นิวไลน์ ซีเนม่า นำเสนอภาพยนตร์จากAn Atomic Monster/Peter Safran Production เรื่อง “The Conjuring: The Devil Made Me Do It” จัดจำหน่ายทั่วโลกโดย วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ที่นำแสดงโดย วีร่า ฟาร์ไมก้า และ แพทริค วิลสัน กลับมารับบท ลอร์เรนและเอ็ด วอร์เร็น ภายใต้การกำกับฯ ของ ไมเคิล ชาเวส (“The Curse of La Llorona”) ภาพยนตร์ยังรวมนักแสดง รูอิรี่ โอ’คอนนอร์ (ผลงานทาง Starz “The Spanish Princess”), ซาร่าห์ แคทเธอรีน ฮุค (ผลงานทาง Hulu “Monsterland”) และ จูเลียน ฮิลเลียร์ด (ซีรีส์ “Penny Dreadful: city of Angels” และ “The Haunting of Hill House”)
อำนวยการสร้างฯ โดยเจมส์ วาน และ ปีเตอร์ ซาฟราน ผู้ร่วมงานในจักรวาลภาพยนตร์ “Conjuring” ทุกตอน ชาเวสกำกับฯ จากบทภาพยนตร์ของเดวิด เลสลี่ จอห์นสัน-แม็คโกลดริค (“The Conjuring 2,” “Aquaman”) เนื้อเรื่องโดยเจมส์ วาน และ เดวิด เลสลี่ จอห์นสัน-แม็คโกลดริค สร้างอิงจากตัวละครที่แต่งขึ้นโดยแชด เฮย์ส และ แครีย์ ดับบลิว. เฮย์ส อำนวยการสร้างบริหารฯ โดยริชาร์ด บรีเนอร์, เดฟ นิวสแตดเตอร์, วิคตอเรีย พัลเมอรี่, ไมเคิล เคลียร์, จัดสัน สก็อตต์ และ มิเชล มอร์ริสซีย์ ทีมงานเบื้องหลังฝ่ายสร้างสรรค์จากจักรวาล “Conjuring” กลับมาร่วมงานในเรื่องนี้ อาทิเช่น ผู้กำกับภาพ ไมเคิล เบอร์เกส, ผู้ออกแบบฉาก เจนนิเฟอร์ สเปนซ์ ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ลีอาห์ บัตเลอร์ และผู้ประพันธ์ดนตรี โจเซฟ บิชาร่า ร่วมด้วยผู้ลำดับภาพจาก “The Curse of La Llorona” ปีเตอร์ กอซดาส ผู้ลำดับภาพ คริสเตียน แว็กเนอร์ (“Furious 7”)
“The Conjuring: The Devil Made Me Do It” เป็นผลงานเรื่องที่ 7 ในจักรวาล “Conjuring” ภาพยนตร์แฟรนไชส์สยองขวัญที่มีความยาวนานมากที่สุดในประวัติศาสตร์ กวาดรายได้ทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 1.8 พันล้านเหรียญ รวมถึงภาพยนตร์เรื่อง “Conjuring” สองภาคแรกและ “Annabelle” และ “Annabelle: Creation,” “The Nun” และ “Annabelle Comes Home”
เป็นเรื่องราวชวนหลอนเกี่ยวกับความหวาดผวา ฆาตกร และปีศาจลึกลับที่ทำให้เอ็ดและลอร์เรน วอร์เรน ผู้สืบสวนเรื่องราวเหนือธรรมชาติในชีวิตจริงต้องช็อค หนึ่งในคดีสะเทือนขวัญจากแฟ้มคดีของพวกเขา ที่เริ่มจากการต่อสู้เพื่อวิญญาณเด็กผู้ชายรายหนึ่ง พวกเขาต้องพบกับสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จนมีการบันทึกในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ เป็นครั้งแรกว่าผู้ต้องสงสัยว่าเป็นฆาตกรโดยอ้างว่าทำไปเพราะผีสิง เริ่มเปิดตัวภาพยนตร์วันที่ 4 มิถุนายน 2021 และรับชมได้ทาง HBO Max ในระบบ UHD, HDR10, Dolby Vision และ Dolby Atmos ตามอุปกรณ์ที่รองรับ 31 วันนับจากวันฉายในโรงภาพยนตร์ ภาพยนตร์ได้รับเรท R จากฉากความน่ากลัว ความรุนแรง และภาพที่ไม่น่าชม