หนังดีติดดาว***

เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ (ประเทศไทย) จำกัด พาคุณร่วมการผจญภัยครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของแก๊งค์ของเล่นที่คนทั่วโลกหลงรัก“TOY STORY 4 – ทอย สตอรี่ 4” กำกับโดย จอช คูลีย์ ทีมแก๊งค์ของเล่น นำโดย วู้ดดี้ พากย์เสียงโดย ทอม แฮงค์, โบ พี้ป พากย์เสียงโดย แอนนี่ พอตต์ส, ฟอร์คกี้ พากย์เสียงโดย โทนี่ เฮล, แกบบี้ แกบบี้ พากย์เสียงโดย คริสติน่า เฮนดริกส์, บัซ ไลท์เยียร์ พากย์เสียงโดย ทิม อัลเลน, ดั๊คกี้ และ บันนี่ พากย์เสียงโดย คีแกน-ไมเคิล คีย์ และ จอร์แดน พีล, กิ๊กเกิล แม็คดิมเพิลส์ พากย์เสียงโดย แอลลี่ มากิ, ดุ๊ค คาบูม พากย์เสียงโดย คีอานู รีฟส์, คอมแบ็ตคาร์ล พากย์เสียงโดย คาร์ล เวเธอร์ส ครั้งนี้เป็นเรื่องการผจญภัยครั้งใหม่ของ วู้ดดี้ ที่เริ่มต้นชีวิตในบ้านของเจ้าของคนใหม่ คือ บอนนี่ ซึ่งเธอได้ใช้ช้อนกึ่งส้อม ประดิษฐ์ออกมาเป็นของเล่นใหม่ที่ตั้งชื่อว่า ฟอร์คกี้ แต่เจ้าฟอร์คกี้ รู้ว่าแท้จริงเขาไม่ใช่ของเล่นแต่เป็นขยะ จึงอยากกลับไปสู่ชีวิตที่แท้จริง เดือดร้อนถึงวู้ดดี้ต้องตามกลับมา กลายเป็นการผจญภัยของเหล่าของเล่นครั้งใหม่ รวมถึงการกลับมาของโบ ของเล่นหวานใจของวู้ดดี้ ที่เธอกลับมาในมาดใหม่เป็นสาวสุดแกร่งด้วย

หนังทำออกมาได้สนุกสนาน มีชีวิตชีวาเหมือนภาคก่อน ๆ เรื่องราวการช่วยเหลือเพื่อน ความรู้สึกที่ถูกทิ้งไว้ การต้องการความรักความอบอุ่น และการได้ทำหน้าที่ของตนเอง ช่วยทำให้หนังมีคุณค่าน่าดูมากยิ่งขึ้น ส่วนบทภาพยนตร์ดีเยี่ยมมาก ฉากต่าง ๆ สวยงาม เนียนตา ตัวละครมีชีวิตจิตวิญญาน และหนังสอดแทรกแง่คิดได้ดี พูดถึงความเห็นแก่ตัวเรื่องเอาสมบัติของคนอื่นมาเป็นของตนแต่กลับได้ดี แต่สุดท้ายทำอะไรไม่ดีก็ไม่ได้รับความสุข ยังเป็นหนังที่เด็กดูได้แต่ควรมีผู้ใหญ่ชี้แนะ

ติดให้ *** ครึ่ง

เฉลยคำถาม“AVENGERS: ENDGAME” : IRON MAN

คำถามภาพยนตร์“TOY STORY 4” ใครพากย์เสียงวู้ดดี้ คาวบอยนายอำเภอ?

