หนังดีติดดาว

หนังดีติดดาว

 

โมโน ฟิล์ม ส่งภาพยนตร์ที่ตีแผ่เรื่องจริงของคนต่างขั้ว ในThe Upside ดิ อัพไซค์” สุดยอดภาพยนตร์ดราม่า คอมเมดี้ ที่ครองใจผู้ชมมาแล้วทั่วยุโรป นำแสดงโดย ไบรอัน      แครนส์ตัน, เควิน ฮาร์ต ร่วมด้วยนักแสดงระดับซุปตาร์ของฮอลลีวูดอย่าง นิโคล คิดแมน  กำกับโดย นีล เบอร์เกอร์ก เรื่องราวความผูกพันที่ไม่น่าเกิดขึ้นจริง ระหว่าง ฟิลิป มหาเศรษฐีผู้พิการจากอุบัติเหตุ ทำให้เขาเป็นอัมพาตเกือบทั้งตัวและใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิตอยู่บนรถเข็น จนกระทั่งได้มาเจอกับ เดลล์ อดีตผู้ต้องขัง ตกงาน ต้องการเริ่มต้นชีวิตใหม่ และจู่ๆ คนสองคน ที่ต่างกันสุดขั้ว ก็ได้มาร่วมงานกัน เดลล์มาเป็นพยาบาลส่วนตัวฟิลลิปอย่างไม่ตั้งใจ แต่เป็นความเต็มใจของนายจ้างอย่างฟิลลิปที่ต้องการเขามาดูแล ถึงแม้จะถูกคัดค้านจาก ยีวอน เลขาส่วนตัวของเขาก็ตาม ซึ่งมันเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพที่มาจากความแตกต่างและก่อให้เกิดความผูกพันอันแน่นแฟ้น

หนังถ่ายทอดเรื่องราวจากชีวิตจริงได้ออกมาดีมาก ทำให้เข้าใจในความรู้สึกที่มีต่อกัน ความสัมพันธ์ที่เติมเต็มให้แก่กัน เพื่อชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น ความแตกต่างของฐานะ สังคม ที่สามารถปรับตัวเข้าหากันได้อย่างลงตัว บทภาพยนตร์ดีมาก นักแสดงนำ โดยเฉพาะ ไบรอัน แครนสตัน ที่แสดงเป็นคนพิการเล่นได้ผ่าน สื่อออกทางสีหน้าดีมากๆ ถึงแม้ร่างกายจะขยับไม่ได้เลย ก็บอกถึงสิ่งที่ต้องการทำอย่างมาอย่างชัดเจน

ติดเต็ม *****

 

 

1m-alita



ได้เวลาระเบิดความมันซะใจในจอแล้ว สำหรับภาพยนตร์ผลงานจากผู้อำนวยการสร้าง Avatar และ Titanic และผู้กำกับ Sin City ล่าสุดกับAlita: Battle Angel – อลิตา แบทเทิล แองเจิ้ล” เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 26 เล่าถึงเรื่องราวของไซบอร์กสาว อลิตา(โรซา ซาลาซาร์) ที่ถูก ดร.ไดสัน อิโดะ(คริสตอฟ วอลท์ซ) ศัลยแพทย์ไซบอร์กเก็บมาจากกองขยะแล้วช่วยซ่อมร่างของเธอให้ หลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมาเธอจำได้เพียงอย่างเดียวคือทักษะการต่อสู้รูปแบบเฉพาะของดาวอังคารที่หายสาบสูญไป แล้วเธอก็กลายมาเป็นนักล่า-นักรบ ที่คอยตามไล่ล่ากำจัดเหล่าอาชญากรชั่วร้าย พร้อมเดินทางค้นหาตัวตนของเธอที่สูญหายไปด้วย

          หนังทำออกมาสนุกมากๆ ฉากต่างๆ สวยงาม เหมือนโลกจริง ตัวเอก อลิตา มีอารมณ์สีหน้าการเคลื่อนไหวแบบมีชีวิตจริงๆ ดวงตาที่ใหญ่โต ทำให้ดูน่ารักเป็น นางฟ้า ขวัญใจสายโหด ได้ไม่ยาก ตัวจักรกลต่างๆ ที่เอามารวมกับมนุษย์ทำออกมาได้สวยงามเนียนตา ดูเป็นอวัยวะเดียวกับตัวละครจริงๆ ฉากการต่อสู้โหดสะใจมาก บางครั้งดูรุนแรงไปหน่อย คล้าย Transformers ฉบับตัวเล็กลง และมีหน้าตาแบบมนุษย์ผสมเข้าไป บทภาพยนตร์ดีมากๆ ดูสนุกตลอดทั้งเรื่อง

ติดเต็ม *****

 

 

