เตรียมพบกับปรากฏการณ์งาน Thailand Yacht Show 2022 เวอร์เวนเทีย จับมือ แอกซ่า ประกันภัย ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก

บริษัท เวอร์เวนเทีย จำกัด (Verventia Co., Ltd.) ผู้จัดงานแสดงเรือยอร์ชประกาศจัดงาน Thailand Yacht Show 2022 ซึ่งนับเป็นการจัดงานครั้งที่ 6 ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐให้มีการจัดงานขึ้น 2 ครั้งในปีนี้โดยครั้งที่หนึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 9 – 12 มิถุนายน 2565 ณ โอเชี่ยน มาริน่า ยอร์ช คลับ พัทยา ท่าเรือยอร์ชที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย ส่วนครั้งที่สองจะจัดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ที่จังหวัดภูเก็ต โดยผู้สนใจสามารถเข้าชมงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือสามารถลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้าได้ทาง www.thailandyachtshow.com

การเดินทางไปยังโอเชี่ยน มาริน่า และสถานที่ท่องเที่ยวสุดสัปดาห์ตามแนว “ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก” ที่ใช้เวลาเพียง 90 นาทีจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ และ 2 ชั่วโมงจากตัวเมืองกรุงเทพฯ โดยรถยนต์นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในกลุ่มเศรษฐีชาวไทยที่ต้องการใช้เวลาในการท่องเที่ยวทางเรือยอร์ช

“ตลาดเรือยอร์ชในประเทศของไทยมีศักยภาพที่จะเติบโตอย่างมากในทุกมิติ ตั้งแต่การเช่าเหมาลำเรือซุปเปอร์ยอร์ช  การเดินทางท่องเที่ยวแบบวันเดียวกลับไปจนถึงการฝึกแล่นเรือใบ  เราได้ยินจากผู้แสดงสินค้าและพันธมิตรทางธุรกิจรายเดิม ๆ ที่เคยร่วมงานแสดงเรือยอร์ชกับทางเรามาตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาซึ่งทุกรายต่างตื่นเต้นต่อการเติบโตของตลาดภายในประเทศ” มร. แอนดี้ เทรดเวลล์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวอร์เวนเทีย จำกัด กล่าว พร้อมกล่าวเสริมถึงผลพลอยได้ทางเศรษฐกิจในบริเวณอ่าวไทยทั้งทางตรงและทางอ้อมที่อาจได้รับอย่างมหาศาลจากการท่องเที่ยวทางเรือยอร์ช

“สืบเนื่องจากข้อจำกัดทั้งหมดในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เราต้องงดการจัดงานแสดงเรือยอร์ชที่มีมาอย่างยาวนานในประเทศไทยและสิงคโปร์ ซึ่งทั้งสองงานนั้นเป็นงานที่ทั้งผู้ที่ชื่นชอบการแล่นเรือยอร์ชและในส่วนของภาคธุรกิจต่างรอคอย  ดังนั้น เราจึงตั้งตารอการจัดงานที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยในปีนี้ และรู้สึกเป็นเกียรติที่มีองค์กรอันทรงเกียรติอย่างบริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นพันธมิตรหลัก ซึ่งผมเชื่อว่าทั้งสองบริษัทจะได้ทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายต่อไปอีกในอนาคต และผมต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุนรายอื่น อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) โอเชียน มารีน่า ยอร์ช คลับ  โรงแรมเรเนซองส์ พัทยา รีสอร์ท แอนด์ สปา  บริษัท อินเตอร์ มีเดีย คอนซัลแตนท์ จำกัด (บางกอก มอเตอร์ เอ็กซ์โป) พร้อมด้วยสื่อพันธมิตร เพราะหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรเหล่านี้การจัดงานในปีนี้คงไม่สามารถเกิดขึ้นได้” มร. เทรดเวลล์ กล่าว

