เที่ยวทั่วไทยไปกับพี่หนุ่ม’สุทน รุ่งธัญรัตน์ : พาไปรู้จักบ้านสาขลาและวัดสาขลา อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ

เที่ยวทั่วไทยไปกับพี่หนุ่ม’สุทน รุ่งธัญรัตน์ วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปเที่ยวชุมชนบ้านสาขลาและวัดสาขลา กับวันสบายๆ ตามสไตล์หนุ่ม’ สุทน เช่นเคยครับ

ชุมชนบ้านสาขลาเป็นชุมชนเก่าแก่ในองค์การบริหารส่วนตำบลนาเกลือ เขตอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งแต่เดิมเรียกกันว่า“บ้านสาวกล้า” จากเรื่องราวเล่าขานถึงที่มาของชื่อชุมชนบ้านสาวกล้าแห่งนี้ด้วยกันถึง 2 เรื่องราวด้วยกันครับ 

ตำนานแรกมีมาตั้งแต่ครั้งกรุงธนบุรี มีเรื่องราวเล่าขานสืบมาหลายชั่วอายุคนว่าเมื่อครั้งต้นกรุงรัตนโกสินทร์เกิดสงคราม 9 ทัพทางการได้เกณฑ์ผู้ชายในหมู่บ้านไปออกรบในสงคราม 9 ทัพ เหลือไว้เพียงผู้หญิงในหมู่บ้านเท่านั้น ครั้งนั้นมีทหารกองทัพพม่าเข้ามาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ก็เลยทำให้หญิงสาวทุกคนต้องต่อสู้กับทหารพม่าด้วยความกล้าหาญและได้ชัยชนะด้วยเหตุผลนี้จึงเรียก “บ้านสาวกล้า” ซึ่งก็อาจจะเรียกกันต่อมาจนผิดเพี้ยนมาเป็น บ้านสาขลา” ถึงทุกวันนี้ก็เป็นได้

ก่อนจะไปถึงเรื่องเล่าขานถึงที่มาของชื่อบ้านสาขลา อีกตำนานหนึ่ง ผมขอคั่นโฆษณาแนะนำของดีของอร่อยของบ้านสาขลาสักหน่อยนะครับ ด้วยว่าชุมชนนี้เป็นหมู่บ้านประมงพื้นบ้านออกจับกุ้งหอยปูปลาปากอ่าวไทยเขตปากน้ำสมุทรปราการ ซึ่งในคลองแถบนี้มีกุ้งตะกาดตัวเล็กตัวใหญ่มากมายจริงๆ จับกุ้งมาแล้วก็ยังขายไม่หมด ก็เลยต้องช่วยกันคิดทำกุ้งเพื่อถนอมอาหาร นั่นคือการทำ “กุ้งเหยียด” ขายที่ตลาดนัดในหมู่บ้าน กระทั่งต่อมากุ้งเหยียดก็เป็นสินค้าขายดี เป็นของขึ้นชื่อของบ้านสาขลาจนกลายเป็นสินค้าชุมชนที่ผู้คนรู้จักและนิยมซื้อไปเป็นของฝาก กุ้งเหยียด บ้านสาขลา นี้ตัวกุ้งเหยียดตรง รสชาติจะออกหวานคล้ายกุ้งหวาน ใครไปเที่ยวบ้านสาขลาแล้วไม่ซื้อหาเป็นของฝากเสียดายแน่นอนครับ

ส่วนเรื่องเล่าขานที่ 2 คือวัดสาขลา สร้างขึ้นมาในปี พ.ศ. 2325 ต้นกรุงรัตนโกสินทร์เป็นวัดประจำชุมชนบ้านสาขลา สิ่งสำคัญของวัดสาขลามีองค์พระพุทธรูปหรือองค์พระประธานในอุโบสถ ชาวบ้านเรียก “หลวงพ่อโตศักดิ์สิทธิ์” เป็นพระพุทธรูปศิลปะอู่ทอง สาเหตุที่ทำให้เรียกองค์หลวงพ่อโตศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่าในปี พ.ศ. 2526 เกิดเพลิงไหม้ในชุมชนบ้านสาขลาตอนค่ำๆ พอชาวบ้านพากันมาช่วยดับเพลิงปรากฎว่าเห็นองค์หลวงพ่อโตใช้จีวรโบกลมเพื่อดับไฟจึงเป็นเรื่องกล่าวขานถึงองค์หลวงพ่อโตว่าศักดิ์สิทธิ์นอกจากนี้บริเวณ วัดสาขลา ก็ยังมีวิหารประดิษฐานรูปหล่อองค์พระมหากษัตริย์และองค์พระสังกัจจายน์ยืนองค์ใหญ่ครับ วัดสาขลาปัจจุบันได้พัฒนาเจริญรุ่งเรือง เมื่อนักท่องเที่ยวไปเที่ยวควรจะแวะใต้อุโบสถก่อนครับ เพื่อสวดมนต์ลอดผ่านใต้อุโบสถประดิษฐานองค์พระพุทธรูปเก่าแก่หลายองค์และเทพเจ้าของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เช่น องค์พระพิฆเณศร์ เป็นต้น เสร็จแล้วก็ขึ้นบนวิหารกราบบูชาขอพรองค์หลวงพ่อโตและซื้อสินค้าชุมชนบ้านสาขลาโดยเฉพาะกุ้งเหยียด รวมทั้งอาหารทะเลทั้งสดทั้งแห้งให้ได้เลือกชมเลือกซื้อกันครับ

วัดสาขลา เดินทางได้สะดวกสบายครับ ถนนเข้าถึงทางด้านหลังวัดสาขลา หนุ่ม’ สุทนเขียนเล่าเรื่องชุมชนบ้านสาขลาและวัดสาขลาให้แฟนเพจฟังแล้วเดินทางท่องเที่ยวกันเองนะ “เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป…กับ…ผมครับหนุ่มสุทน” ขอบคุณและสวัสดี

เรื่องและภาพโดย : หนุ่มสุทน รุ่งธัญรัตน์

แฟนเพจเฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/

#ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. #เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel #Tourism local life ชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวไทยยั่งยืน

Related posts