1m-friendzone

         จีดีเอช เปิดตัวภาพยนตร์โรแมนติก คอมเมดี้เรื่องแรกของปี 2562 ที่กวาดรายได้ร้อยล้าน สำหรับFriend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน” โดยผู้กำกับมากฝีมือ หมู-ชยนพ บุญประกอบ ที่เคยฝากผลงานมาแล้วจาก SuckSeed ห่วยขั้นเทพ, เมย์ไหน..ไฟแรงเฟร่อ และ พรจากฟ้า กลับมาครั้งนี้มาพร้อมพระเอกคู่บุญ นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ ร่วมด้วยนางเอกสุดฮอต ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ และ เจสัน ยัง ฯลฯ ร่วมด้วยนักร้องชื่อดังจากต่างประเทศ  กับเรื่องราวของ ปาล์ม(นาย-ณภัทร) เพื่อนสนิทของ กิ๊ง(ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก) ทั้งสองสนิทกันมานาน 10 ปี ปาล์มเคยพยายามจะสารภาพรักกับกิ๊งตั้งแต่ตอน ม.ปลาย แต่ถูกกิ๊งปฏิเสธ ด้วยคำว่า“เป็นเพื่อนกันก็ดีอยู่แล้ว” นับจากวันนั้น ปาล์มกับกิ๊งก็เป็นยิ่งกว่าเพื่อนสนิท ทุกครั้งที่ปาล์มเลิกกับแฟนไม่ว่ากี่คนต่อกี่คน กิ๊งก็จะคอยด่าเตือนสติ และถ้ากิ๊งมีปัญหาทะเลาะกับแฟน ไม่ว่ากิ๊งจะอยู่ที่ไหน สจ๊วตอย่างปาล์มก็พร้อมจะบินไปหาทันที ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความใจดีเหนือขีดจำกัดนี้หรือเปล่า ที่ทำให้เมื่อกิ๊งมีปัญหากับพี่เท็ด (เจสัน ยัง) แฟนคนปัจจุบัน จู่ๆ กิ๊งก็ถามปาล์มขึ้นมาว่า“แกเคยคิดไหม..ถ้าเราสองคนเป็นแฟนกันจะเป็นยังไง”

หนังทำออกมาสนุกตั้งแต่นาทีแรก เป็นการเล่าเรื่องย้อนหลัง 10 ปี ผ่านการพูดคุยที่ได้อารมณ์มาก นักแสดงนำทุกคนเล่นถึงอารมณ์ สอดแทรกความเฮฮาสุดๆ ส่วนใบเฟิร์นเล่นเต็มที่ ทำทุกอย่างได้หมด ไม่ห่วงสวยหรือเรียบร้อยเลย บทภาพยนตร์ดีมาก ทำให้เห็นถึงมิตรภาพ ความรัก กาลเวลา มีคุณค่าแค่ไหน ส่วนเพลง‘คิดมาก’ เวอร์ชั่นหลากหลายภาษาของแต่ละประเทศ ทำออกมาได้ไพเราะลงตัวมากๆ เหมาะชวนเพื่อนที่สนิทและชอบไปดู เชื่อว่าอินแน่ และคิดว่ายังมีเพื่อนที่อยู่โซนแบบนี้

ติดให้ ****

 

เฉลยคำถาม“MARY POPPINS RETURNS” : เอมิลี่ บลันท์

 

คำถามภาพยนตร์เรื่อง“Friend Zone” 2 นักแสดงนำคือใคร?

ทราบคำตอบเขียนชื่อ – ที่อยู่และคำตอบให้ชัดเจน ลงไปรษณียบัตร ส่งมาที่

หนังดีติดดาว

เลขที่ 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

ผู้ตอบถูก 3 ท่าน ได้ของรางวัลจาก จีดีเอช (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)

 

 

 

1m-cafe

 

มงคลภาพยนตร์ พาคุณสัมผัสความหอมละมุนของCafe Funiculi Funicula” ที่นำแสดงโดย โทคิตะ คาซึ สาวสวยอ่อนหวาน ที่ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้นจากทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ยังมีนักแสดงดังมากความสามารถ ไม่ว่าจะเป็น นิชิดะ ยูริโกะ, ยาคุชิมารุ ฮิโรโกะ, โยชิดะ โย, มัตสึชิเกะ ยูทากะ และนักแสดงที่หาตัวจับยากอย่าง ฮารุ, อิโต้ เคนทาโร่, ฮายาชิ เคนโตะ, ฟุคามิ โมโตกิ และ มัตสึโมโตะ วากานะ ผลงานกำกับภาพยนตร์ครั้งแรกของ ซึกาฮาระ อายูโกะ ที่เคยฝากผลงานกำกับละครชื่อดังไว้มากมาย Reverse (TBS / 2017), Juuhan Shuttai! (TBS / 2016), N no Tame ni (TBS / 2014), Yakou Kanransya (TBS / 2013) และ Unnatural (TBS / 2018)  ซึ่งเป็นหนังญี่ปุ่นที่ชื่อแปลกมากจริงๆ อาริมุระ คาสึมิ เวลาเธอชงกาแฟจะช่วยพาคนย้อนอดีตกลับไปได้ แต่มีข้อแม้อยู่ว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ และอยู่ในอดีตได้เพียงแค่ชั่วเวลากาแฟในแก้วนั้นเย็นตัวลงเท่านั้น