ทราบคำตอบเขียนชื่อ – ที่อยู่และคำตอบให้ชัดเจน ลงไปรษณียบัตร ส่งมาที่

หนังดีติดดาว

เลขที่ 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

ผู้ตอบถูก 3 ท่าน ได้ของรางวัลจาก วอลท์ ดิสนีย์ (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)

         มงคลเมเจอร์ พาเหล่าเท้าไฟสองขั้วระหว่างเอเชีย-อเมริกาเจอกัน ใน “Step up : Year of the Dance” อำนวยการสร้างโดย ดีดี้ นิคเคอร์สัน (Kill Bill Volume 1&2) งานกำกับของ รอน หยวน (Unspoken: Diary of an Assassin) ได้นักแสดง เจด เชโนเวธ (Batman vs Superman, The Last Ship), จาแนล จิเนสตรา (Soldier)  ครั้งนี้เปิดสเต็ปใหม่ใจกลางกรุงปักกิ่ง เมื่อกลุ่มนักเต้นข้างถนนที่ใคร ๆ ก็คิดว่าพวกเขาไม่มีอนาคต แต่อยากจะแบทเทิลกับทีมเต้นระดับโลก! งานนี้พวกเขาจึงร่วมมือกัน แสดงสเต็ปของเอเชียให้ทั้งโลกสั่นสะเทือน! เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ความฝัน ไม่เคยอยู่ไกลเกินเอื้อม และไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มาจากไหน แต่เมื่ออยู่บนฟลอร์พวกเราเท่ากัน

บางทีการจับ 2 สิ่งมารวมกัน อาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเสมอไป แต่ตรงกันข้ามมันสร้างความพินาศไม่มีส่วนดี ซึ่งหากใครที่รับไม่ได้อาจลุกออกจากโรงตั้งแต่เริ่มเรื่อง ซึ่งพล็อตเดิม ๆ ของ Step Up แต่ภาคนี้พยายามยัดเยียดความเป็นจีนเข้าไปจนอนาถ จากหนังที่สาระไม่ค่อยมีอยู่แล้วกลายเป็นหนังไร้เสน่ห์ การเล่าเรื่องที่ไม่มีชั้นเชิง และขาดไม่ได้กับหนังจีนที่ต้องมีคนตายและฝากฝังคำสั่งเสียก่อนตายให้ตัวเอก การที่จับเอาการต่อสู้จีนมาใส่การเต้นเป็นสิ่งที่ทำให้หนังพัง หนังจะเป็นแอ็คชั่น หนังเต้น หนังรักก็ไม่เอาสักทาง ทำให้ไม่มีความสนุก ขนาดฉากดวลเต้นที่ควรเป็น ‘ฉากพีค’ ยังน่าเบื่อจนได้ยินเสียงกรนของคนข้าง ๆ เลย

ไม่ติดดาวสักดวง

เฉลยคำถามภาพยนตร์เรื่อง“John Wick: Chapter 3” : The Continental

คำถามภาพยนตร์เรื่อง“Step up : Year of the Dance” ใครกำกับ?

ทราบคำตอบเขียนชื่อ – ที่อยู่และคำตอบให้ชัดเจน ลงไปรษณียบัตร ส่งมาที่

หนังดีติดดาว

เลขที่ 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

ผู้ตอบถูก 3 ท่าน ได้ของรางวัลจาก มงคลเมเจอร์ (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)

         Remi, Nobody’s Boy หนุ่มน้อยเสียงมหัศจรรย์ นำแสดงโดย มาโลม พาคิน รับบท เรมี, แดเนียล แดเนียล โอเตย รับบท วิตาลิส สมทบด้วย โจนาธาน แซคไค (Robin Hood: 2010) และ ลูดิวีน ซอนเญ (Peter Pan) ซึ่งภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมที่ดีที่สุดตลอดกาลของ เอกเตอร์ มาโลต์  ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของ เรมี เด็กกำพร้าที่ วิตาลิส รับมาเลี้ยง โดยพาเขาออกเดินทางร่วมกันกับ กะปิ และ โจลิเกอร์ เพื่อหวังให้เขาได้ร้องเพลงโชว์ต่อหน้าสายตาของผู้คนตามเมืองต่าง ๆ  โดยที่ เรมี ไม่รู้เลยว่าพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ในตัวของเขานั้น คือเสียงร้องที่ตราตรึงใจผู้คน…

