือ “นางฟ้าจันทรา” ถ้าให้ไล่เรียงลำดับจากที่วางขายตั้งแต่เรื่องแรกจนถึงเรื่องปัจจุบัน ก็คือ พระเอกนิยายของผม, บอสครับอย่าจับผมทำเมีย, You Belong To Me กามเทพออกศึก, สตรอว์เบอร์รี่ชีสพาย, You Belong To Me กามเทพคึกคัก, เสือ(ซุ่ม), ปลายฝนต้นเหมันต์, เหนือนทีมีฟ้า, คลั่งรักจอมวายร้ายตัวแสบ, คืนแสนดาว, เล่ห์วาเลนไทน์, และเรื่องล่าสุด คือ นิราศวันวาน ค่ะ

              เจเริ่มเขียนนิยายมาจากนิยายรักชาย-หญิงค่ะ เขียนไว้เรื่องหนึ่งเมื่อราว ๆ ปี 2014 เพราะชอบอ่านนิยายมาตั้งแต่เด็กๆ (นิยายเล่มละ 12 บาทที่หน้าปกเป็นดาราน่ะค่ะ เคยเห็นไหมเอ่ย สนุกมากเลยนะคะ แต่ปัจจุบันน่าจะไม่มีแล้ว) ตอนนั้นส่งต้นฉบับให้สำนักพิมพ์แห่งหนึ่งแล้วก็ผ่านการพิจารณาได้ตีพิมพ์ แต่เป็นนิยายขนาดสั้นเล่มเล็ก ๆ นะคะ สักราว ๆ 120 หน้า สมัยนั้นเล่มละ 25 บาทเอง เซ็นสัญญา 5 ปี เขียนได้เรื่องเดียวแล้วก็เขียนไม่ออกอีกเลยคิดว่าเป็นนักอ่านน่ะดีแล้ว 555  เวลาผ่านไปเราก็ใช้ชีวิตปกติ จนมาวันหนึ่งเก็บห้องแล้วเจอสัญญาต้นฉบับเรื่องนั้น พอเอามาอ่าน เอ้า! ครบสัญญาแล้วนี่นา เวลาผ่านไปเร็วจัง ก็เลยคิดว่าลองเอามาขายอีกครั้งดีไหมนะ แล้วตั้งแต่วันนั้นเจก็ได้เข้ามารู้จักอาณาจักรของอีบุ๊ก แล้วก็เอาต้นฉบับเรื่องนั้นแหละค่ะมาทำเป็นอีบุ๊กวางขายใน meb ในช่วงปลายปี 2019 แล้วก็เขียนเรื่องที่สองสามสี่เรื่อยมา แต่ต้องยอมรับว่าผลงานนิยายรักโรแมนติกชายหญิงของเจไม่ประสบความสำเร็จในแง่ยอดขายสักเท่าไร ดังนั้นสิ่งที่ได้จึงไม่ใช่เงิน แต่เป็นความสุขล้วน ๆ เลย ความสุขที่ได้เขียน ความสุขที่ได้ปลดปล่อยจินตนาการ เขียนชายหญิงอยู่ราว ๆ สักครึ่งปี พอช่วงต้นปี 2020 เจก็ลองเขียนวาย เพราะชอบดูซีรีส์วายมาก่อนหน้านั้นสักสองสามปีแล้วแต่ไม่เคยกล้าเขียนเพราะคิดว่าตัวเองคงไม่มีความสามารถ แต่ผิดคาดมาก ๆ ค่ะ เพราะทันทีที่ได้ลงมือเขียนเรื่องแรก คือเรื่องบอสครับอย่าจับผมทำเมีย (เขียนเรื่องแรกแต่วางขายเป็นเรื่องที่สอง) มันสนุกมาก หมายถึงเราเขียนเองแล้วเรารู้สึกสนุก เราจมดิ่งเข้าไปในโลกของนิยาย แล้วปล่อยให้ตัวละครพาไป หัวเราะ ร้องไห้ เหมือนเป็นไบโพลาร์ตลอดเวลาที่เขียนเรื่องนี้ เขียนแบบด้นสดด้วยค่ะ ปรับพล็อตไปเรื่อย ๆ ตามอารมณ์ความคิดของตัวละครเลย พอเขียนจบแต่ละตอนก็ลงให้อ่านในเว็บเลย ตอนนั้นลงที่ ReadAwrite, Dek-D แล้วก็ Fiction log ทั้ง 3 ที่พร้อมกัน คนติดตามเยอะพอสมควร ติดท็อปทุกแพลตฟอร์มเลยค่ะ แอบตกใจเหมือนกัน และเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่ทำให้นักอ่านรู้จัก ‘นางฟ้าจันทรา’ นั่นเป็นประตูสู่โลกอีกใบที่ทำให้ได้ทำอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง เปิดเพจ นิยาย by นางฟ้าจันทรา เพื่อให้นักอ่านได้ติดตามผลงาน ได้ลองพิมพ์นิยายทำมือโดยทำเองทุกอย่างทุกขั้นตอน เหนื่อยมาก แต่ก็สนุกมาก ๆ เช่นกัน จึงทำให้เจยังอยู่ในโลกของนิยายวายจนมาถึงปัจจุบัน