หนังเล่าเรื่องของคนกลุ่มหนึ่ง ที่ใช้ร้านกาแฟแห่งนี้ย้อนเวลาไปในอดีต เพื่อพบเจอใครบางคนและแก้ไขบางอย่าง เป็นหนังที่ค่อนข้างดูยาก เพราะตัดสลับระหว่างพล็อตหลักและพล็อตรองที่ใช้ตัวละครหลักและตัวละครรองเป็นตัวเดินเรื่องที่ไม่ค่อยราบรื่นนัก แถมเพลงประกอบที่ไม่เข้ากับฉากและอารมณ์ในหลายๆ ครั้ง ทำให้อารมณ์สะดุด จริงๆ หนังมีประเด็นดีพูดถึงการย้อนเวลา ซึ่งในชีวิตจริงก็คงไม่สามารถย้อนเวลาไปแก้ไขสิ่งที่เคยทำผิดพลาดได้ แต่น่าเสียดายมีประเด็นเยอะแยะ ทำให้การเล่าเรื่องกระท่อนกระแท่นจนอารมณ์สะดุด

ติดให้ **

 

 

1m-journey

 

มงคลเมเจอร์ พร้อมส่งThe Extraordinary Journey of the Fakir” ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนิยายเรื่อง The Extraordinary Journey of the Fakir Who Got Trapped in an Ikea Wardrobe (หรือชื่อภาษาฝรั่งเศสว่า L’ extraordinaire voyage du fakir qui était resté coincé dans une armoire Ikéa) ของนักเขียนชาวฝรั่งเศส โรแมง ปัวโตลาส เมื่อปี 2014 เป็นนิยายขายดีที่ถูกนำไปแปลขายในอีก 36 ประเทศทั่วโลก  หนังกำกับโดย เคน สก็อต นำแสดงโดย ดานุช (Dhanush) จากหนังเรื่อง Raanjhanaa (2013) เขาคือนักทำหนังชาวอินเดียผู้มีความสามารถหลากหลาย เป็นทั้งนักแสดง ผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับ คนเขียนบท คนเขียนบท และนักแต่งเพลง แต่เขาอาจไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเท่ากับดาราอินเดียหลายคน ร่วมด้วยนักแสดงชั้นแนวหน้าที่มาช่วยสมทบหนังผจญภัยฟีลกู้ดเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็น เบเรนิซ เบโย (จาก The Artist (2011), The Past (2013), อีริน โมริอาตี้ (จาก Captain Fantastic (2016), บาขาห์ด อับดี (จาก Captain Phillips (2013) และ เจอราร์ด ยักโนต์ นักแสดงอาวุโสจาก French Fried Vacation (1978) และ The Choras (2004)  เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่ม อาจา พาเทล อาศัยอยู่ในสลัมมุมไบมาทั้งชีวิต คอยหาเลี้ยงชีพด้วยการเล่นมายากล หลอกผู้คนว่าเป็นผู้วิเศษไปวันๆ แต่หลังจากแม่ของเขาเสียชีวิตลง เขาก็ตัดสินใจออกเดินทางไปฝรั่งเศส เพื่อตามหาพ่อที่แท้จริงของเขา และเขาไม่คาดคิดเลยว่าการออกเดินทางในครั้งนี้ จะทำให้เขาได้พบกับประสบการณ์และเรื่องตื่นเต้นมากมายรวมถึงความรัก

หนังมีทีเล่นทีจริงในการเล่าเรื่อง หลายสิ่งหลายอย่างดูไม่น่าจะเป็นจริงได้ในโลกนี้ ความโลกสวยมาเต็มมากๆ เสียจนรู้สึกว่ามันบดบังความสมจริงและน่าเชื่อถือพอสมควร ตั้งแต่เรื่องราวของตัวละครหลักที่ดูไม่น่าเป็นไปได้ ดูบังเอิญและจงใจให้เรื่องจบลงง่ายเกินไปหลายครั้ง แต่ก็อยากรู้ว่าจะจบยังไง ยอมรับภาพสวย สีสันสดใสสมกับเป็นหนังโลกสวย เพลงประกอบที่เล่นด้วยเครื่องดนตรีอินเดียผสมเครื่องดนตรีสากลเข้ากันดี คือกิมมิกของความเป็น Hollywood ที่ผสมผสานความเป็น Bollywood ได้ลงตัว

ติดให้ * ครึ่ง

 

 

1m-sunny

 