หนังถ่ายภาพสวยมาก โปรดักชั่นและเสื้อผ้าหน้าผมดูดี แถมเพลงประกอบก็ไพเราะ หนังเล่าเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยผูกปมไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วว่าตัวเองไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของบ้านที่เติบโตมา ฉะนั้นปลายทางคือการค้นหาความจริงว่าตัวเองเป็นใคร? หนังมีมุกตลกให้ขำ มีลูกล่อลูกชนให้ล้น Feels Good มาก ๆ และขายความน่ารักของหมาและลิง แต่ด้วยความ Feels Good นี้ที่เป็นตัวฉุดให้ผู้ชมที่อายุมากสักหน่อยอาจจะไม่ชอบ แต่ถ้านึกภาพว่ากำลังดูหนังเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ชีวิตมันควรจะรันทดและสมบุกสมบันสักหน่อยมั้ย ซึ่งโดยรวมถือเป็นหนังดูสนุกและเพลิดเพลินดี

ติดให้ ***

          มงคลเมเจอร์ พาคอหนังพบการเปลี่ยนลุคของนักแสดงสาวสวยที่ทุ่มสุดตัว คริสเตน สจ๊วร์ต กับผลงานเรื่องใหม่“J.T. Leroy แซ่บลวงโลก” ซึ่งเธอเปลี่ยนลุคตัวเองจากสาวสวยมาดเข้มมาเป็นสาวเท่สุดคูลเพื่อรับบท ชาวาน่าห์ นูป ร่วมด้วย ลอร่า เดิร์น ในบท ลอร่า อัลเบิร์ต หรือ เจที ลีรอย ร่างอวตารที่สร้างขึ้น โดยหนังเล่าเรื่องช่วงปลายยุค 1990s จนถึงกลาง 2000s หนึ่งในนักเขียนนิยายที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ คือ เจที ลีรอย หรือ เจเรอไมอาห์ เทอร์มิเนเตอร์ ลีรอย (Jeremiah Terminator LeRoy) ผู้เขียนนิยายกึ่งอัตชีวประวัติเรื่อง Sarah เล่าเรื่องเด็กวัยรุ่น LGBT ติดยาที่น่าสงสารซึ่งมีแม่เป็นโสเภณี แต่บังเอิญว่าหนังสือเกิดดังขึ้นมา และถูกซื้อสิทธิ์ไปสร้างเป็นภาพยนตร์ แต่ เจที ลีรอย นักเขียนขวัญใจชาว LGBT ไม่มีตัวตนอยู่จริง เป็นร่างอวตารที่ ลอร่า อัลเบิร์ต ผู้แต่ง Sarah สร้างขึ้น เธอจึงต้องพึ่ง ชาวาน่าห์ นูป น้องสาวของแฟนหนุ่มมารับหน้าเป็น เจที ลีรอย เพราะดูแล้วมีภาพที่ตรงกับลักษณะที่เธอแอบอ้างมากกว่า นูปสวมบทบาทนี้จนมีชื่อเสียงโด่งดัง ได้ออกงานต่าง ๆ กลายเป็นข่าวใหญ่โต จากสิ่งที่เริ่มต้นด้วยความสนุกสนาน ทั้งคู่หารู้ไม่ว่ามันกลายเป็นหนึ่งในเรื่องฉาวโฉ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการวรรณกรรม

พอเห็นเรื่องก็อยากดูมาก ยิ่งได้นักแสดงฝีมือฉมังทั้งสองมาดวลกันทำให้หนังน่าติดตาม หนังดำเนินเรื่องค่อยเป็นค่อยไปทว่าชวนติดตามว่าต่อไปจะเป็นอย่างไรกับให้ตัวปลอมสวมรอยแทน คริสเตนไม่ได้สวยเหมือนทุกเรื่อง เห็นความกร้านของน่าที่ไม่บำรุงซึ่งเป็นความตั้งใจให้ออกมาแบบนั้น นักแสดงทั้งสองเล่นเข้าขากัน ฉากเลิฟซีนหญิงหญิงคริสเตนเล่นได้สยิวดี ส่วนลอร่าพูดเยอะมากแสดงเป็นธรรมชาติ หนังทำให้เห็นความผิดพลาดที่เกิดจากการตัดสินใจผิด สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจผิดเพราะนักเขียนมีปมอดีตที่ไม่กล้าเปิดเผยตน บทสรุปของหนังแม้ทุกคนต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ หากแต่มิตรภาพยังคงอยู่และพากันก้าวผ่านไปให้ได้