มร. โคลด เซนย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ เวอร์เวนเทีย ในฐานะผู้สนับสนุนการประกันภัยอย่างเป็นทางการของงาน Thailand Yacht Show 2022 การได้เป็นส่วนหนึ่งของงานอันทรงเกียรตินี้ถือเป็นความภาคภูมิใจของพวกเราทุกคนที่แอกซ่าประกันภัย   งาน Thailand Yacht Show เป็นแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์แบบในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ประกันภัยของเราและขยายเครือข่ายธุรกิจของเราในกลุ่มผู้เข้าชมงานและผู้คร่ำหวอดในแวดวงอุตสาหกรรมเรือยอร์ช  ด้วยความร่วมมือครั้งนี้ เราคาดหวังให้เกิดการรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เต็มรูปแบบของเรามากยิ่งขึ้นซึ่งครอบคลุมไปถึงงานศิลปะคอลเล็กชั่นส่วนตัว เรือยอร์ช วิลล่า และไลฟ์สไตล์สุดหรู  นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้เราตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรกับลูกค้าตลอดจนภาพลักษณ์ของแบรนด์คุณภาพที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการประกันภัยของเรา”

เวอร์เวนเทีย มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมเรือยอร์ชในเอเชีย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย เนื่องจาก มร. เทรดเวลล์ และทีมงานของเขาเชื่อว่าประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่เหมือนใครที่สามารถดึงดูดเจ้าของเรือซุปเปอร์ยอร์ชทั่วโลกให้มาเยี่ยมเยียนได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวของฝั่งทวีปยุโรปเมื่ออากาศหนาวเย็นเกินไปที่จะเที่ยวในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จากความพยายามของบริษัทฯ ในช่วงหกปีที่ผ่านมาในที่สุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้อนุมัติให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎข้อบังคับเกี่ยวกับใบอนุญาตการเช่าเหมาลำซุปเปอร์ยอร์ชซึ่งขณะนี้อนุญาตให้ซุปเปอร์ยอร์ชต่างชาติเกือบทั้งหมดสามารถเช่าเหมาลำได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย

แทนที่จะต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากมูลค่าของเรือยอร์ช ตอนนี้เรือซุปเปอร์ยอร์ชจะจ่ายเพียงภาษีรายได้จากค่าเช่าเรือเท่านั้น  ทั้งนี้ ใบอนุญาตการเช่าเหมาลำแรก ๆ ภายใต้กฎข้อบังคับใหม่นี้ได้ออกให้กับ เวอร์เวนเทีย ในนามของเรือซุปเปอร์ยอร์ชต่างชาติซึ่งจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยตลอดฤดูหนาวหน้า เป็นที่คาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวกลุ่ม UHNWI หลายหมื่นคนที่จะเดินทางมากับเรือซุปเปอร์ยอร์ชจากสหรัฐอเมริกา ยุโรป และตะวันออกกลางกำลังมองหาจุดหมายปลายทางใหม่สำหรับการล่องเรือช่วงวันหยุดในฤดูหนาวเพื่อเป็นทางเลือกแทนการล่องเรือในแถบแคริบเบียน  พวกเขาไม่สามารถมาที่ประเทศไทยหรือประเทศอื่นในเอเชียได้จนถึงขณะนี้เนื่องจากข้อห้ามในการเช่าเหมาลำซึ่งเป็นแหล่งรายได้จำเป็นสำหรับเจ้าของเรือในการช่วยลดต้นทุนค่าบำรุงรักษาซุปเปอร์ยอร์ชได้บ้างบางส่วน