มงคลภาพยนตร์ พร้อมแล้วส่งSUNNY วันนั้น วันนี้ เพื่อนกันตลอดไป” ภาพยนตร์วัยรุ่นแนวดนตรี ที่รวมเอาสุดยอดนักแสดงมากหน้าหลายตาไว้ด้วยกัน โดยผู้กำกับโอเนะ ฮิโตชิ ที่เคยฝากผลงานกำกับในละครเรื่อง Moteki (2010) และ Moteki (2011) ฉบับภาพยนตร์ มาช่วยกำกับและเขียนบทภาพยนตร์ให้ในคราวเดียวกัน อำนวยการสร้างและวางแผนการผลิตโดย โปรดิวเซอร์ คาวามุระ เก็งคิ ขนนักแสดงดังอาทิ ชิโนฮาระ เรียวโกะ รับบท นามิ ยุคปัจจุบัน, ฮิโรเสะ ซึสึ รับบท นามิ ยุค 90s, อิทายะ ยูกะ รับบท เซริกะ ยุคปัจจุบัน, ยามาโมโตะ ไมกะ รับบท เซริกะ ยุค 90s, โคอิเกะ เอโกะ รับบท ยูโกะ ยุคปัจจุบัน, โนดะ มิโอะ รับบท ยูโกะยุค 90s, โทโมซากะ ริเอะ รับบท โคโคโระ ยุคปัจจุบัน, ทานาเบะ โมโมโกะ รับบท โคโคโระ ยุค 90s, วาตานาเบะ นาโอมิ รับบท อุเมะ ยุคปัจจุบัน, โทมิตะ มิอุ รับบท อุเมะ ยุค 90s, อิเคดะ เอไลซ่า รับบท นานะ ยุคปัจจุบัน ร่วมด้วย ลิลลี่ แฟรงกี้ รับบท นาคางาวะ นักสืบที่นามิจ้างให้ช่วยตามหาตัวสมาชิกวง Sunny และวาตารุ, มิอุระ ฮารุมะ รับบท ฟุจิอิ วาตารุ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 รักแรกของนามิ พี่ชายของอุเมะเพื่อนของเธอ  กับเรื่องราวช่วงปี 90s ยุครุ่งเรืองของดนตรี J-POP ในขณะที่นักเรียนหญิงมัธยมปลายทั่วญี่ปุ่นต่างนิยมใส่ถุงเท้าหลวมๆ แต่มีกลุ่มเพื่อนสาวกลุ่มหนึ่งที่อุทิศชีวิตวัยรุ่นให้กับดนตรี พวกเธอตั้งวงที่มีสมาชิก 6 คนขึ้นมาโดยใช้ชื่อวงว่า “Sunny” จนกระทั่งเวลาผ่านไป 22 ปี แต่ละคนต่างก็อยู่ในวัยผู้ใหญ่และเผชิญปัญหาแตกต่างกันออกไป วันหนึ่ง นามิ ซึ่งเป็นแม่บ้านเต็มตัวได้บังเอิญเจอกับ เซริกะ เพื่อนเก่า ทว่าเซริกะได้ป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ไม่มีทางรักษาหาย สิ่งที่เธอบอกกับนามิในตอนนั้นคืออยากเจอเพื่อนร่วมวงอีกสักครั้งก่อนตาย นามิจึงเริ่มทำทุกวิถีทางเพื่อให้เซริกะสมหวัง ด้วยการตามหา“SUNNY” ทั้ง 6 คน ที่ครั้งหนึ่งเคยสนิทกันมากจะกลับมารวมตัวกันเพื่อเซริกะอีกครั้ง
หนังทำออกมาโดนใจวัยเก๋า ชวนให้ระลึกถึงอดีต เมื่อครั้งวัยรุ่นได้สนุกมาก เข้าถึงอารมณ์สุดๆ นักแสดง ทุกช่วงวัย เล่นได้เป็นธรรมชาติ เนื้อเรื่องร้อยเรียงดูสนุก ตัดไปมา ระหว่างวัยได้เยี่ยมลงตัว บทภาพยนตร์ดีมากๆ เรียบเรียงเรื่องราวได้น่าประทับใจ ทั้งสอดแทรกแง่คิดดีๆ มุมมองการดำเนินชีวิตดีๆ เป็นตัวอย่างที่ดีให้วัยรุ่นได้นำไปเป็นแบบอย่างดีๆ ใครมีเพื่อนสมัย ม.ปลายที่ยังคบหากันอยู่ก็ชวนกันไปดู อาจจะเหมือนชีวิตที่ผ่านมาของตนก็ได้

ติดให้ **** ครึ่ง

 

 

 

1m-%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b9%87%e0%b8%99%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%a9%e0%b8%b2