ติดให้ *** ครึ่ง

          “X-Men: Dark Phoenix : x-เม็น ดาร์ก ฟีนิกซ์” ภาพยนตร์ผลงานการกำกับและเขียนบทของ ไซมอน คินเบิร์ก พร้อมด้วยทัพนักแสดงอีกคับคั่ง อาทิ โซฟี เทอร์เนอร์ (รับบท จีน เกรย์/ฟีนิกซ์), เจมส์ แม็คอะวอย (รับบท ชาร์ลส์ ซาเวียร์/โปรเฟสเซอร์ เอ็กซ์), ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ (รับบท อีริค เลนเชอร์/แม็กนีโต้), โคดี้ สมิท-แมคฟี (รับบท เคิร์ท แวกเนอร์/ไนท์คลอเลอร์), ไท เชอริแดน (รับบท สก๊อตต์ ซัมเมอร์/ไซคลอป), เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ (รับบท เรเว็น ดาร์คโฮล์ม/มิสทีค), นิโคลัส ฮอลท์ (รับบท แฮงค์ แม็คคอย/บีสต์), อีแวน ปีเตอร์ส (รับบท ปิเอโตร แมกซิมอฟ/ควิกซิลเวอร์) เป็นต้น  ถ่ายทอดเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของ จีน เกรย์ จากมนุษย์กลายพันธุ์ผู้มีพรสวรรค์สู่การเป็นผู้ที่มีพลังสูงสุดในจักรวาล จุดสูงสุดของตำนานซูเปอร์ฮีโร่ที่มีการสร้างขึ้นมายาวนานเกือบ 2 ทศวรรษ จีนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดในช่วงที่ซึมซับพลังคอสมิค เมื่อเธอเดินทางกลับมายังโลก เธอต้องต่อสู้รับมือกับพลังความสามารถที่ยิ่งใหญ่ราวเทพเจ้า แต่พลังที่อยู่มีมากเกินกว่าจะควบคุมได้ทำให้เธอได้ ทำลายบรรดาคนที่เธอรักที่สุดจนสร้างความแตกแยกให้เหล่าเอ็กซ์-เม็น

หนังเล่าเรื่องราวของ จีน เกรย์ มนุษย์กลายพันธุ์สาวสวยที่ได้รับพลังอันมหาศาล หนังไม่พูดถึงเรื่องราว 3 ภาคเลย ฉะนั้นกรุณาทำการบ้านก่อนดู ธีมประเภทที่พูดถึงตัวละครที่ได้รับพลังหรืออำนาจมาแล้วทำให้พฤติกรรมตลอดจนความนึกคิดนั้นเปลี่ยนไปมีให้เห็นเยอะ เนื้อแท้ของหนังคือประเด็นนี้แหละ และชอบที่ได้เห็นตัวละครหลักทุกตัวยังมีชีวิตอยู่ได้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง โดยเปลี่ยนปมและประเด็นให้เชื่อมโยงกัน แต่สิ่งที่ไม่ชอบคือหนังไม่สามารถขยี้ปมและประเด็นในใจของตัวละครได้ลึกมากจนพอที่จะเชื่อในสิ่งที่ตัวละครบางตัวทำทั้ง ๆ ที่ปูพื้นมาอย่างน่าติดตามแล้วแท้ ๆ