เวอร์เวนเทีย ยังได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลซาอุดิอาระเบียในช่วงเก้าเดือนที่ผ่านมาโดยเป็นผู้ให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ในการจัดทำโครงการท่องเที่ยวทางเรือยอร์ชในบริเวณพื้นที่ใกล้กับทะเลแดงที่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากการล่องเรือยอร์ชส่วนใหญ่ที่ต้องการเดินทางไปยังเอเชียในช่วงฤดูหนาวจะต้องผ่านทะเลแดง   ดังนั้น  Jeddah Yacht Club & Marina แห่งใหม่ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของโครงการที่เป็นจุดแวะพักที่สมบูรณ์แบบระหว่างการเดินทางและเป็นจุดหมายปลายทางระดับเฟิร์สคลาสในตัวของมันเอง  อีกทั้ง ความเข้าใจอันดีกันทางการเมืองระหว่างประเทศ (Entente Cordiale) ที่เกิดขึ้นใหม่ระหว่างซาอุดิอาระเบียและไทยช่วยให้งาน Amazing Thailand Roadshow ที่ซาอุดีอาระเบียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาและงาน Saudi-Thai Investment Forum ที่ทั้งสองงานต่างต้องการดึงดูดกลุ่มคนระดับ UHNWI ที่ร่วมกันสร้างชุมชนเจ้าของซุปเปอร์ยอร์ช และการเช่าเหมาลำนำมาซึ่งโอกาสในการส่งเสริมการท่องเที่ยวทวิภาคีของ ‘The Spice Route’ (เมดิเตอร์เรเนียน – ทะเลแดง – มหาสมุทรอินเดีย – ทะเลอันดามัน – อ่าวไทย)

ที่ผ่านมาประเทศไทยให้การต้อนรับเรือซุปเปอร์ยอร์ชน้อยกว่า 1% ต่อปีของจำนวนซุปเปอร์ยอร์ช      ทั่วโลกแต่ปัจจุบันได้อยู่ในฐานะที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวของกลุ่มการท่องเที่ยวแบบหรูหรานี้ได้ ซึ่งกลายเป็นตลาดที่เติบโตหลังเกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีการเติบโตเร็วที่สุดของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

“การเติบโตของตลาดซุปเปอร์ยอร์ชทั่วโลกในอนาคตจะมาจากภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือที่อยู่ใกล้กับพัทยาและอ่าวไทย  แคมเปญการตลาดเชิงสร้างสรรค์พร้อมด้วยการสนับสนุนทางการเงินที่เหมาะสมสามารถขยายการเติบโตได้ทำให้มีศักยภาพที่จะดึงดูดซุปเปอร์       ยอร์ชมากกว่า 200 ลำภายในปีพ.ศ. 2569 ซึ่งจะสามารถสร้างเม็ดเงินอย่างน้อย 1 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเรือยอร์ชหนึ่งลำ (จากค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการ รายได้จากภาษีเช่าเหมาลำ และค่าใช้จ่ายในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องต่อปี) กระจายเข้าสู่เศรษฐกิจในประเทศโดยตรงและนั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น หากเรือยอร์ชสามารถอยู่ได้ตลอดทั้งฤดูกาล เรือแต่ละลำจะใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 5 ล้านเหรียญสหรัฐไม่นับการใช้จ่ายของแขกผู้เช่าเหมาลำซึ่งพวกเขาเองก็เป็นกลุ่มคนที่มั่งคั่งที่สุดในโลก”มร. เทรดเวลล์ กล่าว

เรือซุปเปอร์ยอร์ช (คือเรือที่มีความยาวมากกว่า 30 เมตรขึ้นไป) ปัจจุบันประกอบด้วยเรือยอร์ช   ประมาณ 5,600 ลำโดยเรือยอร์ชขนาดใหญ่กว่า 70 – 90 เมตรมีอัตราการเติบโตสูงสุดตามสัดส่วนของจำนวนเศรษฐีที่ร่ำรวยระดับโลกที่เพิ่มขึ้น  ตลาดเช่าเหมาลำเรือยอร์ชทั่วโลกมีมูลค่า 10.91 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีพ.ศ. 2563 และคาดว่าจะเติบโตที่อัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ที่ 25.6% ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2563 ถึงปีพ.ศ. 2571

Related posts