          เอ็ม พิคเจอร์ส และ M39 ส่งภาพยนตร์รักคอมเมดี้ “รักไม่เป็นภาษา” หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า London Sweeties ได้นักแสดงวัยรุ่นและมากฝีมือมาถ่ายทอด อย่าง โบว์ เมลดา, ฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์, เบสท์ ณัฐสิทธิ์, ซุง กิดาการ, แอริน ยุกตะทัต, ปริม อัจฉรียา และพระเอกใหม่ แม็กส์ อชิระ เอทเตอร์ จากการคุมงานสร้างของ เรียว กิตติกร เลียวศิริกุล ว่าด้วยเรื่องราวของ พรอน สาวสุดเพี้ยนที่เมื่อเจอความกดดันเมื่อไหร่เป็นต้องเผลอพูดเป็นคำผวนทุกที พรอนแอบหลงรัก ป๊อป รุ่นพี่สุดฮอตในที่ทำงานที่เธอกำลังฝึกงานอยู่ ทุกอย่างเหมือนจะไปได้ดี แต่พรอนต้องเดินทางไปอังกฤษแบบกะทันหัน เพราะ เพ็ญ พี่สาวสุดที่รักกำลังจะแต่งงานสายฟ้าแลบกับ ไมเคิล หนุ่มอังกฤษผู้อ่อนโยนที่คบหากันได้เพียง 7 วัน การเดินทางไกลครั้งแรกของพรอนจึงได้เริ่มต้นขึ้น ชีวิตพรอนในลอนดอน มีเรื่องให้ลุ้นระทึกได้ทุกวัน เพ็ญบังคับให้พรอนไปเรียนคอร์สฝึกพูดภาษาอังกฤษ แล้วหลอกเธอว่าอาการเพี้ยนๆ ของเธอจะหาย ถ้าเธอมีแฟนเป็นฝรั่ง ยิ่งเมื่อเธอได้เจอแก๊งเพื่อนใหม่สุดป่วนอย่าง โบ้, จู๊ด และ อองตวน ในโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ จนกลายเป็นยัยเพี้ยนพรอนแอนด์เดอะแก๊ง

หากใครเคยดูหนังรักขึ้นหิ้งเมื่อ 10 กว่าปีก่อนเรื่อง Love Actually มีคู่รักคู่นึงที่คล้ายๆ กันและฉากหลังเป็นลอนดอน นี้อาจเป็นแรงบันดาลใจของทีมงานก็ได้ เป็นหนังดูสนุกเพลินๆ ไม่ต้องคิดเยอะ ภาพสวยคมชัด หนังว่าด้วยเรื่องของคนไทย 3 คนที่กลัวการใช้ภาษาอังกฤษ หนังจะบอกว่าความรักเป็นภาษาที่มนุษย์ทั้งโลกสื่อสารกันได้ โดยไม่ต้องพูดออกมาก็เข้าใจ ที่ผ่านมา M39 ทำหนังไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ครั้งนี้ถือว่าสอบผ่าน หนังสนุก ภาพเมืองลอนดอนสวย และเพลงประกอบเพราะ

ติดให้ *** ครึ่ง

 

 

1m-onthebasis

 

มงคลเมเจอร์ ส่งภาพยนตร์ดราม่าเรื่องOn The Basis of Sex” ของผู้กำกับ มิมิ ลีเดอร์ คว้านักแสดงอย่าง เฟลิซิตี้ โจนส์, อาร์มี แฮมเมอร์, จัสติน เธอโรซ์, แจ็ก เรย์เนอร์, เคลี สแปนี, แซม วอเตอร์สตัน, เคธี เบตส์  เล่าเรื่องในช่วงที่ รูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก ยังเป็นอัยการไฟแรงและคุณแม่มือใหม่ เธอต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายในการต่อสู้เพื่อสิทธิความเท่าเทียม เมื่อรูธต้องทำคดีภาษีร่วมกับสามีของเธอ อัยการ มาร์ติน กินส์เบิร์ก ซึ่งเธอรู้ว่าคดีนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอาชีพและมุมมองที่ศาลมีต่อความเท่าเทียมกันเรื่องเพศ
เป็นหนัง biography ที่พูดถึงชายหนุ่มผู้เป็นสามีและภรรยา ประกอบอาชีพทนายความในยุค 60’s – 70’s หนังพูดถึงสิทธิเสรีภาพอันพึงมีไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็แล้วแต่ และเสรีภาพนั้นกลับถูกจำกัดและขัดขวางด้วยกฏหมายที่เก่าแก่และล้าสมัย ทั้งคู่จึงลุกขึ้นสู้กับระบบเพื่อสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับสังคมที่จะส่งผลต่อไปยังลูกหลานในอนาคต หนังทำได้ดีในระดับนึง มีจังหวะเนือยๆ อยู่บ้างเพราะพูดเยอะกว่าแอคชั่น แล้วหนังค่อนข้างจะไกลตัวคนไทยด้วย

ติดให้ **

 

 

1m-replicas

 