ติดให้ **

          บริษัท ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท เวิร์ค พอยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด พาคุณร่วมพิสูจน์ความจริงว่า “ประกันความรัก ที่จะวัดรักแท้” ได้จริงหรือไม่ !?!? กับภาพยนตร์รักโรแมนติก คอมเมดี้“รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน” คว้าสองนักแสดงโคจรมาเจอกัน เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา เจอ ปั้นจั่น – ปรมะ อิ่มอโนทัย โดยผู้กำกับคนเก่ง โจ้ – วิรัตน์ เฮงคงดี  เรื่องราวของ แทน นักคณิตศาสตร์ประกันภัยผู้ไม่เชื่อในรักแท้ มีหน้าที่หาค่าสถิติและคำนวณตัวเลขออกมาเพื่อคิดและออกแบบกรมธรรม์ แล้วเขาเสนอ กรมธรรม์ประกันรักแท้ 2 ปี ทวีทรัพย์ ขึ้นมา โดยจะคืนเงินให้ 100% และดอกเบี้ยอีก 30% สำหรับผู้ถือกรมธรรม์ที่ไม่เลิกกันภายในเวลา 2 ปีหลังเซ็นสัญญา จี๊ด อดีตพนักงานบริษัทจัดหาคู่ ที่ถูกย้ายมาอยู่ในทีมของแทน เธอเป็นคนที่เชื่อว่าความรักจริงและไม่สามารถคำนวณหรือหาค่าอะไรมาวัดได้ ทั้งคู่ต้องร่วมงานกัน นอกจากนั้นก็ค้นหาคำตอบว่าผู้ถือกรมธรรม์จะเลิกกันหรือไม่ งานนี้ยังมีความเชื่อในความรักที่แตกต่างกันเป็นเดิมพันด้วย

ถือเป็นหนังดีมาก ๆ ดีเกินความคาดหมาย โปรดักชั่นดี แสงสวย เพลงเพราะ และเหนืออื่นใดคือประเด็นเรื่องของการทอนความรักที่ต่างกันอย่างสุดขั้ว หนังเดินเรื่องผ่านการออกเดินทางไปพบลูกค้าของ แทน และ จี๊ด ที่ค่อย ๆ รับรู้ความรัก ปัญหา อุปสรรค ทางออก ตลอดจนจุดจบในความรักของลูกค้าแต่ละคู่ ในขณะเดียวกันความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ค่อย ๆ ขยับขึ้นเรื่อย ๆ เนื้อหาพูดถึงความรักออกมาได้อย่างลงตัวและกลมกล่อมชนิดที่ feel good ตลอดเวลา และความรักของคนแต่ละคู่มีมุมมองให้ขบคิดมากมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่หนังต้องการนำเสนอ สรุปเป็นหนังดีจริงๆ

ติดเต็ม *****

          วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พาคุณพบสัตว์ดึกดำบรรพ์สุดแข็งแกร่ง “Godzilla II: King of the Monsters – ก็อดซิลล่า 2 ราชันแห่งมอนสเตอร์” ผลงานกำกับของ ไมเคิล โดเฮอร์ตี้ จากบทภาพยนตร์ที่เขาเขียนร่วมกับ แซค ชีลด์ส พร้อมทัพนักแสดงอีกคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น ไคลย์ แชนด์เลอร์, เวรา ฟาร์มิกา, มิลลี่ บ็อบบี้ บราวน์, แบรดลี่ย์ วิทฟอร์ด, แซลลี่ ฮอว์กินส์, ชาร์ลส แดนซ์, โธมัส มิดเดิลดิทซ์, โอเชีย แจ็คสัน จูเนียร์ ร่วมด้วย เคน วาตานาเบ้ และ จาง จื่ออี๋ เป็นต้น เรื่องราวความกล้าหาญ และความพยายามขององค์กรโมนาร์ค ที่ถอดรหัสสัตว์ดึกดำบรรพ์ เมื่อเหล่าสมาชิกต้องเผชิญหน้ากับกองทัพสัตว์ประหลาดที่มีขนาดใหญ่มหึมา รวมถึง “ก็อดซิลล่ายักษ์” ที่ต้องสู้กับ “มอธร่า” และ “โรแดน” และศัตรูตัวร้ายสุดอย่าง “คิงกิโดร่า 3 หัว” เมื่อสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่คิดว่ามีเพียงในตำนานได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ พวกเขาต้องต่อสู้กันเพื่อชิงอำนาจ ทำให้ความสมดุลแห่งความอยู่รอดของมนุษย์เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย

