ไปเที่ยวแพบิ๊กฟู  ศรีสวัสดิ์ เขื่อนศรีนครินทร์ กาญจบุรี

 

     เริ่มเข้าสู่คิมหันต์​ อากาศร้อน​ ต้นไม้กำลังผลัดใบร่วงหล่นสู่บนดิน​ เสียงจั๊กจั่นเรไร​ ส่งเสียงเรียกกู่เพรียกหา​ หน้าแล้งลมร้อนแรงกำลังมา​ ภาคใต้กำลังมีพายุฝนภาคเหนืออีสาน​ ยังคงรับลมหนาวที่พัดพาผ่านมรสุมของจีนผ่านเวียดนาม​ เข้าสู่ประเทศ​ไทย​ เหนืออีสานบางแห่งยังคงหนาวอยู่​ แต่ภาคกลางยังคงมีลมร้อน แต่กาญจนบุรี​ยังคงมีอากาศ​ร้อนหนาวสลับกันไปมา​ เลยต้องหาแหล่งพักผ่อนหย่อนใจในช่วงหน้าแล้งก่อนจะถึงเทศกาล​สงกรานต์​อีกไม่นานนี้

     อำเภอศรีสวัสดิ์​ กาญจนบุรี​ ​อยู่ไกลจากตัวเมืองกาญจน์​ไป​ 171 กิโลเมตร​ แต่มีแหล่งท่องเที่ยว​หลากหลาย​ ไม่ว่าจะเป็นป่า, ภูเขา, น้ำตก​ และ​ เขื่อนศรีนครินทร์​เป็นจุดหมายปลายทาง​ของการท่องเที่ยว

 

เส้นทาง​จากกรุงเทพ​ฯมาสู่กาญจนบุรี​  มีหลายเส้นทางให้เลือก​ ถ้ามาจากบางแคสู่ถนนเพชรเกษม​ ก็ต้องมาเข้าตรงที่อำเภอบ้านโป่ง​ ราชบุรี​ หรือเข้าที่​ นครปฐม​ เพื่อมาสู่ทางแยกกำแพงแสน​ เราเลือกมาทางสายตลิ่งชัน​-สุพรรณ​บุรี​ มาที่แยกนพวงศ์

เพื่อมาสู่บางเลน​ กำแพงแสน​ ตรงมายังพนมทวน​สู่ตัวเมืองกาญ​จนบุร๊

    มาถึงเมืองกาญจน์​ ตรงไปถึงนอกเมืองตรงสี่แยกแก่งเสี้ยน​ ถ้าเลี้ยวซ้ายไปไทรโยค​ ทองผาภูมิ​ สังขละบุรี​  ตรงไปคือทางไป​ เขื่อนศรีนครินทร์​ อำเภอ​ศรีสวัสดิ์​ เดินทาง​อีกร้อยกว่าโล ก็จะถึงทางลงเขื่อนศรีนครินทร์​ ที่ท่ากระดานส่วนใหญ่จะมาลงเรือเพื่อไปสู่แพพักในน้ำบนเขื่อน​ แต่เรา​ ยังต้องเดินทางไปยัง “แพบิ๊กฟูล” ที่อยู่​ บ้านปลายนา ตำบลนาสวน​ อำเภอศรีสวัสดิ์​  เพื่อท่องเที่ยว​ในเขื่อน​ศรีนครินทร์​ที่ไกลออกไปอีก​ ซึ่งกลุ่ม​ ฒ.ท่าเรือ​ สร้างสรรค์​แพเหนือเขื่อน​ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว​ทั่วไป​

“แพบิ๊กฟู” เป็นหนึ่งในแพสวยงามมีศักย​ภาพ​รองรับนักท่องเที่ยว​ 1​ แพได้มากถึง​ 25​ คน เหมาะสำหรับการจัดกรุ๊ป​ทัวร์​มาด้วยกัน​ เรามาลงเรือที่ท่าเรือ “เจ๊ตุ๊ก” สังเกตได้ง่ายๆ คือจะมีเสารับสัญญาณ​โทรศัพท์​อยู่ตรงข้ามกัน​ มีป้อมตำรวจก็มาถึงบ้านปลายนา​ ขับรถลงไปจอดตรงท่าแพได้เลยมีที่จอดสบายๆ พื้นที่กว้างขวางให้เราจอด ไม่ต้องกลัวหาย