โมโนฟิล์ม ส่งภาพยนตร์แนวแอคชั่นไซไฟ ที่เกิดจากไอเดียของ คีอานู รีฟส์ และ สตีเฟ่น อาเมล ในReplicas: เรพลิกาส์ พลิกชะตา เร็วกว่านรก” ร่วมด้วย อลิซ อีฟ (Star Trek: Into Darkness), โทมัส มิดเดิลดิชท์ (Silicon Valley) กำกับโดย เจฟฟรีย์ นาชมานอฟ  เรื่องราวของ วิลเลียม ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยา ที่สูญเสียครอบครัวไปกับอุบัติเหตุ และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อนำครอบครัวเขากลับมาเหมือนเดิม แม้จะต้องแลกด้วยการฝืนคำสั่ง การแหกกฎ รวมทั้งการหลบหนีการไล่ล่าอย่างบ้าระห่ำ

พล็อตไม่ได้แปลกใหม่ เป็นเรื่องของการโคนนิ่ง ที่นำวิวัฒนาการโดยนำความจำจากสมองของคนตายทำให้ฟื้นคืนกลับมาในรูปแบบโคนนิ่ง ถือว่าพล็อตไม่ได้แปลกอะไร เพียงแต่ได้คีนู ที่โชว์เทคนิคกราฟฟิศแทบจะลอกไอรอน แมนมาเลยกับท่าทาง นอกนั้นไม่มีอะไร เอะอะก็แตะจอๆ แถมลุคคีนูก็ไม่ต่างนึกว่าจอห์น วิคมาเอง หนังแทรกเรื่องราวของพ่อที่สูญเสียครอบครัว พยายามหาทางคืนชีพเมียและลูกกลับมาด้วยวิธีไฮเทค ไม่มีฉากซึ้งเท่าไหร่ เน้นเทคโนยีทันสมัยมากกว่า แถมจบก็ทื้อเกินเดาเรื่องได้

ติดให้ **

 

 

1m-glass

 

ผลงานล่าสุดของผู้กำกับ เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน เรื่องGlass คนเหนือมนุษย์” ของค่าย Walt Disney Studios ได้นักแสดงดังร่วมงาน บรูซ วิลลิส, ซามูเอล แอล. แจ็คสัน, เจมส์ แม็กอะวอย, ซาราห์ พอลสัน, อันยา เทย์เลอร์-จอย จากเรื่อง Split ปี 2016 ชายผู้ใกล้เคียงกับคำว่าปีศาจมากที่สุด เขาเป็นผู้มีบุคลิกที่หลากหลายกว่า 23 บุคลิก และบุคลิกที่ 24 ที่น่ากลัวที่สุดของเขาก็ได้ตื่นขึ้นมา ทำให้เดวิด ชายผู้ใกล้เคียงกับคำว่าฮีโร่มากที่สุด เพราะเขามีความสามารถในการมองเห็นอดีตของคนได้โดยการสัมผัส อีกทั้งตัวเขายังเป็นมนุษย์ที่แข็งแกร่ง ไม่ยอมหัก ไม่ยอมตายอีกด้วย และสุดท้าย เอลิจาห์ ชายผู้ใกล้เคียงกับคำว่า วายร้ายมากที่สุด เขาเป็นชายที่ร่างกายอ่อนแอมากๆ กระดูดหักง่าย แต่มันก็แลกมาด้วยความฉลาดมากๆ ที่เขามี เขาผิดหวังจากโลกจึงทำให้ความคิดของเขากลายเป็นวายร้าย เขากำลังจะกลับมาพร้อมคนมีพลังที่น่ากลัวที่อยู่ในจักรวาลเดียวกัน…

หนังทำออกมาให้ต้องคิดเยอะ โดนเฉพาะตัวที่มี 24 บุคลิก เปลี่ยนบทไวมาก จนบางครั้งก็ตามไม่ทัน การแสดงพลังเหนือมนุษย์ แลดูเป็นจริงได้มากขึ้น ทรงพลังและซับซ้อน ไม่ได้ดูโอเวอร์จนเกินไป คล้ายๆ เริ่มมีวิวัฒนาการ ฉากต่างๆ ทำได้โอเค บทภาพยนตร์ดีมาก เรียบเรียงให้เข้าใจทุกอย่างได้ในที่สุด นักแสดงนำทุกคนเล่นได้สมบูรณ์แบบ

ติดให้ ****

 

 