หนังทำออกมาสนุก บู๊กัดกันตลอดเรื่อง อสูรกายทั้งหลายทำออกมาเนียน สวยงาม ฉากต่อสู้ดุเดือดสะใจและโหดดี ส่วนบทภาพยนตร์ค่อนข้างดี ดูแล้วไม่งง ทำให้เข้าใจทุกคน และพฤติกรรมของอสูรทุกตัวด้วย สำหรับนักแสดงนำเล่นได้แค่พอใช้ไม่ค่อยอินเท่าที่ควร โดยเฉพาะนักแสดงนำหญิงเล่นไม่ค่อยได้อารมณ์เลย

ติดให้ *** ครึ่ง

                        มงคลภาพยนตร์ พาคอหนังพบภาพยนตร์ที่สร้างจากมังงะอันโด่งดัง มาเป็นอนิเมะ เรื่อง“Back Street Girls : Gokudols” นำแสดงโดย ชิราสุ จิน รับบท ยามาโมโตะ เคนทาโร่ หรือ ไอริ(ชื่อหลังแปลงเพศ), ฮานาซาว่า มาซาโตะ รับบท ทาจิบานะ เรียว หรือ มาริ(ชื่อหลังแปลงเพศ), มาซากิ เรยะ รับบท สุงิฮาระ คาซุฮิโกะ หรือ จิกะ(ชื่อหลังแปลงเพศ), โอคาโมโตะ นัตซุมิ รับบท ยามาโมโตะ ไอริ(ยามาโมโตะ เคนทาโร่), มัตซุดะ รุกะ รับบท ทาจิบานะ มาริ(ทาจิบานะ เรียว), ซากาโนะอุเอะ อากาเนะ รับบท สุงิฮาระ จิกะ(สุงิฮาระ คาซุฮิโกะ) และนักแสดงสมทบ สึกายะ เท็ตสึยะ, อาซาคาว่า นานะ, โอซาวะ ฮิโตชิ, ซากุราดะ โดริ, โอซุงิ เร็น, อิวากิ โคอิจิ โดยผู้กำกับ ฮาระ เคโนะซุเกะ(ผลงานก่อนหน้าที่เป็นที่รู้จักในไทย ภาพยนตร์ Zenin, Kataomoi part. Kataomoi Supairaru(2016), ทีวีซีรีส์ Arakawa Under the Bridge(2011) เขียนบทโดย จัสมิน กิวห์(นักเขียนมังงะ Back Street Girls ต้นฉบับภาพยนตร์), มัตซุโมโตะ โชอิจิโร่, อิโตะ ฮิเดฮิโระ(ผลงานก่อนหน้านี้กับภาพยนตร์ Zenin, Kataomoi part. Radio Personality(2016), The Tiger Mask(2013) เรื่องราวของ 3 หนุ่มจากแก๊งยากุซ่า เคนทาโร่ (“ลูกพี่”) เรียว (รองหัวหน้า) และ คาสุฮิโกะ (“คาสุ”) ที่ดันไปทำเรื่องไม่ดี ๆ เข้า จนหัวหน้าของพวกเขารู้สึกไม่พอใจจนอยากจะสั่งฆ่าตัดตอนลูกกระจ๊อกทั้ง 3 คน แต่ด้วยไอเดียบรรเจิดของหัวหน้าที่พวกเขาเรียกว่า ป๊ะป๋า ที่เคยเห็นวงไอดอลอย่าง AKB48 ประสบความสำเร็จ เขาจึงสั่งให้พวกเขาเลือกว่าจะยอมตายหรือไปผ่าตัดเพศที่ประเทศไทย แล้วกลายเป็นไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปร้องเพลงอยู่บนเวที? 3 หนุ่มจำใจเลือกอย่างหลัง แล้วก็เกิดเป็นกลุ่มไอดอลที่ชื่อว่า“โกคุดอลส์”