              นอกจากเรื่องบอสแล้ว นางฟ้าจันทรามาเป็นกระแสที่นักอ่านพูดถึงและเอามาแชร์กันอีกครั้งก็คือเรื่อง “ปลายฝนต้นเหมันต์” ค่ะ เจยกให้เรื่องนี้เป็นมาสเตอร์พีชเลย เพราะเจทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง ความชอบ ความรัก ความสนใจในทุกสิ่งตลอดชีวิตที่ผ่านมาเอามาใส่ในเรื่องนี้ทั้งหมดเลยค่ะ ณ ตอนที่เขียน คือ เพลินมาก ปลดปล่อยทุกอย่างทุกจินตนาการจริง ๆ ร้องไห้หนักมาก หัวเราะดังมาก บางครั้งก็พิมพ์ไปยิ้มไป รีวิวจากนักอ่านหลาย ๆ ท่าน บอกว่าเรื่องนี้ครบรสที่สุดและคาดเดาอะไรไม่ได้เลย แต่อ่านจบแล้วอบอุ่นหัวใจสุด มีแฟนนิยายตามมาจากเรื่องนี้เยอะมาก ๆ  ถามว่าเจเขียนนิยายมากี่ปีแล้ว เจขอนับจริงจังตอนที่เริ่มเข้ามาในตลาดอีบุ๊กก็แล้วกันค่ะ เอานิ้วมานับก็เกือบสามปีแล้ว แนวที่ชอบและถนัดที่สุดในตอนนี้ก็คิดว่าเป็นนิยายวายแนวทำงานค่ะ เพราะเราอยู่ในวัยทำงานตอนกลางค่อนไปทางปลายแล้ว ผ่านอะไรมาเยอะก็เลยมีเรื่องมาเขียนได้ไม่เบื่อ รู้สึกสนุกและมีความสุขเวลาเขียนค่ะ

              สำหรับวินัยในการเขียนนิยายให้จบของนางฟ้าจันทรานะคะ ด้วยความที่เราทำงานประจำวันจันทร์ถึงวันศุกร์ และเป็นงานระดับบริหารที่ค่อนข้างเครียด ดังนั้นเจจะเขียนนิยายเฉพาะวันหยุดเสาร์อาทิตย์เท่านั้นค่ะ แบ่งเวลากันชัดเจนมาก ๆ และจะเขียนทีละเรื่องเท่านั้น หากถึงจุดที่ตัน เขียนไม่ออก หรือไม่รู้สึกอินไปกับเนื้อเรื่องหรือตัวละคร จะเอาตัวเองออกไปจากตรงนั้นทันที จะไม่ฝืนเขียน ออกไปกิน ไปเที่ยว นอนพักผ่อน ดูละครดูซีรีส์ รอให้มีอารมณ์อยากจะเขียนถึงค่อยกลับมาเขียน เจไม่ได้กะเกณฑ์หรือกดดันตัวเองว่าจะต้องเขียนให้จบภายในกี่วันกี่เดือน แต่จะมีกรอบเวลาคร่าว ๆ  ว่าประมาณช่วงไหน แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ ให้อภัยตัวเองเสมอ 555 เพราะเราตั้ง Mindset เอาไว้ตั้งแต่แรกว่าจะเขียนนิยายเป็นงานอดิเรก ให้มันเป็นเครื่องฮีลใจยามที่เราเครียดและเหนื่อยล้าจากการทำงานประจำและการใช้ชีวิตในด้านอื่น ๆ เหมือนเป็นมุมแห่งความสุขในชีวิตอะค่ะ เพราะงั้นต้องทำแล้วมีความสุข จะไม่ยอมให้การเขียนนิยายมาทำร้ายเราเด็ดขาด ถ้าเรามีความสุขและสนุกกับมัน ยังไงก็เขียนจบแน่ ๆ ค่ะ 