1m-galveston

มงคลเมเจอร์ ส่งหนังGalveston” เป็นหนังภาษาอังกฤษเรื่องแรกที่กำกับโดย เมลานี่ย์ โลรองต์ (Mélanie Laurent) นักแสดงสาวชาวฝรั่งเศสที่อาจจะเคยผ่านตากับ Inglorious Bastards โดยได้ชิมงานกำกับในฝรั่งเศสถึง 2 เรื่อง ซึ่งหนังได้นักแสดง เบน ฟอสเตอร์, แอลล์ แฟนนิ่ง ร่วมด้วย อนิสตัน และ ทินสลี่ย์ ไพรซ์  เรื่องราวของนักฆ่าฝีมือดี รอย โคดี้ ได้รับแจ้งว่าเขาป่วยเป็นมะเร็งปอดและกำลังจะตายในไม่ช้า หลังรู้ข่าวร้ายไม่นาน รอยถูกเจ้านายสั่งให้ไปเก็บเป้าหมายโดยห้ามใช้ปืนซึ่งเขาหารู้ไม่ว่าจริงๆ แล้วนั่นคือแผนการของเจ้านายเพื่อเก็บเขาแทน แต่นอกจากรอยจะหนีออกมาได้แล้ว เขายังช่วยเหลือ ร็อคกี้ หญิงสาววัย 19 ที่ถูกจับตัวไว้ที่นั่น ทั้งคู่เดินทางออกนอกเมืองไปยัง กัลเวสตัน บ้านเกิดของรอย ซึ่งเขากะจะกบดานอยู่ที่นั่นแล้ววางแผนล้างแค้น แต่การจะไปถึงกัลเวสตันไม่ง่ายอย่างที่คิด นอกจากจะถูกเหล่านักฆ่าตามล่า รอยและร็อคกี้มีเหตุให้ต้องหยุดกลางทางนั้นคือแวะรับ ทิฟฟานี่ย์ (คู่แฝด อนิสตัน และ ทินสลี่ย์ ไพรซ์) น้องสาวของร็อคกี้ร่วมเดินทางไปยัง Galveston ด้วยกัน

บอกก่อนหนังมีความเอื่อยและเนือยในการเดินเรื่อง บทสนทนามีน้อยแต่ต่อยหนักวิธีการเล่าด้วยภาพและ body language ของตัวละคร หนังพูดถึงความสัมพันธ์ของรอยและร็อคกี้ที่จับพลัดจับผลูต้องมาร่วมทางกัน แต่ในความสัมพันธ์กลับมีความผูกพันบางอย่างเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ด้วยเป็น Film noir บรรยากาศ ตัวละคร การเดินเรื่องราว ก็ออกแนวทึมๆ สว่างนิดๆ อ้อ! ชอบเทคนิคการถ่ายภาพ long take ในช่วงท้ายที่รู้สึกได้อารมณ์ตามลุ้นและเอาใจช่วยตัวละคร สำหรับเบนและแอลล์เล่นได้ถึงอารมณ์ตัวละครสีเทาในโลกอันมืดดี

ติดให้ ****

 

 

1m-%e0%b9%81%e0%b8%8a%e0%b9%88%e0%b8%87

 

“แช่ง” หนังสยองขวัญจาก บริษัท มันเวิร์ค โปรดักชั่น จํากัด ที่เคยมีผลงานหนังมาแล้วหนึ่งเรื่อง“เลิฟอะรุมิไลค รักอะไรไม่รู้” การกลับมาคราวนี้ในรูปหนังสยองขวัญแทนหนังรัก ซึ่งภาพยนตร์มี 3 ตอน กำกับโดย จิต กำเหนิดรัตน์ เริ่มที่ตอน วิปลาส นำแสดงโดย เดวิด อัศวนนท์, สนธยา ชิตมณี, ภูรดา คงเพ็ชร, เบลล่า ไรวินทร์ ตอนที่ 2 Tattoo นำแสดงโดย ชินวุฒ อินทรคูสิน และ วรรณปิยะ ออมสินนพกุล (กวาง The Face) และตอนที่ 3 คําแช่ง นำแสดงโดย  หน่อง ธนา ฉัตรบริรักษ์, พ.ต.ท.หญิง นุชพัชร วงษ์สุวรรณ, เชน อัฒรุต คงราศรี, บ๊อบบี้ นิมิตร และ ยัด เฟ็ดเฟ่

          เรื่องแรกหนังเล่าด้วยวิธีพิศดารและเล่นท่ายากพอสมควร ด้วยการปล่อยปมและประเด็นออกมาให้ฉงนกันก่อน แล้วค่อยๆ เฉลยทุกอย่างทีละน้อยๆ ส่วนความสยองขวัญจัดว่าพอใช้ได้ ส่วนเรื่องที่ 2 แนวเซ็กซี่ชวนให้หนุ่มๆ จินตนาการไปไกล ความสยองขวัญก็ไม่เท่าไหร่ ความสนุกคือได้ลุ้นว่าใครคือคนที่อยู่เบื้องหลังตัวจริง และเรื่องสุดท้ายรู้สึกว่ามันด้อยที่สุดในบรรดาสามตอน ตัวละครพูดนำความคิดตลอดเวลา ความไม่สมเหตุสมผลของเรื่อง มุกตลกที่ใส่มาอย่างกับอัดอั้นจากสองตอนแรก สิ่งที่นำเสนอหลักๆ คือ จิตใจคนนี่แหละ ที่ยากแท้หยั่งถึง!