หนังสร้างปมตัวละครแต่ละตัวจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต มีการดำเนินเรื่องที่แสนจะหลุดโลกและบ้าบอ หากใครรับได้กับหนังที่หาเหตุผลไม่ได้แต่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันแบบมังงะที่ออกแนวเวอร์เกินจริง ถือเป็นหนังดูสนุกและเพลินไปกับมันเลยทีเดียว และหนังมีเพลงเพราะและติดหูดี มีการเต้นที่สุดแสนจะน่ารักของ Girls Group แค่นี้ก็คุ้มแล้ว แต่ถ้าคุณเป็นโอตะน่าจะฟินจนเกินคุ้ม แต่ก็มีส่วนที่ไม่ชอบคือฉากต่อสู้ตะลุมบอนที่ดูยุ่งเหยิงและไม่รู้เรื่องเป็นส่วนเกินจริงของหนัง แต่อย่าลืมว่า มันคือมังงะมาก่อน มันจะเป็นส่วนที่สนุกและฮาของหนังเรื่องนี้เลยทีเดียว

ติดให้ ****

         “บางกอกสยอง Bangkok Dark Tales” ผลงานกำกับของ อนุสรณ์ สร้อยสงิม, อัลวา ริตศิลา, ธาลวิมล อ่อนพาปลิว ได้นักแสดงอาทิ ญี่ปุ่น ณภัทร, ปริม กรวรรณ, เชอรีน ณัฐจารี หรเวชกุล ว่าด้วยเรื่องราวของ 3 เรื่องสยอง 3 สถานที่สุดเฮี้ยนที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร อย่างตอน ออฟฟิศหวีดสยอง : แก้ม  สาวออฟฟิศนิสัยทะเยอทะยาน ที่ต้องทํางานในวันสิ้นปีเพื่อแลกกับอนาคตและตําแหน่งงานที่ดีขึ้น โดยเพื่อนร่วมงานของเธอเพิ่งตายในที่ทํางานก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน / ตอน บ้านผีเฮี้ยน : บี และ แอน  2 นักศึกษาสาวเพื่อนซี้เข้ากรุงเทพเพื่อมาทํางานพิเศษแต่ดันมาเช่าบ้านที่มีประวัติสุดสะพรึง เรื่องราวหลอนๆ ฮาๆ จึงเกิดขึ้น และตอน ผีโรง 5  : ออย สาวสก๊อยนัดเสี่ยกํามะลอมาดูตัวกันที่โรงภาพยนตร์หวังจะมีซัมติง ที่ไหนได้กลับแอบเข้าไปในโรงที่เขาห้ามเข้า โรงเปล่าที่ปิดตายฉายหนังวนทิ้งไว้ไร้คนดูเรื่องราวขนหัวลุกจึงบังเกิด

หนังทำออกมาแนวดูไปเรื่อย ๆ น่ากลัว โหดพอใช้ได้ มี 3 ตอน เหมือน ผี 3 บาท เนื้อเรื่องต่างสถานที่กันไป มีที่ทำงาน โรงหนัง บ้าน ส่วนบรรยากาศและสถานการณ์ทำออกมาน่ากลัวแตกต่างกันไป สำหรับบทภาพยนตร์ทำได้ดี ดูรู้เรื่องเข้าใจง่าย แต่ก็คาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อยากเหมือนกัน ซึ่งแต่ละเรื่องมีจุดที่เริ่มต้นเจอสิ่งที่น่ากลัวเหมือน ๆ กัน นักแสดงนำเล่นได้พอใช้ 2 ตอนแรก ส่วนตอนท้ายนั้นนักแสดงนำเล่นได้ดีทีเดียว

ติดให้ ***