สสว. ประกาศผลรางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ ครั้งที่ 12 และ รางวัล SME Start up ครั้งที่ 4 มั่นใจสร้างรายได้และเพิ่มยอดขายธุรกิจ SME ไทย ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ

วันนี้ (18 กันยายน 2563) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีประกาศผลและมอบรางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ ครั้งที่ 12 และรางวัล SME Start up ครั้งที่ 4 รวมทั้งสิ้น 116 รางวัล โดยมีนายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว) และนายพาณิช เหล่าศิริรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รวมทั้งสื่อมวลชนจำนวนมาก ร่วมแสดงความยินดีกับผู้ได้รับรางวัลในพิธีมอบรางวัล ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้กล่าว แสดงความยินดีกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับรางวัลว่า การส่งเสริม สนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME เป็นภารกิจเร่งด่วนของรัฐบาลมาโดยตลอด เนื่องจากผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยมีสัดส่วนต่อ GDP เท่ากับร้อยละ 33  ในไตรมาส 2 ปี 2563 สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1.4 ล้านล้านบาท และส่งเสริมการจ้างงานราว 12 ล้านคน ในปี 2562 รัฐบาล   จึงได้บูรณาการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือกันส่งเสริม สนับสนุน                เอสเอ็มอีไทยให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น  โดยมอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล โดยการอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือของภาครัฐผ่านโครงการต่าง ๆ ที่พร้อมให้การสนับสนุนตั้งแต่ระดับฐานรากและในทุกช่วงวงจรธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มช่องทางการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม ในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น

รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เผยอีกว่าในวันนี้ นับเป็นโอกาสที่ดีที่ได้มาพบกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่เป็นต้นแบบที่มีการบริหารจัดการที่ดี มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล พร้อมที่จะเป็นแบบอย่าง และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี อื่น ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเวทีการประกวดรางวัลนี้เปิดกว้างให้ทุกท่านได้เรียนรู้ตนเอง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึง การสร้างเครือข่ายทางการค้า ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อธุรกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต่อไป นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า หนึ่งในภารกิจที่สำคัญของ สสว. คือ การสรรหาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีความสามารถในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ตามมาตรฐานที่ดี มีความโปร่งใส และมีธรรมมาภิบาล เพื่อเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายอื่น ๆ รวมถึงการต่อยอดและขยายโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ได้รับรางวัลสามารถสร้างรายได้และเพิ่มยอดขายของธุรกิจเอสเอ็มอีได้

สสว. มุ่งหวังจะให้การประกวดรางวัลในครั้งนี้ เป็นการสร้างแรงจูงใจและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับธุรกิจ เอสเอ็มอีรายอื่น ๆ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินธุรกิจ พร้อมเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป

สำหรับในปีนี้ได้แบ่งการประกวดรางวัลเป็น 2 ประเภทรางวัล ดังนี้

1. รางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ ครั้งที่ 12 สำหรับผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจตั้งแต่ 3 ปี ขึ้นไป มีผู้ประกอบการผ่านการคัดเลือกให้ได้รับรางวัล จำนวน 53 ราย ได้แก่ รางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ จำนวน 10 ราย รางวัล SME ดีเด่น จำนวน 30 ราย และรางวัลมาตรฐาน SME จำนวน 13 ราย จากผู้สมัครทั้งสิ้น 1,009 ราย

2. รางวัล SME Start up ครั้งที่ 4 สำหรับผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจไม่เกิน 3 ปี มีผู้ประกอบการผ่านการคัดเลือกให้ได้รับรางวัล จำนวน 58 ราย ได้แก่ รางวัลสุดยอด SME Start up จำนวน 16 ราย และรางวัลมาตรฐาน SME Start up จำนวน 42 ราย จากผู้สมัครทั้งสิ้น 1,003 ราย

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับรางวัลทั้ง 2 ประเภท สามารถสร้างมูลค่ายอดขายรวมถึง 922 ล้านบาท และสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นได้ 219 ล้านบาท

เนื่องด้วยในปีนี้ ครบรอบ 12 ปี ของการประกวดรางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ จึงมีการมอบรางวัลพิเศษสำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ 3 ปีซ้อน จำนวน 1 รางวัล และการมอบรางวัล SME New Normal สำหรับผู้ประกอบการที่สามารถปรับธุรกิจต่อสถานการณ์ COVID-19 ได้อย่างเป็นเลิศ จำนวน 4 รางวัล

การประกวดรางวัลในปีนี้ได้แสดงถึงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อม ไปสู่ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสะท้อนบทบาทของเอสเอ็มอีไทยได้อย่างชัดเจน

Related posts