ติดให้ * ครึ่ง

 

 

1m-%e0%b9%82%e0%b8%84%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%9e%e0%b8%a2%e0%b8%b1%e0%b8%84%e0%b8%86%e0%b9%8c

 

มงคลภาพยนตร์ ภูมิใจเสนอภาพยนตร์ของราชานักบู๊ เฉินหลง หรือ แจ็คกี้ ชาน มาสร้างเสียงหัวเราะและทำให้แฟนคลับหายคิดถึง กับภาพยนตร์แอคชั่น-แฟนตาซีฟอร์มยักษ์เรื่องล่าสุดThe Knight of Shadows: Between Yin and Yang โคตรพยัคฆ์หยินหยาง” ซึ่ง ดัดแปลงมาจากตำนานปรัมปราของจีน ว่าด้วยเรื่องราวของปีศาจและภูติผีในชุดหนังสือ “Strange Stories From A Chinese Studio” ประพันธ์โดยนักเขียนที่มีนามว่า“พู่ซงหลิง” แน่นอนว่านี่คือที่มาของ“พู่ซงหลิง” โคตรพยัคฆ์ฟัดอสูร ได้ตัวนักบู๊ระดับตำนาน เฉินหลง (Jackie Chan) มารับบทนี้! ร่วมด้วยนักแสดง หร่วน จิงเทียน 

ฉากเปิดเรื่องทั้งเปลี่ยนลุคแจ็คกี้และอัปหน้าด้วยกราฟฟิศดูละอ่อนมาก ก็ด้วยวัยและหน้าตา การต่อสู้ถดถอยตามวัย ฉะนั้นต้องพึ่งกราฟฟิศให้ดูเนียนตา ฉากอลังการมาก เสียงหัวเราะมาเป็นระยะๆ เพราะได้พันธมิตรพากย์เพิ่มความสนุกขึ้นเยอะเลย และตัวประกบแจ็คกี้มาขโมยซีนหรือเฮียตั้งใจปั้นกันแน่ ไม่ผิดหวังหนังดูเพลินๆ เสียงหัวเราะลั่นโรงถึงขั้นสำลักสำหรับกราฟฟิศตระการตา ฉากงดงาม ส่วนนักแสดงโดดเด่นคือปีศาจจิ้งจอก ถ่ายทอดสีหน้าอารมณ์ได้ดี ถือเป็นหนังดูเพลิน แทรกดราม่านิดๆ คาดว่าน่าจะมีภาคต่อนะ

ติดให้ *** ครึ่ง

 

เฉลยคำถาม“The Wife” : เกล็นน์ โคลส, โจนาธาน ไพรซ์

 

         คำถามThe Knight of Shadows: Between Yin and Yang” พู่ซงหลิงใช้สิ่งใดสะกดปีศาจ?

ทราบคำตอบเขียนชื่อ – ที่อยู่และคำตอบให้ชัดเจน ลงไปรษณียบัตร ส่งมาที่

หนังดีติดดาว

เลขที่ 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

ผู้ตอบถูก 5 ท่าน ได้ของรางวัลจาก มงคลภาพยนตร์ (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)

 

 

 

1m-girl

 

มงคลเมเจอร์ ส่งผลงานเพศที่สามกับGirl” เป็นหนังสัญชาติเบลเยี่ยม ที่เป็นตัวแทนของประเทศนี้ในการส่งเข้าชิงรางวัล Oscar สาขา Best Foreign Language Film เป็นผลงานการเขียนบทและกำกับเรื่องแรกของ ลูคัส ดอนท์ (Lukas Dhont) (เขาเขียนบทร่วมกับ อังเกโล่ ทิสเซ่นส์) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการอ่านข่าวเด็กผู้ชายวัย 15 ปีคนหนึ่ง ที่มีความฝันอยากเป็นนักเต้นบัลเล่ต์หญิง ได้นักแสดง วิคเตอร์ โพลสเตอร์ เป็นหนังเรื่องแรก ที่ได้รับบทนำ เขารับบท ลาร่า เด็กวัย 15

หนังทำออกมาได้ดีมาก แสดงให้เห็นถึงความอดทนเพื่อทำในสิ่งที่ใจอยากเป็น ถึงแม้จะทรมานมากเพียงใด แม้บางช่วงจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี แต่ก็เข้าใจถึงความฝันที่อยากเป็นหญิง ว่ามีมากเพียงใด นักแสดงนำเล่นได้ดีมากๆ สมบทบาทจริงๆ ทั้งที่เป็นผู้ชายแท้ๆ บทภาพยนตร์ดีดูแล้วอินสุดๆ บางฉาก อาจจะมีภาพโป๊นิดนึงบ้าง แต่ก็พอรับได้

ติดให้ *** ครึ่ง

 

Related posts