เที่ยวทั่วไทยไปกับพี่หนุ่ม’สุทน รุ่งธัญรัตน์ : พาไปสัมผัสวิถีชีวิตคนรักช้างริมน้ำมูลกับลำน้ำชีในเขตบ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์

เที่ยวทั่วไทยไปกับพี่หนุ่ม’สุทน รุ่งธัญรัตน์ วันนี้เป็นอีกวันล่ะครับที่ผมจะพาไปสัมผัสวิถีชีวิตของคนรักช้างริมน้ำมูลและลำน้ำชีว่าจะสุดยอดแค่ไหนกับโลกของช้างที่บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์โดยเฉพาะเรื่องของ “ช้างตกงาน” ไม่อยากเชื่อกันใช่ไหมล่ะครับแต่ก็เชื่อเถอะครับว่าช้างก็ตกงานเป็นเหมือนคนตกงานนี่ล่ะครับ

คือเรื่องว่า ที่ “วัดป่าอาเจียง” ชาวชุมชนบ้านหนองบัวเขาช่วยกันดูแลช้างที่ตกงานหรือไม่มีงานทำเนื่องจากในเวลาที่ผ่านมาเมื่อโควิด 19 ระบาดไปทั่วโลกทำให้การจัดแสดงช้างตามจังหวัดต่าง ๆ ต้องปิดตัวลง ควาญช้างจึงนำช้างกลับบ้านตากลาง ทางวัดป่าอาเจียงโดยเฉพาะ ดร.พระอาจารย์หาญหรือท่านพระครูสมุห์หาญ ปัญญาธโร เจ้าอาวาสวัดป่าอาเจียงได้จัดงานภายในวัดป่าอาเจียงเพื่อให้ญาติโยมทั้งหลายเข้าทำบุญหรือบริจาคเงินช่วยเหลือช้างและเมื่อวันเสาร์ที่ 12 มีนาคม 2565 ทางวัดป่าอาเจียง จัดพิธีจุดประทีปรอบองค์พระเจดีย์ช้างสามเศียรหรือช้างเอราวัณ ช่วงเวลาค่ำ ๆ สวยงามและมีมนต์ขลังสร้างความประทับใจแก่ผู้ร่วมงานได้อย่างมากอีกทั้งยังจัดให้พระภิกษุสามเณรสวดมนต์เพื่อทำน้ำพระพุทธมงคลหรือน้ำพระพุทธมนต์เพื่อใช้ประกอบพิธีวันช้างไทย นอกจากนี้ยังมีพิธีกรรมรำบวงสรวงบูชาองค์พระครูปะกำในวิหารวัดป่าอาเจียงด้วย การประกอบพิธีกรรมนี้ควาญช้างหรือคชศาสตร์ชาวกูยถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์เป็นเรื่องเกี่ยวกับช้างโดยตรงครับ

สำหรับภายใน “วัดป่าอาเจียง” แห่งนี้นอกจากจะเป็นสถานที่เลี้ยงช้างตกงานแล้ว ยังเป็นสุสานช้างที่มีจำนวนช้างถูกฝังไว้มากที่สุดในโลกก็ว่าได้

เรื่องต่อมาของการมีช้างตกงานก็มาจากที่เกาะภูเก็ตมีช้างตกงาน 23 เชือก เหตุผลเพราะสถานที่ท่องเที่ยวหรือการแสดงของช้างปิดตัวลง ควาญช้างจึงนำช้างกลับมาบ้านตากลาง แล้วพักอยู่ริมน้ำวังทะลุ บริเวณนี้คือแม่น้ำมูลที่ไหลมาจากเทือกเขาอุทยานแห่งชาติทับลาน จังหวัดนครราชสีมา ผ่านเขตตำบลกระโพหรือบ้านตากลาง ในแม่น้ำมูลมีลำน้ำชีซึ่งไหลลงมาจากเทือกเขาพนมดงรักเขตแดนไทยกับเขมรหรือกัมพูชาเมื่อน้ำสองสายน้ำไหลมารวมกันเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ชาวบ้านเรียก “วังทะลุ” ซึ่งมีความสำคัญกับชาวกูยหรือควาญช้างเมื่อครั้งอดีตกาลช้างจะรวมตัวกันที่วังทะลุโดยมีศาลพระครูปะกำเก่าแก่ที่สุดของชาวกูยเมื่อครั้งอพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่อาศัย ที่วังทะลุนี้ วิวทิวทัศน์ของลำน้ำมูลกับลำน้ำชีสวยงามตามธรรมชาติมากๆ จึงเหมาะที่จะเป็นที่ลงเล่นน้ำของช้างได้ด้วย

นี่ก็เป็นเรื่องราวของช้างบ้านตากลางกับคนเลี้ยงช้างที่มีมากที่สุดในโลกก็ว่าได้ ท่านใดสนใจอยากพาครอบครัวโดยเฉพาะน้องๆ หนูๆ ลูกหลานให้ได้รู้จักกับช้างสัตว์แสนรู้และมีความสำคัญกับประวัติศาสตร์ชาติไทยของเรากันแล้วละก็ ลองหาเวลาวันว่างพากันไปเที่ยวที่บ้านตากลาง จังหวัดสุรินทร์ กันให้ได้นะครับ จะเลือกชมการแสดงช้างแสนรู้ ความน่ารักของช้างหรือช่วยการเลี้ยงช้างตกงานก็แวะไปบ้านตากลางและวัดป่าอาเจียง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ได้ครับ หนุ่ม’ สุทนได้ไปมาแล้วจึงเขียนเล่าเรื่องให้ฟัง ขอขอบคุณหนุ่มพเนจรหรือคุณอภินันท์ บัวหภักดี นักเขียนนักพูดอดีตบรรณาธิการอนุสาร อ.ส.ท ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือททท. ที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องของช้างและติดตามE-book คชศาสตร์ชาวกูยในโครงการฯ ผลิตสื่อเพื่อการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์องค์ความรู้และเทิดทูนคุณค่าช้างไทยและชาวชาติพันธุ์กูย “เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป…กับ…ผมหนุ่ม’สุทน” ขอบคุณและสวัสดีครับ

เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม’สุทน รุ่งธัญรัตน์

แฟนเพจเฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/

#ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น.

#ติดต่อวิทยากรด้านการท่องเที่ยวได้ที่ได้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก

#เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel #Tourism local life ชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวไทยยั่งยืน

Related posts