 

     “เจ๊รี” วัชรี​ บานเย็น​ เจ้าของแพคอยต้อนรับอย่างเป็นกันเอง​ ส่วน “พี่วิรัช​ บานเย็น” พี่ชายทำหน้าที่ขนสัมภาระ​ลงเรือสปีดโบ๊ท​ เพื่อมายังแพที่อยู่อีกที่หนึ่งไม่ไกลกัน​ นั่งเรือมา10 นาที ก็ถึงแพบิ๊กฟู​ เมื่อขึ้นมาบนแพแล้ว​ อาหารกลางวันจัดเตรียม​พร้อมรับประทาน​ นั่งกินข้าวไปแพถูกลากออกไปกลางน้ำในเขื่อน​ เพื่อเดินทาง​มายังเกาะกลางน้ำ​ สำหรับพักพิงอย่างมีความสุข​กับไอเย็นของสายน้ำที่หอบพัดผ่านร่างกาย​ให้สดชื่น​ กิจกรรม​บนแพพักก็เลือกมุมถ่ายรูป​ จะนั่งคุยหรือลงแพลากสำหรับการเล่นบนแพยางกับสายน้ำในเขื่อน​ ซึ่งมีบริการเอาไว้อย่างครบถ้วน​

 

เราอยู่ตรงนี้​เพื่อรอดูพระอาทิตย์​ลับเหลี่ยมเขาในยามอัสดง​ ลมร้อนหอบเอาไอเย็นลนผิวน้ำขึ้นมา​ พวกเรามาทั้งหมด​10​ คนพอดี​ ต่างเลือกมุมนั่งของตัวเอง​ ก่อนจะถึงเวลาอาหารมื้อเย็นในเวลาค่ำๆวันนี้

    อาหารค่ำที่มีปลาในเขื่อนเป็นหลัก​ มีทั้งแกงป่าปลาคัง​ ปลากด​ และสารพัดปลาในเขื่อนหลากหลาย​ นำมารองรับ​พวกเราอย่างอิ่มหนำสำราญ​ท่ามกลาง​ความมืดที่โรยตัวเข้ามาครอบครอง​ หลังอาหารค่ำก็คุยกันแลกเปลี่ยนความรู้กับการมาท่องเที่ยว​ครั้งนี้​

ได้ประสบ​การ​ณ์​ผ่านการท่องเที่ยว​ที่เราไม่เคยรู้ว่าเหนือเขื่อนศรีนครินทร์​ยังมีความสวยงาม​ซ่อนเอาไว้​ กับวิถีชีวิต​ชาวบ้านแบบเรียบง่าย​ แพพักในโซนนี้​ มีหลากหลายให้เราได้เลือกมาสัมผัส​ สำหรับ”แพบิ๊กฟู” ของ​ “เจ๊รี” ที่เรามาพักคืนนี้บรรยากาศ​ดีอาหารแสนอร่อยกับอัธยาศัย​ใจคอเจ้าของแพเป็นกันเองให้แต่รอยยิ้มแสนประทับใจ​ เสียดายเรามีเวลามาพักแค่คืนเดียว​ ถ้ามากกว่านี้คงจะไปตกปลาในเขื่อนไปเที่ยวน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น​ คงจะได้อรรถ​รสมากกว่านี้้​

 

หน้าแล้งนี้หนีร้อนมาเที่ยวแพในเขื่อนศรีนครินทร์​ “แพบิ๊กฟู” เป็นทางเลือกใหม่ชวนให้ไปสัมผัส​กับความเรียบง่าย​แต่มีความสุข​ ลองสอบถามรายละเอียด​ได้ที่ “เจ๊รี” วัชรี​ บานเย็นที่เบอร์​โทรศัพท์​ 080-398-9327

รีบจับจองล่วงหน้าไว้แล้วไปเที่ยวกัน​ แพบิ๊กฟู  มี​ 2​ ชั้น ๆบนเป็นห้องนอน​ ไปสัมผัส​ดูแล้วจะรู้ว่าความสุขที่เอื้อมมือถึง.

Related posts