              ทุกวันนี้นักเขียนเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดจริงค่ะ ด้วยความที่มีแพลตฟอร์มที่เอื้อให้ทุกคนสามารถเผยแพร่ผลงานของตัวเองได้ ก็ถือเป็นโอกาสที่เท่าเทียมกันสำหรับทุกคนดีนะคะ ถามว่าหนักใจไหมก็ไม่หรอกค่ะ เพราะเชื่อว่าหากเรารักในการเขียนจริง ๆ และพัฒนาผลงานไปเรื่อย ๆ รักษาคุณภาพมาตรฐานและรับผิดชอบต่อสังคม (หมายถึงข้อเท็จจริง จริยธรรม ความดีชั่ว และอะไรก็ตามที่เราใส่ไปในนิยาย แม้กระทั่งการใช้ภาษา คำถูกผิด) เชื่อว่าเราจะยังอยู่ตรงนี้ได้ หรือต่อให้ขายไม่ได้ แต่เราก็ยังมีความสุขที่ได้ทำ ส่วนเรื่องนิยายวายจีนยังไม่มีแพลนจะเขียนในระยะเวลาอันใกล้นี้ค่ะ เพราะคิดว่าสกิลยังไม่ถึง 555 แต่อนาคตไม่แน่นะคะ อารมณ์นักเขียนคาดเดาไม่ได้ หากวันหนึ่งเกิดมี passion ขึ้นมา ก็อาจจะเขียนก็ได้ค่ะ

              นิยายล่าสุดเรื่อง “นิราศวันวาน” เป็นนิยายวายในยุคปัจจุบันที่ตัวละครหลักย้อนกลับในอดีตอยู่ช่วงหนึ่ง ดังนั้นเรื่องนี้จึงมีกลิ่นอายของพีเรียดอยู่นิดหน่อย ทั้งการใช้ภาษา วัฒนธรรม และความเชื่อของคนในยุคสมัยนั้น แก่นของเรื่องนี้จะบอกว่าเรื่องราวในวันวานมันไม่อาจแก้ไขได้ ไม่ว่าเราจะพยายามสักแค่ไหนก็ตาม ดังนั้นจงทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วพรุ่งนี้มันจะกลายเป็นวันวานที่แสนสวยงามตลอดไป เรื่องนี้ราคาปกเล่มละ 359 บาท ส่วนอีบุ๊กโหลดละ 279 บาท เท่านั้นค่ะ  ที่เจเขียนเรื่องนี้เพราะอยากลองเขียนพีเรียด แต่อยากให้ดูทันสมัยด้วยก็เลยเลือกที่จะเล่าในมุมมองของคนในยุคปัจจุบันที่ย้อนกลับไปในอดีต อีกอย่างมันก็ใกล้ตัวเรามากกว่าด้วย หากจะเขียนพีเรียดล้วน ๆ ไปเลยยังเกรงว่าฝีมือจะยังไม่ถึง แต่ในอนาคตมีแน่นอนค่ะ เพราะขนาดลองเขียนแค่พาร์ตเล็ก ๆ ก็หลงรักเข้าให้แล้ว

              นักอ่านติดตามผลงานหรือสั่งซื้อหนังสือเป็นเล่มของเจได้ที่แฟนเพจ นิยาย by นางฟ้าจันทรา หากชอบอ่านอีบุ๊กก็สามารถโหลดได้ทุกเรื่องที่ meb ค่ะ ฝากผลงานที่กำลังเขียนหรือมี   แพลนจะออกเรื่องต่อ ๆ ไปตอนนี้กำลังเขียนเรื่อง สหัสสวีร์ อยู่ค่ะ ลงให้อ่านรายตอนฟรีใน ReadAwrite แล้ว ยังไงเจก็ฝากติดตามด้วยนะคะ ภายในปีนี้น่าจะมีผลงานออกอีกสัก 2-3 เรื่อง มีพล็อตและปกพร้อมทุกเรื่องแล้วค่ะ ติดตามการอัปเดตนิยายเรื่องต่อ ๆ ไปได้ที่แฟนเพจ นิยาย by นางฟ้าจันทรา ค่ะ”

              เฉลยคำถามนิยายของนามปากกา “คามิเลียสีชมพู” : ดารกาวายุ, จันทรามนตรา

            คำถามนิยายของนามปากกา “นางฟ้าจันทรา” เรื่องที่เป็นมาสเตอร์พีชคือ?

ทราบคำตอบเขียน ใส่ไปรษณียบัตร พร้อมชื่อ- ที่อยู่ – เบอร์โทรศัพท์และคำตอบให้ชัดเจน ส่งมาที่

#คอลัมน์เปิดปก…อกนักเขียน

32/15 ซอยลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

ขอบคุณนักเขียนนามปากกา “นางฟ้าจันทรา” ที่สนับสนุนนิยาย 5 เล่มเป็นรางวัล

ส่งคำตอบมาภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2565

Related posts